ประเพณีสลากภัต หรือตานก๋วยสลาก กิ๋นข้าวสลาก
ประเพณีสลากภัต
งานสลากภัต ประเพณีสลากภัต เป็นประเพณีทำบุญที่คนในปัจจุบันไม่ค่อยรู้จักกันดีนัก เป็นประเพณีทางเหนือ
คำว่า สลากภัต (บาลี: สลากภตฺต) เป็นศัพท์ในพระวินัยปิฎก เป็นชื่อเรียกวิธีถวายทานแก่พระสงฆ์วิธีหนึ่ง โดยการจับสลากเพื่อแจกภัตตาหารหรือปัจจัยวัตถุที่ได้รับจากผู้ศรัทธาถวาย เพื่ออนุเคราะห์แก่ผู้ศรัทธาที่มีปัจจัยวัตถุจำกัดและไม่สามารถถวายแก่พระสงฆ์ทั้งหมดได้
ประเพณีสลากภัต หรือที่ชาวล้านนาทางภาคเหนือเรียกว่า ประเพณีตานก๋วยสลาก โดยส่วนมากจะจัดขึ้นในช่วงเดือน กันยายน ถึงเดือน ตุลาคม ซึ่งในการตานก๋วยสลากนั้น ชาวบ้านจะมีชะลอม หรือตะกร้า ปัจจุบันได้เปลี่ยนไปตามยุคสมัยแล้วนะคะ ในสมัยใหม่ นิยมนำมาใส่ถัง หรือกระติกน้ำแข็ง เพราะมีประโยชน์ใช้งานมากกว่าพวกตะกร้าไม้ไผ่ แล้วใส่ของใช้ต่างๆลงไป เช่นอาหาร คาว หวาน สบู่ ยาสีฟัน เครื่องใช้ต่างๆ ที่คนเราใช้ในชีวิตประจำวัน พร้อมด้วยปัจจัย หรือที่ชาวบ้านนิยมเรียก คือใส่ยอด ก็คือ ใส่ซองเงินเสียบยอดไม้ไผ่ลงไป เพื่อเป็นการอุทิศ ส่วนกุศลไปหาญาติ สนิท มิตรสหาย ที่ได้ล่วงลับไปแล้ว ตามความเชื่อเพื่อให้พวกท่านได้มีของกินของใช้ในโลกหลังความตาย ถือเป็นการทดแทนคุณพวกท่านเหล่านั้นค่ะ
ค่านิยมในการทำสลากภัต
1-ประชาชนว่างจากภารกิจการทำนา
2-ผลไม้เช่นส้มโอ,ส้มเขียวหวาน,ส้มเกลี้ยง,กำลังสุก
3-ประชาชนหยุดพักไม่เดินทางไกลเพราะเป็นฤดูหนาว
4-พระสงฆ์จำพรรษาอยู่อย่างพรักพร้อมหลังออกพรรษา และเตรียมไปธุดงค์
5-ได้โอกาสสงเคราะห์คนยากจนเป็นสังคหทาน
6-ถือว่ามีอนิสงฆ์แรงคนทำบุญสลากมักจะมีโชคลาภเสมอ
7-มีโอกาสหาเงินและวัสดุบำรุงวัด หาปัจจัยซ่อมสร้างเสนาสนะ เจดีย์ที่เคารพบูชา
ด้วยเหตุผล๗ประการนี้ประชาชนชาวไทยในล้านนาจึงนิยมทำบุญสลากภัตกันเกือบทุกวัดมีแต่ หากว่าวัดใดมีงานตั้งธรรมหลวง ( เทศน์มหาชาติ ) วัดนั้นจะเว้นจากการทำบุญสลากภัตรเพราะจะเป็นภาระต่อชาวบ้าน
ในประเพณีการตานก๋วยสลาก หรือสลากภัต นั้น จะมีการฟ้อนรำ นำขบวนครัวตาน (ของที่จะนำไปถวายวัด) ของแต่ละคนนำเข้าวัด โดยในแต่ละหมู่บ้านจะมีการนำขบวนช่างฟ้อน ของหมู่บ้านตัวเองไปช่วยงาน คือไปช่วยฟ้อนรำ นำขบวน สลากภัต เข้าวัด ซึ่งจะมีหลายหมู่บ้านที่ใกล้เคียงส่งช่างฟ้อนมาร่วมงาน หากหมู่บ้านไหนมาช่วย พอหมู่บ้านนั้นถึงเวลาจัดงาน หมู่บ้านที่ได้เคยได้รับช่างฟ้อนมาช่วยงาน ก็จะยกช่างฟ้อนของตัวเองไปช่วยบ้าง หรือทางภาคเหนือ เรียกว่า การเอามื้อ ก็เหมือนการลงแขกเกี่ยวข้าวสมัยโบราณที่ใครมาช่วยงาน พอถึงเวลาเราก็ไปช่วยกลับ เป็นการตอบแทนกันไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหมดช่วงประเพณีจัดงาน
การเตรียมงานก่อนวันสลากภัต ของแต่ละหมู่บ้านนั้น ก่อนวันงานหนึ่งวัน หรือทางเหนือเรียกว่า “วันดา” หมายถึงวันเตรียมของ เตรียมงาน ก่อนไปทำบุญในวันถัดไป ชาวบ้าน จะมีการจัด กองสลากภัตของตัวเองที่บ้าน หรือบางครั้งบ้านที่ทำสลากภัตกัณฑ์ใหญ่ ก็จะมีบ้านใกล้เรือนเคียงมาช่วยจัดของ เตรียมงาน เพราะมีของใช้มาก และต้องใช้คนหามเข้าวัด ซึ่งปกติจะมีสลากอยูสองแบบคือ ก๋วยสลาก และ กัณฑ์สลาก
วันตาน หมายถึง วันทำบุญถวายข้าวสลาก ในวันนี้ก็จะมีการละเล่นต่างๆ เช่น ฟ้อนรำ การประกวดร้องเพลง หรืออะไรก็ได้ที่จัดขึ้นมาเพื่อให้ความรื่นเริงกับแขกที่มาร่วมงาน ในตอนเช้าชาวบ้าน ก็จะพาลูกหลาน หอบเอาก๋วยสลากเข้าไปวัดแล้วทางวัดจะแจกเส้นสลาก ก็คือ แจกกระดาษที่ตัดเป็นเส้นๆมาให้ แล้วก็ให้เราใส่ชื่อ เราและคนที่เราต้องการทำบุญไปให้ จากนั้นทางวัดก็จะรวบรวมเส้นสลากเหล่านี้ไปกองไว้ แล้วเอาสลากแต่ละเส้นมาปนกัน แล้วจะนับว่าได้มาจำนวนเท่าไหร่ จากนั้นก็จะเฉลี่ยแจกจ่ายให้กับพระ และเณรที่มาร่วมงาน ไป หากพระ หรือเณร ได้มาแล้วก็จะป่าวประกาศเดินไปตามซุ้ม หรือสถานที่จัดงานในวัดที่จัดไว้ให้ เพื่อให้ตามหาเจ้าของสลากนี้ หลังจากเจอแล้ว พระท่านก็จะให้ศีลให้พร พร้อมทั้งนำสวด กรวดน้ำไปยังบุคคลที่เราได้เขียนชื่อไว้ในนั้น