ว่ามันคือความจริงมากๆ อยากแชร์ให้อ่านกัน
บ่อยครั้งที่เราจ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้า แต่กลับได้รับสินค้าน้อยกว่าที่ควรจะเป็น และ ‘ความน้อย’ นี้ถูกกลบเกลื่อนให้ยอมรับด้วยคำว่า ‘Minimal style’ หรือ ‘Rare Item’
ใช่แล้วครับ Marketeer กำลังพูดถึงหนังโฆษณาชิ้นใหม่ของ ME ในแคมเปญ ME is MORE ที่หยิบเอาเรื่องราว ความน้อย ในชีวิตปัจจุบัน ที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า บางครั้งได้น้อยเกินไป หรือเราได้น้อยกันจนชิน แท้จริงแล้วสิ่งเหล่านี้คือ เรื่องที่ทุกคนพบเจอในชีวิตประจำวัน เราอาจจะยอมรับกับความน้อยเหล่านี้ได้ แต่ดอกเบี้ยอย่ามาน้อย โดยร้อยเรียงและถ่ายทอดผ่านวิธีการเล่าเชิงสะท้อนสังคม ใน MV Less is Style ที่ดูแล้วแทงใจคนดูเหลือเกิน
แอดมินยอมรับว่าดูจบแล้วความรู้สึกแรกคือ ประทับใจในความครีเอทและความกล้าของ ME ที่สามารถนำเอา Insight ของคนไทยมาเล่าแบบเสียดสีโดยไม่ทำให้รู้สึก Negative แต่อย่างใด แต่กลับรู้สึกกวนอย่างมีสไตล์ อย่างซาลาเปาไส้น้อยเพราะถูกวางให้เข้ากับหลัก Golden Ratio, ขนมซองโตที่มีเพียงลมวูบใหญ่, กระเช้าของฝากที่ดูเลอค่าแต่มีแยมแค่ 3 กระปุก รวมถึง ดอกเบี้ยเงินฝากแบบน้อยๆ ที่ถูกแสดงไว้ในกรอบหลุยส์ ทุกอย่างถูกตั้งโชว์อยู่ใน “พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งความน้อย”
ด้วยรูปแบบการเล่าเรื่องผ่านบทเพลงสไตล์ Electronic Pop เนื้อหาที่โดนใจ และกลิ่นอายที่ทันสมัย รวมทั้งการนำประเด็นเรื่อง ‘ความน้อย’ ที่ทุกคนเคยเจอ มาตีแผ่ผ่าน MV เพลงนี้ ทำให้โฆษณาชิ้นนี้สามารถเข้าถึงคนดูได้ไม่ยาก
ก่อนที่จะปล่อย เอ็มวีเพลง “Less is Style” ออกมา ME ได้ปลุกกระแสบนโลกออนไลน์ โดยใช้ Insight ที่โดนใจหลายๆคน ด้วยชุดภาพจาก ศิลปินมินิมัลผู้ที่เคยฝากผลงานไว้เมื่อครั้งก่อน “Slow life“ และกลับมาในครั้งนี้ในคอนเซปต์ประชดประชันสังคม ถ่ายทอดผ่านภาพเซ็ทมินิมัลสไตล์ ดูสวย ดูคูล กับผลงาน “Less is Style?” ใน Facebook: Chompoo Baritone จนเกิดการตั้งคำถามในโลกโซเชียล “ความน้อยคือสไตล์?” พร้อมแฮชแท็ก #อย่ามาน้อยกลายเป็นไวรัลแชร์กันสนั่นบนโลกโซเชียล ซึ่งทำออกมาโดนใจไม่แพ้ตัว MV
แคมเปญที่มาจาก Customer Centric โดยแท้จริง
“แคมเปญ ME is MORE เกิดจาก Insight ของไลฟ์สไตล์ของคนในปัจจุบัน บ่อยครั้งเราที่เลือกซื้อสินค้าแล้วกลับได้รับสินค้าน้อยกว่าที่ควรจะเป็น บางอย่างอาจจะถูกมองว่าเป็นสไตล์ของสินค้า เช่น เสื้อผ้าแฟชั่นดีไซน์น้อยๆ สไตล์มินิมอล หรืออาหารฟิวชั่นเก๋ๆ ซึ่งก็มีคนที่ชอบสไตล์แบบนี้ แต่บางอย่างก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเราได้รับน้อยเกินไปเมื่อเทียบกับเงินที่จ่าย แม้แต่บัญชีเงินฝาก ที่ทุกวันนี้ให้ดอกเบี้ยค่อนข้างต่ำ เฉลี่ยเพียง 0.3775% ต่อปี หลายคนอาจเคยตั้งคำถามว่า ‘สิ่งที่เราได้รับนั้น..น้อยเกินไปไหม?’ ‘มีทางอื่นให้เลือกอีกหรือไม่?’ สุดท้ายก็ยอมปล่อยผ่านไป
