หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ฟริตส์ ฮาร์มานน์ (Fritz Haarmann) เอาไหมเนื้อราคาถูก?

โพสท์โดย Illuis

ฟริตส์ ฮาร์มานน์ (Fritz Haarmann)

หลังหมดยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 และมาถึงศตวรรษที่ 20 ดูเหมือนว่าการฆาตกรรมต่อเนื่องจะเริ่มทวีความรุนแรงและมีมากขึ้น และประเทศที่เห็นได้เด่นชัดคือเยอรมันในช่วงหลังสงครามโลก อันเนื่องมากจากสภาวะความทุกข์ยาก ภาวะสงครามเย็น การขาดแคลนอาหาร

และในปี 1924 นี้เอง ที่เกิดคดีประหลาดขึ้น คือมีเด็กร้อยกว่าคนหายไปอย่างลึกลับที่ฮันโนเวอร์ ทางเหนือของเยอรมันนี และนี้คือจุดเริ่มต้นของความโหดร้ายในเวลาต่อมา.............

วันที่ 17 พฤษภาคม 1924 เด็กกลุ่มหนึ่งที่ลงเล่นในแม่น้ำเลน(Leine)ใกล้ปราสาท Herrenhausen พบกะโหลกศีรษะของมนุษย์ และวันที่ 29 ก็พบโครงกระดูกชิ้นส่วนอื่นของมนุษย์บนฝั่งแม่น้ำนี้อีกครั้ง วันที่ 13 มิถุนายนมีการพบกะโหลกศีรษะอีกสองหัวในตะกอนของแม่น้ำ

ตอนแรกตำรวจสันนิษฐานว่าศพเหล่านี้น่าจะถูกพัดมาจากแม่น้ำ อัลเฟรด ซึ่งเป็นสถานที่ฝังศพที่ตายด้วยโรคไข้รากสาดใหญ่ แต่ประชาชนไม่เชื่อ จนต้องมีการชันสูตร

จากการชันสูตรศพพิสูจน์ว่ามันเป็นกะโหลกของชายหนุ่มอายุราว 18 และ 20 และกะโหลกศีรษะล่าสุดเป็นเด็กผู้ชายอายุประมาณ12 และทุกศพถูกฆาตกรรม โดยฆาตกรที่ฆ่ามีความชำนาญในการใช้เครื่องมือฉลาดที่ฉลาดในการแยกกะโหลกศีรษะออกจากลำตัว และเนื้อก็ถูกชำแหละและออกจากร่างราวกับว่าเป็นชำแหละหมูขายไม่มีผิด

ตำรวจมืดแปดด้านกับคดีหัวกะโหลกแม่น้ำเลน ผู้เชี่ยวชาญหลายสาขาต่างบินมาเพื่อไขคดีนี้แต่ผลออกมาไม่ดีนัก ไม่มีหลักฐานใดๆ สาวไปถึงตัวฆาตกรรายนี้ได้

จากนั้นก็มีข่าวลือประหลาดๆ ที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้อีกว่า มีชายแปลกหน้าที่แปรงร่างเป็นหมาป่าออกหาเหยื่อเวลากลางคืน บางคนก็บอกว่าเด็กๆ ที่ถูกมันจับได้จะถูกเฉือนเนื้อเก็บไว้ในห้องใต้ถุนบ้าน และมีเนื้อรสชาติแปลกๆ ที่ลดราคาขายในตลาดมืด ซึ่งเจ้าหน้าที่ราชการเลือกที่จะเก็บเรื่องน่ากลัวเหล่านี้ไว้เป็นความลับและพยายามลบข่าวนี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ท่ามกลางคดีเด็กหายและการพบเหยื่อรายใหม่ในแม่น้ำเลนที่มีมาอย่างเรื่อยๆ ในวันต่อมา

หลังจากเหตุการณ์ค้นพบโครงกระดูกมากมายในแม่น้ำเลน ซึ่งเป็นแม่น้ำขนาดใหญ่และเป็นแม่น้ำศูนย์กลางของเมือง ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังตำรวจจำนานมากเพื่อค้นหาศพในแม่น้ำแห่งนี้โดยละเอียด และพบว่ามีชิ้นส่วนกระดูกของมนุษย์กว่า 500 ชิ้นส่วนอยู่ใต้แม่น้ำแห่งนี้ และผลการพิสูจน์พบว่าจากการพบชิ้นส่วนศพตั้งแต่วันแรกถึงวันนี้ มีเหยื่ออย่างน้อย 22 ราย อายุระหว่าง 15 และ20 ทุกศพถูกฆาตกรรมและถูกนำมาเลาะกระดูกชนิดที่ว่าแทบไม่มีเนื้อติดตามข้อต่อกระดูกสักนิด ผิวของกระดูกวาววับราบรื่นชนิดที่ว่าคนที่เลาะเนื้อมีความชำนาญมากๆ

