รู้ยัง!! คุณประโยชน์ของปลาร้า หมักถูกวิธี ได้โอเมก้า 3 เต็มๆ
คุณประโยชน์ของปลาร้ามีมากโข นอกเสียจากจะเป็นวิธีการถนอมอาหารชนิดหนึ่งแล้ว การหมักหากทำให้สะอาดแล้ว
โปรตีนเส้นยาวๆ ในปลา เมื่อหมักทิ้งไว้ จุลินทรีย์ก็จะย่อยให้กลายเป็นโปรตีนเส้นเล็กๆ ที่ดูดซึมได้ง่าย ทำให้ร่างกายได้รับโปรตีนมากขึ้น ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอกได้ นอกจากนั้นในปลายังมีกรดไขมันที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งหัวใจและหลอดเลือด อย่าง โอเมก้า 3 และยิ่งในปัจจุบันที่นิยมหมักปลาทั้งก้างเป็นการเพิ่มแคลเซียมในอาหารที่มีประโยชน์อย่างยิ่งต่อการสร้างมวลกระดูก
ดังนั้น ไม่ต้องกังวลกับความไม่สะอาด ยิ่งถ้าได้นำมาปิ้งแล้ว รับรองเชื้อโรคต่างๆ ก็ตายไป แต่ถ้าใครกลัวเรื่องสารเคมีหรือเชื้อโรคที่อาจปลอมปนในปลาร้าก็ทำเสียเองเลย ลองทำดูสักครั้งรับรองสนุก ได้สารระ
นอกจากปลาร้าแล้วในอาหารตำรับเจ้าพระอภัยภูเบศร ยังมี “มัม” ที่คล้ายกับเค็มบักนัด ของจังหวัดอุบลราชธานี ที่มีส่วนผสมทั้งเกลือ ข้าวคั่ว สับปะรด และข่า ถึงแม้จะต้องใช้เวลาในการหมัก 3-4 เดือน แต่เมื่อนำมาผัดกับหมู รับประทานกับข้าวสวยร้อนๆ อร่อยสุดยอด
มัม เป็นอาหารที่ผ่านการหมัก โดยอาศัยจุลินทรีย์จำพวกยีสต์และแบคทีเรีย รวมทั้งเอนไซม์ในสับปะรด การย่อยสลายเนื้อสัตว์ จำพวกปลา หรือ กุ้ง
ปลาร้า
ทีนี้ อาจมีคำถามว่าแล้วอาหารที่หมักดีอย่างไร ก็ขอเรียนว่า การหมักเป็นกระบวนการถนอมอาหารอย่างหนึ่ง เพราะสมัยก่อนในบางฤดูกาลเราไม่สามารถออกไปหาอาหารได้ หรือออกไปได้แต่ไม่มีอาหารให้หา แต่ในปัจจุบันกระบวนการทางวิทยาศาสตร์พบแล้วว่า กระบวนการหมักอาหารพวกโปรตีน ซึ่งอาจจะไม่ใช่แค่เนื้อสัตว์ แต่อาจจะเป็นถั่ว อย่างถั่วเน่าในภาคเหนือ ยีสต์และแบคทีเรียที่อยู่ในอากาศจะมีบทบาทสำคัญในการย่อยสลายจากโปรตีนเส้นยาวให้เป็นโปรตีนเส้นสั้นๆ ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย อีกทั้งยีสต์และแบคทีเรียบางชนิดยังเป็นจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์แก่ระบบทางเดินอาหารในร่างกาย หรือที่ฝรั่งเรียกว่า โปรไบโอติก (Probiotics)
โปรไบโอติก คืออะไร หลายคนสงสัย โปรไบโอติก เป็นจุลินทรีย์ที่มีชีวิตที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของคนและสัตว์ จุลินทรีย์กลุ่มนี้ทำให้เกิดสมดุลของจุลินทรีย์ในทางเดินอาหาร โดยการเพิ่มปริมาณจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ให้มากขึ้น และลดปริมาณจุลินทรีย์ที่เป็นโทษ จุลินทรีย์โปรไบโอติก ได้แก่ เชื้อจุลินทรีย์ในกลุ่มยีสต์และแบคทีเรียแลคติก ปัจจุบัน มีการนำจุลินทรีย์กลุ่มนี้มาผลิตอาหารหลายชนิด ได้แก่ ผลิตภัณฑ์นมหมัก ผักดอง และเนื้อหมัก และมีการผลิตในรูปของแคปซูลและเม็ดออกมาจำหน่ายตามท้องตลาด หรือใส่ในโยเกิร์ตอย่างที่บ้านเรามีขายในร้านสะดวกซื้อ
ส่วนอาหารอีกชนิดที่ผู้เขียนขอนำเสนอ คือ ปลาร้า หลายคนพอฟังแล้วร้องอี้ แต่ผู้เขียนบอกเลยว่าปลาร้านี้เป็นวัตถุดิบที่นอกจากจะเป็นตัวชูรสในอาหารไทยหลายชนิดแล้ว ปลาร้ามีจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ต่อทางเดินอาหารของเรา ปลาร้าอุดมไปด้วยแคลเซียมที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะกับผู้หญิง เพราะแคลเซียมช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกระดูก โดยเฉพาะถ้าเริ่มสร้างตั้งแต่เด็กๆ หรือ สาวๆ หรืออายุ 25-30 ปี ก็มีโอกาสน้อยที่จะเกิดภาวะกระดูกพรุน ดังนั้น วันนี้ใครไม่กินปลาร้าก็รีบกิน แต่ขอให้เป็นปลาร้าสุก และมาจากแหล่งที่สะอาด รับรองมีประโยชน์ไม่มีโทษ
ขอบคุณข้อมูล จาก ภญ. ผากกรอง ขวัญข้าว ตีพิมพ์ในอภัยภูเบศรสาร ฉบับที่ 77-79
ที่มา - sentangsedtee.com