“แต่สำหรับ ME เรื่องดอกเบี้ยน้อยเรายอมไม่ได้ เพราะ ME ให้มากกว่า ด้วยดอกเบี้ยสูงถึง 4.5 เท่าของออมทรัพย์ทั่วไป เทียบง่ายๆ คือฝากที่อื่น 1 ปี ได้ดอกเบี้ยเท่ากับฝาก ME เพียง 3 เดือน ซึ่งเป็นทางเลือกของการเก็บเงินยุคใหม่ที่ไม่ต้องทนกับ ‘ความน้อย’ ของดอกเบี้ยออมทรัพย์แบบเดิมๆ” รัชดา เสริมศิลปกุล ผู้อำนวยการการตลาด ME by TMB เล่าถึงที่มาของแคมเปญ ME is MORE
Marketing Disruptive แบบ ME
จากหลายๆ แคมเปญที่ผ่านมาจะเห็นว่า ME ใช้แนวทาง Disruptive Marketing ตอกย้ำภาพลักษณ์การเป็นธนาคารที่พูดมากกว่าเรื่องเงินมาโดยตลอด ทั้งแคมเปญเติมน้ำมันฟรี เพียงเติมด้วยตนเอง, ปลุกเงินให้ตื่น ซึ่งได้รับ Guinness World Record, เปิดตัวน้ำหอมกลิ่นความความสำเร็จ จนถึงแคมเปญนี้ ME is MORE
“‘ME is MORE เราให้มากกว่า’ เป็นอีกหนึ่งแคมเปญที่เราได้ดึงจุดแข็งของ ME ออกมา นั่นคือการเป็นดิจิทัลแบงกิ้งอย่างแท้จริง เพราะนอกจะให้มากกว่าเรื่องผลตอบแทนอย่างดอกเบี้ยสูง 4.5 เท่าของออมทรัพย์แล้ว ยังมีเรื่องความสะดวกสบาย และความปลอดภัยที่มากกว่าอีกด้วย นั่นคือหลังจากเปิดบัญชี ME ลูกค้าไม่จำเป็นต้องไปสาขาเลย ในการทำธุรกรรมทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น ฝาก โอน เช็คยอดเงิน เช็คดอกเบี้ยสะสม สามารถทำผ่านช่องทางผ่านออนไลน์และแอปพลิเคชันได้หมด หรือแม้กระทั่งขอเอกสารทางการเงินก็สามารถเช่นกัน ทั้งยังมีบริการ ME call center 02-502-0000 ที่ช่วยให้คุณทำธุรกรรมการเงินได้ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถเข้าถึงข้อมูลด้วยตนเองโดยการพูดคุยสอบถามผ่าน ME BOT ในช่องทาง Facebook Messenger แบบ Real Time ตลอด 24 ชั่วโมงเช่นกัน และทั้งหมดนี้ทำให้ ME แตกต่างจากดิจิทัลแบงกิ้งทั่วไป” รัชดา กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับใครที่ไม่อยากทนกับความน้อยของดอกเบี้ยเงินฝาก ME ได้จัดโปรโมชั่นพิเศษ เปิดบัญชี ME แบบง่ายๆ เพียงแค่นำบัตรประชาชน และสมุดบัญชีออมทรัพย์ธนาคารใดก็ได้ที่เป็นชื่อคุณ มาลงทะเบียนที่ ME Place เซ็นทรัลเวิล์ด หรือ Booth ME พร้อมฝากเงินเพียง 500 บาท รับฟรี! ร่ม ME MORE ขนาดใหญ่และเบา มูลค่า 690 บาท ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 กันยายน 2560 และ TMB สาขาให้ห้างฯ ที่ร่วมรายการ ในวันที่ 1-30 กันยายน 2560 หรือจนกว่าของจะหมด
อะไรอาจจะยอมน้อยได้ แต่ดอกเบี้ย…อย่ามาน้อย
ขอบคุณที่มา : http://marketeer.co.th/archives/127861