6 พฤติกรรมรักร้าย ๆ ที่คู่รักส่วนใหญ่เข้าใจผิดคิดว่าดี
บทเรียนของความรัก...ไม่มีใครที่จะสอนหรือให้คำตอบคุณได้ดีเท่ากับการเผชิญปัญหาเหล่านั้นด้วยตัวเอง นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเวลาจึงสำคัญต่อความรัก เพราะคุณไม่มีทางรู้จักใครดีพอเพียงแค่พริบตาเดียว รวมทั้งคุณไม่สามารถปรับเปลี่ยนตัวเองได้ในวันสองวัน
หากจะตกลงปลงใจรักใครก็ต้องดูกันไปนาน ๆ นอกจากเวลาแล้วสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่ง ก็คือการสร้างกฎเกณฑ์และเงื่อนไขที่มากเกินไปให้กับความรัก แถมคู่รักส่วนใหญ่ยังคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ถูกต้องเสียด้วย ซึ่งเราได้นำเอา 6 พฤติกรรมรักร้าย ๆ มาบอกเล่ากันค่ะ มาดูกันว่ามีเรื่องอะไรบ้างที่คู่รักเข้าใจผิดเกี่ยวกับความรัก หากตรงกับคู่ของคุณก็เตรียมหาวิธีรับมือได้เลย
1. พูดทุกเรื่องอย่างตรงไปตรงมา
อันที่จริงการพูดกันอย่างตรงไปตรงมามันก็มีข้อดีอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณและคนรักมีนิสัยแมน ๆ มีอะไรก็เปิดใจเคลียร์กันแบบตรง ๆ ทว่านิสัยแบบนี้น่าจะเหมาะกับการเป็นเพื่อนมากกว่าคนรักน่ะสิ อย่าลืมว่าคุณเองก็ต้องพูดจาถนอมน้ำใจคนรักบ้าง แม้บางเรื่องที่คุณอาจไม่เห็นดีเห็นงามด้วยก็ตาม อย่าพยายามปฏิเสธตรง ๆ ไปเสียทุกครั้ง ควรมีคำพูดลักษณะแนะนำให้คนรักได้คิดตามพร้อมกับเหตุผลดี ๆ ประกอบด้วย ที่สำคัญทำให้คนรักของคุณรู้ว่าที่คุณไม่เห็นด้วยหรือขัดใจเขาในบางเรื่องก็เพราะคุณเป็นห่วงเขาจริง ๆ
2. พูดเอาใจกันไปซะทุกครั้ง
นี่ก็ตรงกันข้ามกับข้อแรก หากคุณรู้สึกว่าการพูดจาแบบตรงไปตรงมานั้นทำร้ายจิตใจคนรักเกินไป คุณจึงเลือกที่จะปล่อยเลยตามเลยหรือพูดเอาใจคนรักไปเสียทุกครั้ง แม้ในเรื่องที่ไม่ควรเห็นด้วยก็ตาม ถ้าเป็นแบบนี้นาน ๆ เข้า คุณเองก็เหมือนกับระเบิดเวลาที่รอการปลดปล่อย เพราะคุณจะรู้สึกอึดอัดใจที่ไม่ได้พูดสิ่งที่ตัวเองคิดออกมา จำไว้ว่าการมีความคิดเห็นไม่ตรงกันไม่ใช่เรื่องผิดเลย และคุณเองก็ไม่จำเป็นต้องพูดเอาใจคนรักไปซะทุกครั้งด้วย เพียงแค่พูดความจริงหากอะไรที่คุณไม่เห็นด้วยกับคนรัก ที่สำคัญอย่าลืมหาเหตุผลดี ๆ ประกอบคำพูดด้วยล่ะ
3. 50-50
แม้ว่าในความสัมพันธ์ของคู่รักมักจะอยากได้ความเป็นเพื่อนเข้ามาผสมอยู่ด้วย แต่ถ้าหากมากเกินไปแบบทุกอย่างต้องคนละครึ่งทางทุกครั้งละก็...แบบนี้คงไม่ต่างจากการเป็นเพื่อน หากอยากให้ความรักของคุณมีสีสันและดูเป็นคู่รักมากกว่าการเป็นเพื่อนก็ต้องรู้จักยอมกันบ้าง นิสัยแมน ๆ เก็บเอาไว้ใช้กับเพื่อนเถอะ เพราะอย่าลืมว่าไม่ว่าจะเป็นคนรักของคุณหรือตัวคุณเองก็อยากได้การเอาอกเอาใจด้วยกันทั้งนั้น ลองหาโอกาสดี ๆ ทำอะไรให้กันแบบเสียสละบ้างก็ได้ เพราะการที่ได้ทำอะไรดี ๆ เพื่อคนที่เรารักก็ทำให้เรามีความสุขด้วยไม่ใช่หรือ
