เสนาธิการไม่ใช่ทหารเดินเท้า
บทเริ่มต้น
หลายคนอาจชื่นชอบและภูมิใน ในตัวนักรบที่มีความกล้าหาญ มากด้วยฝีมือ สามารถสังหารข้าศึกได้มากมาย และประสพกับชัยชนะหลายสมรภูมิ
หลายคนเห็นบุคลิกของทหาร ที่มีความแกร่งกร้าว ห้าวหาญ ทำอะไรรวดเร็ว รุนแรง รบแล้วนำชัยชนะมาฝากปวงประชาได้
แต่ท่านรู้หรือไม่ว่า คนเหล่านี้ ชนะได้เพราะอะไร ถ้าเป็นเพียงความกล้าหาญ ฝีมือและพละกำลัง นั่นเป็นเพียงข้อปลีกย่อยเท่านั้น ทหารเหล่านี้ก็คือ ทหารเดินเท้านั่นเอง
ผู้ที่กำชัยชนะที่แท้จริง ส่วนมากไม่ได้เป็นคนที่ชอบใช้พละกำลังและฝีมือต่อสู้ ดูไปก็ดูอ่อนแอ ไม่ค่อยกล้าปะทะใครตัวต่อตัว หรือแม้แต่ใช้อาวุธและกำลัง บุคลิกก็งั้นๆแหละ คนทั่วไปไม่ชอบด้วยซ้ำ แต่เขามีสติปัญญา เพราะสิ่งที่เรียกว่าสติปัญญานี่แหละ ที่ทำให้คนเหล่านี้กำชัยชนะและสามารถบงการ ทำทุกๆสิ่งเพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์ ต่อหน่วยที่ตนสังกัด ต่อดินแดนที่ตนเป็นเจ้าของ
พวกเขาคือเสนาธิการ หรือ กุนซือ
กุนซือนี่แหละ คือคนที่ใช้สติปัญญาพลิกแพง ด้วยความหลากหลายของสติปัญญา ด้วยข้อดีข้อเสีย ของผู้นำและเรื่องเกี่ยวกับการทัพ ล้วนมีรายละเอียดมากและมีความพิศดารพันลึกเสียยิ่งกว่าการเป็นพลเดินเท้านำหน้ากองทัพเข้าโจมตีศัตรูและฆ่าฟันฝ่ายข้าศึกเสียอีก เพราะมันเกี่ยวพันถึงความอยู่รอดของคนทุกๆคนในดินแแดน ทรัพยากรและสิ่งของทุกๆสิ่งในดินแดนของตนด้วย
จะพึ่งพาเพียงกำลังและความห้าวหาญ ไม่เพียงพอที่จะทำอะไรให้สำเร็จได้
นี่แหละถึงต้องเขียนรายละเอียดให้เข้าใจว่าทำไม
เสนาธิการไม่ใช่ทหารเดินเท้า
การรบนั้น มีทั้งสัประยุทธ์และกลยุทธ์ แต่ผู้ที่จะได้รับสมญานามว่า "เทียนเซียตี่อี้" หรือหนึ่งในใต้หล้า จะมีสักกี่คน ผู้ชนะที่แท้จริง คือผู้ที่ใช้สติปัญญาในการดำเนินกลยุทธ์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ รวบรวมทุกอย่างให้เป็นหนึ่งได้เท่านั้น การสัประยุทธ์มีจุดจบแค่การตาย แต่กลยุทธ์มีมากกว่านั้น แม้ตายก็ไม่ใช่จุดจบ แต่สิ่งที่สร้างไว้ จะมีผลต่อมาในภายหลังอีกนานเท่านาน ซึ่งล้วนต้องใช้สติปัญญาแก้ไขทั้งนั้น