และด้วยความบังเอิญ ตำรวจได้ผู้ต้องสงสัยคนหนึ่งชื่อ ฟริตส์ ฮาร์มานน์ เป็นชาวเยอรมัน เขาทำอาชีพตัวแทนจำหน่ายเครื่องนุ่งห่ม และอาหาร

ฟริตส์ ฮาร์มานน์ ถูกนำตัวไปสอบสวนเวลาต่อมา เขาปรากฏตัวต่อสาธารณะชน ด้วยรูปลักษณ์ของชายวัยกลางคนที่ดูแล้วน่าอกเห็นใจ, เป็นชายสบายๆ ดูแล้วเป็นมิตร สุภาพ, ตัวใหญ่และสูง, แต่งตัวระเบียบเรียบร้อย, ดวงตาหวานเหมือนมีความสุข, หนวดสีน้ำตาลบ่บอกถึงความชาวเยอรมันที่ดูแล้วมีนิสัยเงียบๆ

บรรยากาศการสอบสวน เต็มไปด้วยความเครียด ตำรวจพบชิ้นส่วนศพมนุษย์บางส่วนที่อพาร์ตเมนท์ของฮาร์มานน์ ระหว่างการสอบสวนฮาร์มานน์ มีสีหน้าเรียบเฉย ก่อนเอ่ยปากสารภาพตำรวจว่า.......

“ผมไม่เคยมีความตั้งใจที่จะทำร้ายเด็กหนุ่มเหล่านั้น ผมรู้ว่าบางสิ่งบางอย่างกำลังเกิดขึ้น และนั่นทำให้ผมร้องไห้...เมื่อถึงเวลาผมก็ขึ้นขี่พวกเด็กๆ แล้วกัดที่ลูกกระเดือก และบีบคอพวกเขาไปด้วย” ฟริตส์ ฮาร์มานน์ ชายในชุดสูทสีดำ ไว้หนวด ผมเกือบล้าน กล่าวต่อ “จากนั้นผมก็เอาเสื้อผ้าคลุมหน้าศพเสียเพื่อว่า พวกเขาจะได้ไม่จ้องมองหน้าผม

“ผมจะกรีดช่องท้องออกเป็นสองรอย แล้วเอาลำไส้ใส่ถังหิ้ว ตอนนี้เลือดชุ่มไปหมดแล้ว จากนั้นผมก็ทุบกระดูกให้แตก จนกระทั้งไหล่หลุดออกมา ตอนนี้ผมจะเอาหัวใจ ปอด และตับมาสับ แล้วโกยใส่ถังหิ้ว ผมจะแล่เนื้อเอากระดูกแล้วเอาไปใส่ถุงผ้าทาขี้ผึ้ง มันต้องใช้เวลา 5-6 เที่ยว ที่เดียวกว่าจะเคลียร์สิ่งเหล่านี้หมด หรือไม่ก็ทิ้งลงในส้วมเหนือในแม่น้ำ ผมเกลียดที่ทำอย่างนี้ แต่ผมก็ช่วยตัวเองไม่ได้ ความปรารถนานี้มันแรงกล้ามากกว่าความกลัวที่จะต้องฆ่าคนและหั่นศพ”

คำให้การบางส่วนของ ฟริตส์ ฮาร์มานน์ และเขากล่าวเสริมตอนท้ายว่า "Often, after I had killed, I pleaded to be put away in a military asylum, but not a madhouse. If Grans had really loved me he would have been able to save me. Believe me, I'm not ill — it's only that I occasionally have funny turns. I want to be beheaded. It'll only take a moment, then I'll be at peace.”

 

................................................

