วันนี้เป็นฤกษ์งามยามดี ได้รับเชิญไปสถานเอกอัครราชทูตอังกฤษ
ก่อนกลับก็ชักภาพเป็นที่ระลึก เลือกโลเกชั่นที่พระรูปควีน ท่านทูต เปรยขึ้นมาว่า เหมาะเจาะพอดีเป็นวันที่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 จะทรงครองราชย์เกินสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย เท่ากับว่าทรงเป็นพระประมุขที่ครองราชย์ยาวนาที่สุดแห่งสหราชอาณาจักร คือเกิน 63 ปี 216 วัน ที่พระแม่เจ้าวิกตอเรียทรงเป็นเจ้าของสถิติเดิม
ก่อนจะขายที่แล้วเจ้าสัวไปสร้างเซ็นทรัล เอ็มบาสซี บังจนมิด สถานทูตอังกฤษมีที่ดินติดกับถนนเพลินจิต มองจากด้านนอกเข้าไปจะมี พระรูปของสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียตั้งอยู่ ปัจจุบันพระรูปไปตั้งที่ด้านหลังบ้านพักของท่านทูต
พระแม่ดำแห่งเพลินจิต
รูปนี้หล่อโดยฝีมือ เซอร์อัลเฟรด กิลเบิร์ต (Sir Alfred Gilbert) ประติมากรคนสำคัญของอังกฤษ
เนื่องในวโรกาสกาญจนาภิเษก เมื่อปี 1887 มีทั้งหมด 3 พิมพ์ ที่กรุงเทพฯ พิมพ์หนึ่ง ที่นิวคาสเซิลอีกหนึ่ง และเดิมที่วินเชสเตอร์อีกแห่ง
ที่ฐานมีจารึกไว้ว่า “Victoria, Queen of Great Britain & Ireland, Empress of India. Erected in loving memory by her subjects in Siam.” (วิกตอเรีย พระนางบรมราชินีนาถแห่งบริเตนใหญ่ และไอร์แลนด์ จักรพรรดินีแห่งอินเดีย ยกพระรูปขึ้นด้วยใจจงรักรำลึกโดยพสกนิกรของพระนางในสยาม)
พระรูปพระนางวิกตอเรียนี้มีตำนาน เดิมนั้นตั้งอยู่ที่สถานทูตเดิมคือแถวเจริญกรุง ตรงไปรษณีย์บางรักเดี๋ยวนี้ ต่อมาย้ายตามสถานทูตมาที่เพลินจิต ตอนแรกไว้ที่หน้าตึกใหญ่ ต่อมาไว้หลังตึก สมัยตั้งอยู่ที่บางรัก คนสยามก็เคารพบูชามาก นำธูปเทียนมาลัยมาถวายขอโชคลาภ ขอให้ทรงบันดาลลูกหลาน นัยว่าพระนางมีพระโอรสธิดาดก (ล้อกันว่าทรงเป็น “แม่ใหญ่แห่งยุโรป” เพราะราชวงศ์ยุโรปเกือบทุกวงศ์นับญาติกับพระนาง) และขาดไม่ได้สำหรับคนไทยก็คือ ต้องขอหวยตามระเบียบ
พระแม่ดำแห่งเพลินจิต
อ่านจากฝรั่งเขาบันทึกไว้ว่า ชาวบ้านเรียกพระนางว่า เจ้าแม่ดำ (The Black Queen)
คงเพราะพระรูปรมดำนั่นเอง ฝรั่งรู้ว่าคนไทยไหว้ควีนก็งงเป็นไก่ตาแตก บางคนบ่นว่า หากพระนางยังมีพระชนม์ชีพคงงงเหมือนกันที่คนพุทธเมืองสยามมาไหว้ขอหวยกษัตรีคริสเตียนกันอย่างนี้
พระรูปควีนวิกตอเรียที่เมืองไทยยังเคยมีอีกแห่ง เดิมตั้งอยู่ในสถานกงสุลอังกฤษที่เชียงใหม่ ได้ทราบว่า คนเชียงไหม่ก็กราบไหว้บูชาพระนางเหมือนกัน เล่ากันว่า มีคู่สามีภรรยาชาวนาชาวไร่เที่ยวขอลูกตามวัดก็ไม่ได้ผล ไหว้พระสิงห์แล้วก็ไม่ได้ สุดท้ายมาไหว้พระนางวิกตอเรียกลับได้ลูก ข่าวแพร่ไปทั่วเชียงใหม่ทำให้มีคนแห่กันมากราบไหว้ล้นหลามประมาณว่าเกือบครึ่งเมือง จนสถานกงสุลทนไม่ไหว ต้องย้ายพระรูปหนีเพราะคนมารบกวนมากเกินไป ตอนนี้พระแม่ไปประทับที่สุสานบ้านเด่น
ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นบุก มีการห่อพระรูปไว้ในกล่อง แต่ยังอุตส่าห์เจาะรูไว้ที่กล่องให้ตรงกับพระเนตร ชะรอยจะให้พระนางกับคนไหว้พอได้สบตากันบ้างยามสงคราม
พระแม่ดำแห่งเพลินจิต
พระรูปที่เพลินจิตก็มีตำนานอย่างนี้ คือตอนที่ญี่ปุ่น “ขออนุญาต” ผ่านไทยแลนด์ไปตีอังกฤษที่พม่า ก็ขอยึดสถานทูตอังกฤษเป็นที่บัญชาการซะเลย
แล้วผู้บัญชาการกองทัพลูกพระอาทิตย์ก็สั่งให้ตีกล่องไม้สวมพระรูปไว้ นัยว่าเป็นประมุขของประเทศศัตรูไม่ควรจะตั้งหราในฐานบัญชาการ แต่สักพักผู้บัญชาการญี่ปุ่นก็รู้สึกตะครั่นตะครอเพราะถูกอะไรดลใจหรือก็ไม่ทราบ จึงสั่งให้เจาะรูที่กล่องพระรูปตรงส่วนพระเนตร พระนางจะได้ไม่มาดลใจอะไรให้ร้อนรนอีก
ดูสิครับ ขลังขนาดนี้
แต่จริงๆ แล้วมีคนสันนิษฐานว่า เพราะญี่ปุ่นยังเกรงใจที่ควีนทรงเคยยอมรับสถานะของญี่ปุ่นตอนเพิ่งปฏิรูปประเทศใหม่ๆ จนกลายเป็นมหาอำนาจในกาลต่อมา
ป.ล. หลายปีก่อนไปเที่ยวลอนดอน เพื่อนพานั่งรถผ่านโน่นผ่านนี่ เห็นพระรูปควีนวิกตอเรียเข้าผมก็เล่าเล่นๆ ว่า นี่แหน่ะที่กรุงเทพฯ เขาขอลูกกับควีนของพวกคุณน่ะรู้หรือเปล่า ปรากฎว่า มิตรสหายนั่งซุบซิบกันว่า เอที่กรุงเทพฯ มันมีด้วยหรือ (นี่ขนาดเคยมากรุงเทพฯ แล้วนะครับ) แล้วพูดออกมาว่า ก็น่าจะมีนั่นแหละ เพราะไทยเคยเป็นอาณานิคมอังกฤษ ผมได้ยินเข้าก็ฉุนกึก แต่ก็พยายามเข้าใจว่า มีช่วงหนึ่งที่อังกฤษอาณานิคมบานตะไท จะลืมไปบ้างตู่ไปบ้างก็ให้อภัยได้ อีกอย่างก็เพื่อนกันนี่ครับ เล็กๆ น้อยๆ ก็หยวนๆ กันไป