ชาวบ้านเหมารถมาช่อง 3 แก้ต่างให้ฤาษี ยันไม่เคยต้องคดีมาก่อน ชี้ปอบออกไปแล้ว อยู่ร่วมกันได้ตามเดิม
ความคืบหน้า กรณีหญิงคนหนึ่ง ชาวบ้านหนองผือ ต.หนองกุง อ.ชื่นชม จ.มหาสารคาม ถูกชาวบ้านกล่าวหาว่าเป็นปอบ โดยการชักนำของหมอธรรมของหมู่บ้าน ที่ใช้ชื่อว่า 'หมอหนุ่ยกายทิพย์' โดยมีการทำพิธีไล่ปอบกันมาตังแต่วันที่ 16 กันยายน ต่อเนื่องมานานกว่า 10 วัน จนเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ ลงพื้นที่ ทำให้พิธีไล่ปอบต้องถูกยกเลิกไป ก่อนจะมีการเปิดเผยในเวลาต่อมาว่า หมอหนุ่ยเคยต้องคดีเกี่ยวกับยาเสพติด ที่จังหวัดชลบุรีเมื่อปี 54 หลังเกิดกระแสข่าว ปรากฎว่าหมอธรรมรายนี้ได้ย้ายออกจากหมู่บ้าน ในขณะที่หญิงที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นปอบได้เดินทางไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชื่นชม ดำเนินคดีกับหมอธรรมคนดังกล่าว ในข้อหาหมิ่นประมาท
ล่าสุดเมื่อวานนี้(3 ต.ค.) ชาวบ้านหมู่บ้านหนองผือ หลายสิบคน ได้เหมารถเดินทางมาที่อาคารมาลีนนท์ พร้อมกับกลุ่มลูกศิษย์ของหมอหนุ่ย เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้หมอธรรมที่ชาวบ้านเคารพนับถือ โดยได้พูดคุยกับ คุณไก่ ภาษิต อภิญญาวาท พิธีกรรายการดีเบท ซึ่งได้ลงพื้นที่บ้านหนองผือ นำเสนอเรื่องราวที่เกิดขึ้นในรายการเมื่อช่วงที่ผ่านมา
กลุ่มชาวบ้านได้เปิดเผยกับทีมข่าวว่า สาเหตุที่ต้องมีการว่าจ้างให้หมอหนุ่ย มาทำพิธีไล่ผีปอบในหมู่บ้าน เนื่องจากมีคนตายโดยไม่ทราบสาเหตุ เชื่อว่าเป็นฝีมือของผีปีศาจ โดยหมอหนุ่ยเป็นหมอธรรมที่มีชื่อเสียงในพื้นที่ คณะกรรมการของหมู่บ้านจึงไปติดต่อให้หมอหนุ่ยมาทำพิธี จนมีการระบุว่ามีผู้หญิง 3 คนในหมู่บ้านที่ถูกปอบสิง และไปทำพิธีไล่ผีตามที่ปรากฎ แต่ยืนยันว่าทั้งหมอธรรม และชาวบ้าน ไม่เคยมีใครระบุชื่อว่าใครเป็นปอบ
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ชาวบ้านเชื่อว่าผีปอบได้ออกจากร่างหญิงคนดังกล่าวแล้ว ชาวบ้านยืนยันว่าสามารถอยู่ร่วมกับหญิงคนดังกล่าวในหมู่บ้านได้ตามเดิม ไม่ต้องไปทำพิธีไล่ผีไล่ปอบกันอีกแล้ว
ส่วนกรณีที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่า หมอธรรมรายนี้เคยมีประวัติต้องคดียาเสพติด เมื่อปี 2554 นั้น ชาวบ้านไม่เชื่อข้อมูลของตำรวจ และยังเชื่อในความบริสุทธิ์ เนื่องจากแม่ของหมอหนุ่ยได้นำเอกสารมาให้ชาวบ้านดู ยืนยันว่าไม่เคยถูกดำเนินคดี ไม่เคยติดคุกตามที่กล่าวอ้าง คนที่ถูกจับกุมเป็นคนที่ชื่อเดียวกันกับหมอหนุ่ย ชื่อนาย “กฤษณะ”