 

ชื่อเดิม Friedrich Haarmann

เกิด: 25 ตุลาคม 1879 ฮันโนเวอร์ เยอรมัน

ตาย: 15 เมษายน 1925 (รวมอายุได้ 45 ปี )

เหยื่อ 24 ราย(ความจริงมากกว่านี้ แต่ 24 ราย คือศาลตัดสิน)

ช่วงออกอาละวาด 1919 - 1924

ฟริตส์ ฮาร์มานน์ เกิดที่ฮันโนเวอร์ วันที่ 25 ตุลาคม 1879 เป็นลูกคนเล็กสุดในจำนวนลูกทั้งหกของครอบครัวฮาร์มานน์ ด้วยความที่เป็นลูกคนเล็กทำให้แม่ตามใจเขาจนเสียคน และชอบให้เขาเล่นตุ๊กตาผู้หญิงมากกว่าเล่นของเล่นสำหรับผู้ชาย จนเป็นเหตุที่ทำให้ฮาร์มานน์ รักและเทิดทูนแม่มาก

แต่ฮาร์มานน์ เกลียดพ่อ พ่อเขาชื่อซูลดอร์โอลลอ เป็นช่างไฟฟ้าที่นิสัยอารมณ์ร้าย ออกจะแปรปรวน และเป็นชายรักร่วมเพศ ซึ่งแม่ของฮาร์มานน์ ต้องคอยรองรับอารมณ์ของสามีเป็นประจำ

ด้วยความขมขื่นในวัยเด็ก ฟริตส์ ฮาร์มานน์ กลายเป็นคนก้าวร้าวรุนแรง ถึงขนาดจับไปรักษาที่โรงพยาบาลบ้า แต่ไม่นานก็ถูกปล่อยตัวออกมา เนื่องจากไม่พบอาการผิดปกติทางจิต

หลังจากนั้น ฟริตส์ ฮาร์มานน์ จึงกลายเป็นคนเร่รอน เร่ขายของ และลักเล็กขโมยน้อย แต่ตำรวจกับชอบฮามาน เพราะเขามักต่อสู้เมื่อถูกจับกุม แถมยังหัวเราะ พูดเรื่องตลกกับพวกตำรวจอีกด้วย และเป็นนักโทษตัวอย่าง

พอดีในปีที่ฮาร์มานน์จำคุกอยู่นั้น เป็นช่วงหลังสงครามโลก ที่ประเทศเยอรมัน เกิดความสับสนวุ่นวาย กฎหมายและกฎระเบียบต่างๆ ถูกทำลายไปจนหมด คนถือโอกาสทำกำไร คนหลอกหลวงและคดโกงมีอำนาจเหนือบ้านเมืองในภาวะขัดสนนี้

และเมื่อฮามานถูกปล่อยตัว เขากลับบ้านเกิดที่ฮันโนเวอร์ ไปประกอบอาชีพเป็นพ่อค้าขายของในตลาดมืด หรือไม่ก็นักต้มตุ๋นด้านหน้าของสถานีรถไฟ ซึ่งในช่วงนั้นมีผู้คนหลงใหลมาใช้บริการในสถานีรถไฟเป็นจำนวนมาก เช่น พวกอพยพ จากเยอรมัน หรือไม่ก็คนที่ไม่มีบ้าน แต่ต้องการเงิน บ้าน หรือความหวัง ที่ต้องการมีชีวิตอยู่

เมื่อพ่อค้าอารมณ์ร้ายอย่าง ฮาร์มานน์ รู้ดีว่าเขาควรที่จะฉวยโอกาสจากสถานการณ์นี้เก็บเกี่ยวผลประโยชน์

เขาเริ่มเปิดเช่าที่พักอาศัย ทำอาชีพคนขายเสื้อผ้ามือสอง และทำธุรกิจเป็นคนขายเนื้อหาบเร่ โดยบอกว่าเป็นเนื้อม้า, เนื้อหมู เนื่องจากเขามีความสามารถในการค้าเจรจา ในไม่ช้า การค้าของเขาก็เจริญรุ่งเรือง พวกแม่บ้านชอบมาซื้อของเขา เพราะราคาถูก มีสินค้าหลากหลาย และไม่เคยขาด อีกทั้งนิสัยของฮาร์มานน์เป็นคนชอบหัวเราะชอบเล่าเรื่องตลก เขามักใช้เวลาช่วงเย็นในสถานีเพื่อเป็นเพื่อนกับเด็กหนุ่มแถวๆ นั้น และแบ่งปันอาหารซึ่งกันแล้วกัน

หลายคนไม่สงสัยว่าฮาร์มานน์ เอาเนื้อพวกนี้มาจากไหน เพราะเยอรมันช่วงนี้ขาดแคลนเนื้อขนาดหนัก ทำให้เนื้อขาดตลาด และมีราคามากในตลาดมืด