4. คนรักกันต้องรู้ใจกันเสมอ
นี่ก็เป็นอีกความเชื่อผิด ๆ สำหรับคู่รักที่คิดว่าคนรักกันต้องรู้ใจกันเสมอ โดยเฉพาะสาว ๆ เองที่คาดหวังไว้สูงลิบว่าแฟนหนุ่มจะต้องทำเซอร์ไพรส์ให้ในวันสำคัญต่าง ๆ หรือการคาดหวังของขวัญที่ตัวเองอยากได้เพราะคิดว่าคนรักต้องรู้ใจคุณ รู้หรือไม่ว่าความคิดเช่นนี้เป็นการตีกรอบหรือสร้างกฎเกณฑ์ให้กับความรักมากเกินไป ลองปล่อยตัวตามสบาย ทำเซอร์ไพรส์กันเมื่ออยากทำ หรือให้ของขวัญแทนใจเมื่ออยากให้โดยไม่ต้องตั้งกฎเกณฑ์อะไร ที่สำคัญลดการคาดหวังว่าคนรักของคุณต้องรู้ใจคุณไปเสียทุกเรื่องด้วย
5. หึงหวงมากแปลว่ารักมาก ?
ความหึงหวงถือเป็นรสชาติของความรัก แถมยังสร้างสีสันให้รักของคุณคึกคักอยู่ตลอด เพราะการหึงหวงนั้นหมายถึงว่าคุณทั้งคู่ยังต้องการกันและกันอยู่น่ะสิ อ๊ะ ๆ แต่การหึงหวงที่พอดิบพอดีก็มีข้อแม้อยู่บ้าง และคุณเองก็ควรจะทำตามข้อแม้เหล่านั้นด้วย นั่นก็คือการหึงหวงแบบให้พอรู้ว่าคุณรักเขาจริง ๆ ไม่ใช่การตามติดเขาทุกย่างก้าว, เช็กโทรศัพท์, ขอพาสเวิร์ดเฟซบุ๊ก หรืออะไรก็ตามที่ทำให้เขาขาดความเป็นส่วนตัว ถ้าคุณกำลังทำตัวเป็นคนรักผสมกับนักสืบแบบนี้ก็เลิกพฤติกรรมดังกล่าวเถอะค่ะ การแสดงออกความหึงหวงมากเกินไปไม่ได้แปลว่าคุณรักเขามาก แต่มันหมายถึงว่าตัวคุณเองไม่เชื่อใจเขาเลย !
6. เงินแก้ปัญหาได้
การทะเลาะกันบ้างก็เป็นอีกสีสันของความรัก แต่หลังจากการคืนดีกันแล้วก็ใช่ว่าจะปล่อยให้เรื่องราวความบาดหมางก่อนหน้านั้นผ่านเลยไปเฉย ๆ แต่คุณเองควรที่จะปรับความเข้าใจกันเพื่อไม่ให้ปัญหาเดิม ๆ เกิดขึ้นซ้ำซากอีก ที่สำคัญควรใช้วิธีการพูดคุยกันหรือการง้อด้วยความจริงใจ ว่าคุณรู้สึกผิดกับเหตุการณ์ที่ผ่านมาจริง ๆ นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการใช้เงินในการแก้ปัญหา ไม่ว่าจะเป็นการซื้อของขวัญราคาแพงหรือพากันไปทริปต่างแดน สิ่งเหล่านี้ควรทำตอนที่ยังรักกันดีมากกว่าทำเพื่อง้อขอคืนดียามทะเลาะกัน เพราะนอกจากมันจะดูไม่จริงใจแล้ว มันยังแสดงให้เห็นว่าคุณไม่ใส่ใจจะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจริง ๆ
ตรงกับคู่ของคุณบ้างหรือเปล่าคะ หากไม่มีสักข้อเลยก็ขอแสดงความยินดีด้วยที่ความสัมพันธ์ของคุณดำเนินไปอย่างสบายใจทั้งสองฝ่าย แต่ถ้าหากมีบางข้อหรือส่วนใหญ่ตรงกับชีวิตรักของคุณละก็ อย่าคิดว่ามันเป็นเรื่องเล็ก ๆ นะคะ คุณควรหาวิธีปรับตัวและปรับความเข้าใจกันเสียใหม่ เพื่อที่ความรักของคุณจะได้ยืนยาวและมั่นคงไม่แปรผันเลย
businessinsider.com และ thoughtcatalog.com