เช่นเดียวกันกับกลุ่มลูกศิษย์ของหมอหนุ่ย ที่เปิดเผยว่า เลื่อมใสศรัทธาหมอหนุ่ยมานาน 3-5 ปีแล้ว ที่ผ่านมาเมื่อมีเหตุการณ์ร้ายๆเกิดขึ้นในชีวิต จะไปสะเดาะเคราะห์แก้กรรมกับหมอหนุ่ย และจะดีขึ้นทุกครั้ง โดยค่าใช้จ่ายในการแก้กรรม พวกตนก็เต็มใจให้ ครั้งละ 300-500 บาท ตัวหมอหนุ่ยไม่เคยเรียกร้องเงินใดๆ ส่วนกรณีที่ชาวบ้านหนองผือต้องจ่ายเงินค่าไล่ปอบหลักหมื่นบาท ก็เป็นความต้องการของชาวบ้าน ที่ลงขันเรี่ยไรเงินมาให้เป็นค่าตอบแทนเอง
กลุ่มลูกศิษย์บอกอีกว่า นอกจากหมอหนุ่ยแล้ว หมอธรรมคนอื่นๆก็มีการทำพิธีไสยศาสตร์ตามความเชื่อแบบนี้กันอย่างแพร่หลาย เพียงแต่กรณีของหมอหนุ่ยเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมา เพราะมีการเผยแพร่คลิปในโลกออนไลน์เท่านั้น
ขณะที่หญิงที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นปอบโอด ตั้งแต่เกิดเรื่องเพิ่งได้ออกจากบ้านวันที่ไปแจ้งความ เพื่อนบ้านมองอย่างดูแคลน ลูกถูกเพื่อนล้อ ใช้ชีวิตลำบาก พาพิสูจน์ห้องพระที่ชั้นสองของบ้าน พร้อมยันถ้าชาวบ้านอยากจะพิสูจน์จริง ๆ อยากให้ตนเองออกไปร่วมพิธีตนก็ยินดีไป แต่ต้องไม่ใช่หมอธรรม หรือฤาษีคนนี้ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ จะได้มองหน้ากันได้อย่างสบายใจ จะได้ทำมาหากินอยู่ด้วยกันไป
ด้านทนายเกิดผล แก้วเกิด กล่าวถึงการดำเนินคดีในเรื่องนี้ว่า คำว่าผีปอบในทางกฎหมาย เป็นถ้อยคำพูดในสิ่งซึ่งไม่อาจเป็นไปไม่ได้ จึงไม่ถือว่าเป็นการหมิ่นประมาท แต่เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความผิด เรื่องการละเมิดสิทธิ และบังคับ ข่มขืนใจผู้อื่น ตามารตรา 309 ที่ระบุว่า ผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใดหรือ จำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง หรือของผู้อื่น หรือโดยใช้ กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกิน หกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ซึ่งเรื่องนี้แม้ชาวบ้านในหมู่บ้านยืนยันว่าไม่ได้กล่าวหา หญิงคนดังกล่าวเป็นปอบ แต่การกระทำตามภาพสื่อต่างๆ ก็จะเหห็นชัดเจนว่าเหตุการณ์เป็นเช่นไร
ส่วนการทำพิธีไล่ปอบนั้น ไม่ถือว่ามีความผิด หากไม่ได้ไปทำพิธีแล้วกระทบกับชีวิตผู้อื่น แต่ไม่มีสิทธิ์ไปชี้แนะว่าบุคคลใดเป็นปอบ และไม่มีสิทธิ์จะไปบังคับว่าให้ใครออกมาทำพิธีตามที่กล่าวอ้าง ซึ่งเรื่องนี้มองว่าเป็นความผิดชัดเจนในการละเมิดสิทธิ์ผู้อื่น