แท้ที่จริงแล้วเนื้อที่ฮาร์มานน์ มาขายนั้นไม่ใช้เนื้อม้าแต่เป็นเนื้อคน

เหยื่อที่ฮาร์มานน์ นำมาฆ่านั้นส่วนใหญ่จะเป็นวัยรุ่นชายหนุ่ม อายุราวๆ 12-16 ปี ที่หนีออกจากบ้าน หรือหางานทำ จาก 1919 ถึง1924 ฮาร์มานน์ ทำการสังหารเด็กหนุ่มไปหลายราย เหยื่อของฮาร์มานน์ ส่วนใหญ่ก็อย่างที่ว่าคือคือคนพเนจรชายหนุ่ม และโสเภณีชายที่อาศัยอยู่รอบๆสถานีรถไฟศูนย์กลางของฮันโนเวอร์ โดยฮาร์มานส์จะล่าเด็กหนุ่มเหล่านี้โดยจะเข้าไปตีสนิท รับฟังความทุกข์ และให้คำแนะนำแก่พวกเขา และเมื่อพวกเขาเผลอก็พาไปหลับนอนกับเขาที่อพาร์ตเมนท์จากนั้นก็ฆ่าโดยการบีบคอ จากนั้นนำร่างของเหยื่อไปชำแหละเป็นอาหารส่งไปขายในตลาดมืด โดยอ้างว่าเป็นเนื้อหมู

ฮาร์มานน์ เป็นที่รู้จักดีในสังคมว่าเป็นคนชอบช่วยเหลือคนอื่น เป็นสายชั้นดีแก่ตำรวจ ในฐานสายลับในช่วงที่อาชญากรรมและการคดโกงเพิ่มมาขึ้น จนตำรวจให้ฉายาแก่เขาว่า "นักสืบ" แต่ฮาร์มานน์ ก็มีข้อแม้ให้แก่ตำรวจว่าต้องไม่สนใจธุรกิจของเขาเป็นการตอบแทนในการช่วยเหลือ

ในเดือนกันยายน 1918 พ่อแม่ของฟริเดล โรเทอร์ วัย 17 ปี แจ้งความว่าลูกชายของพวกเขาหายไป ล่าสุดมีคนพบเห็นเขาอยู่กับฮาร์มานน์ในห้องเล่นบิลเลียด ตำรวจจำเป็นต้องไปตรวจห้องของฮาร์มานน์ และตรวจดูแค่ผ่านๆ เท่านั้น

ไม่มีสิ่งใดผิดปกติ.......................

ต่อมา ฮามานน์ถูกนำตัวขึ้นชั้นศาล เมื่อตำรวจค้นห้องเขาอีกครั้ง คราวนี้พบศีรษะของฟรีเดล ที่ห่อกระดาษหนังสือพิมพ์ซ่อนไว้หลังเตาอบ

ฮามานน์สารภาพว่า เขาผูกมิตรกับเด็กนั้น ก่อนที่จะนำตัวไปที่บ้าน ข่มขืน และฆ่า โดยการกัดที่คออย่างโหด***ม จากนั้นก็นำศพสับเป็นชิ้นๆ เนื้อจะถูกนำมาขายในราคาถูกๆ กะโหลกและศีรษะจะถูกนำไปทิ้งแม่น้ำเลน

แต่เมื่อจำคุกไม่นานฮามานน์ก็แหกคุกหนีออกมา และหลบซ่อนตัวจนเรื่องสงบ จนสามารถเดินอวดโฉมในสังคมอีกครั้ง

กันยายน 1919 ฮามานน์กลับมาทำชั่วอีกครั้ง คราวนี้เขาได้ผู้ช่วยคนใหม่ชื่อ ฮาร์น กรานส์ (Hans Gran) อายุ 20 ปี เด็กหนุ่มลูชายของบรรณรักษ์ที่หนีออกจากบ้าน รูปร่างผอมบาง แต่จิตใจโสมน เกลียดชังมนุษย์เป็นอันมาก เขาแนะให้ฮามานน์ฆ่าเหยื่อ เพื่อที่เขาอยากได้เสื้อผ้าเหยื่อไปขายเท่านั้น

และฮามานน์ก็ทำตามที่เด็กนั้นขอ

เมื่อชายสองคนนี้ก็อาศัยอยู่อพาร์ตเมนต์ร่วมกัน นับตั้งแต่นั้นมา ปี1919 - 1924ก็เกิดคดีเด็กหายเป็นจำนวนถึง 600 คนในฮันโนเวอร์ เพื่อนบ้านต่างเห็นเด็กหนุ่มไปอพาร์ตเมนต์แห่งนั้น แต่ไม่มีใครกลับออกมาอีกเลย พวกเขาได้ยินเสียงสับและน้ำกระเซ็น

ครั้งหนึ่ง เพื่อนบ้านพบฮามานน์อยู่บนบันได เพื่อนบ้านก็หยุดคุยกับเขากัน ณ ที่นั้น ระหว่างคุยกัน กระดาษที่คลุมตะกร้าที่เขาถือมานั้น เปิดออกเล็กน้อย เธอเห็นตะกร้านั้นเต็มไปด้วยเลือด เพื่อนบ้านบางคนเห็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งนอนนิ่งบนเตียงของเขา แต่เขาบอกว่า “อย่าปลุก เขากำลังหลับอยู่”

บ่อยครั้งที่พ่อแม่เด็กที่หายตัวไปแจ้งตำรวจว่าฮามานน์ลักพาตัวพวกเขา แต่ตำรวจไม่สนใจมากนัก

และในช่วงที่เกิดคดีสูญหายของเด็กเป็นจำนวนมากนั้นเอง ตำรวจได้พบกะโหลกศีรษะเป็นจำนวนมากที่แม่น้ำเลน

จนกระทั้ง......ความชั่วร้ายของเขาถูกเปิดเผย จะว่าไปแล้วอาจเป็นเพราะความบังเอิญก็ได้ เพราะตอนนั้นตำรวจกำลังวุ่นอยู่กับคดีการหายตัวไปของเด็กหนุ่ม ไม่ได้สงสัยสักนิดว่าฮามานน์จะเป็นตัวการ

ทีแรก ฮาร์มานน์ ฟริตส์ ถูกจับด้วยข้อหาอานาจารและทำร้ายร่างกายต่อเด็กผู้ชายคนหนึ่งบนท้องถนนจนถูกนำมาเข้าซังเตที่โรงพัก

แม้ว่าจะเป็นคดีเล็กๆ แต่ตำรวจก็ต้องปฏิบัติตามหน้าที่ เมื่อจับฟริตส์มาแล้ว ก็ต้องมีการสอบสวนตามปกติ ได้มีการตรวจค้นห้องของฮาร์มานน์ ฟริตส์

แต่ตำรวจก็ต้องตะลึง เมื่อเห็นกองเสื้อขนาดมหึมา เตรียมจะซักเพื่อนำไปขาย บางตัวเปื้อนโคลน บางตัวเปื้อนเลือด สอบสวนไปสอบสวนมาปรากฏว่าตรงกับเสื้อผ้าของเด็กที่หายสาปสูญไปทั้งเมือง ซึ่งมีญาติๆของเหยื่อมาแจ้งข้อมูลให้กับตำรวจและรูปพรรณสัณฐาน

ไปไปมามา ฟริตส์ก็สารภาพออกมาอย่างหมดเปลือก และทำให้ฮาร์น กรานส์ ชายหนุ่มคู่โฮโมของฟริตส์ต้องถูกติดร่างแหไปด้วย

เรื่องราวมีอยู่ว่า ฟริตส์และฮานส์คู่รักวิปริตได้ร่วมกันฆ่า และเชือดชำแหละเด็กๆโดยเฉพาะเด็กหนุ่มเหล่านี้ออกมา

"เพื่ออะไร"ตำรวจขย้อนต่อคำตอบที่ได้รับ

"ผมนำเนื้อพวกมันไปขายทอดตลาดหมดแล้วครับ" ฟริตส์ตอบได้หน้าตา "แล้วในฆ่าพวกเขาอย่างไรล่ะ"ตำรวจถามต่อ

ฮาร์มมันต์ตอบอย่างนิ่ม ๆ ว่า "กัดที่คอ"

19 ธันวาคม 1924 เวลา 10.00 น. ฮาร์มมันน์ถูกตัดสินโทษประหารชีวิตด้วยการตัดคอ ข้อหาฆ่าเด็กหนุ่ม 24 คน และกรานส์คู่หูได้รับโทษประหารเช่นกันจากข้อหาสังหารเด็กหนุ่มที่ชื่อ ฮันส์ นัปเปล

แต่ท้ายสุดเกิดการพลิกผันเล็กน้อย เพราะมีผู้พบจดหมายของฮาร์มมันน์ที่ข้างถนน จ่าหน้าถึงพ่อของฮันส์ กราส์ อีกฉบับจ่าหน้าถึงตำรวจ ใจความเขียนว่า

"Hans Grans has been sentenced unjustly and that's the fault of the police and also because I wanted revenge ... Put yourself in Grans's position: he will question the existence of the Lord and justice just because of me ... May Hans Grans forgive me for my revenge and humanity."

เนื้อความบอกว่ากราส์ไม่มีส่วนเกี่ยงข้องทั้งหมด ดังนั้น กราส์ จำคุกตลอดชีวิต และได้รับหย่อนโทษเป็น 12 ปีในเวลาต่อมา

ก่อนประหาร ฮาร์มันน์ ขอสั่งเสียครั้งสุดท้ายว่า.....

"I want to be executed on the marketplace. On the tombstone must be put this inscription: 'Here Lies Mass-Murderer Haarmann'."

(“ผมอยากจะให้มีการประหารชีวิตในตลาดในเมือง มีหินป้ายชื่อติดบนหลุมศพของผมจารึกไว้ว่า “นี้คือศพของฮาร์มันน์ ฆาตกรที่สังหารคนจำนวนมหาศาล”)

หลังจากเสร็จสิ้นการประหาร ฮาร์มันน์ ถูกเก็บรักษาอย่างดีโดยนักวิทยาศาสตร์

และเรื่องราวของเขาก็ยังถูกถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์,นวนิยายมากมายตามมา เช่นเรื่อง The Bloody Red Baron (1995)

ขอบคุณที่มา: Facebook/WorstCrimeAgainst.
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
Illuis's profile


โพสท์โดย: Illuis
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
20 VOTES (4/5 จาก 5 คน)
VOTED: todaysayhi, นางเบิร์ด, น้องขนุน, taotong, ฮั่วชวี่ปิ้ง
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
พระปีนเสาตัดพ้อ สังคมเปลี่ยนไปเยอะ บิณฑบาตทั้งวันไม่มีคนใส่ ต้องหันมาพึ่งพาเซเว่น.."นุ่น วรนุช อวดลุคชุดชาวดอย สุดสง่าท่ามกลางอาณาจักร 8,600 ไร่ ของ สามีต๊อด ปิติ""เฮราคลิออน: เมืองโบราณใต้ทะเลจากเป็นแค่ตำนานเล่าขาน กลายเป็นความจริง !!!"ราคาทองร่วงหนัก10 อันดับเลข ยอดฮิต หวยแม่จำเนียร 16/11/67หนุ่มโพสต์ตามน้องหมา ก่อนทราบถูก ชาวอาข่า ฆ่ๅ เอาเนื้อไปกินทำไมในสงครามโบราณผู้โจมตี เลือกที่จะใช้ไม้ซุงชนประตูเมืองแทนที่จุดไฟเผา?ไม่เชื่ออย่าลบหลู่!! กับ 45 ความเชื่อสมัยโบราณหนุ่ม กรรชัยประกาศตัดความสัมพันธ์ ฟีล์ม รัฐภูมิภาพมุมสูงที่มีความสวยงาม และยิ่งใหญ่ของ "สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์"หนุ่ม กรรชัย ประกาศตัดความสัมพันธ์ ฟิล์ม รัฐภูมิ พร้อมฟ้องข้อหาหมิ่นประมาทและทำให้เสียชื่อเสียงหนุ่มเขมรปากดี!! บอกคนไทยเคลมตัวหนังสือของกัมพูชาไปดัดแปลงเป็นภาษาตัวเอง
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
"เฮราคลิออน: เมืองโบราณใต้ทะเลจากเป็นแค่ตำนานเล่าขาน กลายเป็นความจริง !!!"พระปีนเสาตัดพ้อ สังคมเปลี่ยนไปเยอะ บิณฑบาตทั้งวันไม่มีคนใส่ ต้องหันมาพึ่งพาเซเว่น..😊 ชวนลองเข้ามาดูภาพถ่ายทรงพลัง ที่จะทำให้รู้สึกว่าวันของคุณดีขึ้น ☺
ฆาตกรโครตจิต Russell Williams
ตั้งกระทู้ใหม่