กฎหมายใหม่ ผู้ขับขี่ที่มีปริมาณแอลกอฮอลในเลือดเกินกว่า 50 มิลลิกรัม%หรือเบียร์3แก้ว กำหนดให้ประกันไม่ต้องคุ้มครองแล้ว!!!
เมาขับชนประกันไม่จ่าย คปภ. งัดมาตรการเด็ดลดอุบัติ เหตุบนท้องถนนหากเกิดอุบัติเหตุแล้วตรวจพบแอลกอฮอล์ในร่างกายเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จากเดิม 150 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เริ่ม 1 มิ.ย.นี้ ส่วน ผู้ประสบภัยหรือบุคคลภายนอกที่ได้รับความเสียหาย บริษัทประกันยังจ่ายให้ตามเดิม ก่อนตามไปเรียกเก็บค่าเสียหายจากโชเฟอร์ที่เมาแล้วขับอีกต่อหนึ่ง
เมื่อวันที่ 18 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้ออกมาตรการใหม่ เพื่อหวังช่วยลดอุบัติเหตุจากการเมาแล้วขับ โดยปรับข้อยกเว้นการรับผิดชอบของบริษัทประกันภัย ในกรณีที่ผู้ขับขี่เมาแล้วขับ แก้ไขปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดของผู้ขับขี่ให้ลดลงเท่ากับที่กฎหมายกำหนด ที่ 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มิ.ย.ที่จะถึงนี้
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันอุบัติเหตุบนถนนในไทยมีสถิติผู้เสียชีวิตสูงเป็นอันดับ 1 ในภูมิภาคอาเซียน และสาเหตุการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่พบ อันดับต้นๆ คือการเมาแล้วขับ ที่ผ่านมาได้ร่วมมือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหลายฝ่ายเห็นตรงกันว่าลำพังมาตรการเดิมๆ ที่เคยใช้รณรงค์ลดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลวันหยุดเพียงอย่างเดียวไม่สามารถลดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ จำเป็นต้องมีมาตรการใหม่ๆ หนึ่งในนั้นคือการใช้มาตรการทางด้านประกันภัย
ประกอบกับการเปิดรับฟังความคิดเห็นทุกภาคส่วนแล้ว คปภ.เห็นว่าการปรับแก้ข้อยกเว้นในกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์เรื่องลดปริมาณแอลกอฮอล์ให้เป็นไปตามกฎหมาย ว่าด้วยการจราจรทางบกกำหนดจะเป็นผลดีต่อประชาชนมากกว่า ดังนั้น ในฐานะนายทะเบียนจึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 29 วรรคสอง แห่งพ.ร.บ.ประกันวินาศภัย พ.ศ.2535
ออกคำสั่งนายทะเบียนที่ 11/2560 เรื่องให้แก้ไขแบบปรับแก้ข้อยกเว้นตามคำสั่งนายทะเบียนที่ 22/2551 ลงวันที่ 29 ก.ย. พ.ศ.2551 ข้อ 2 และข้อ 3 (เดิม) “การขับขี่โดยบุคคลซึ่งในขณะขับขี่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเส้นเลือดไม่น้อยกว่า 150 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์” สำหรับกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์และเอกสารแนบท้ายของกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ที่บริษัทได้รับความเห็นชอบจากนายทะเบียน
แก้ไขข้อความเป็น “การขับขี่โดยบุคคลซึ่งในขณะขับขี่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกินกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นไปตามกฎกระทรวงฉบับที่ 16 (พ.ศ.2537) ออกตามความในพ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 กำหนดให้ถือว่า “เมาสุรา” ซึ่งคำสั่งนี้ให้มีผลใช้บังคับสำหรับการทำสัญญาประกันภัยกับบริษัทประกันภัยตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.นี้เป็นต้นไป
สำหรับสาระสำคัญคือ กรณีที่ผู้ขับขี่รถเอาประกันภัยภาคสมัครใจมีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกินกว่า 50 มิลลิกรัมเมื่อประสบอุบัติเหตุจะไม่ได้รับความคุ้มครองทั้งชีวิตและทรัพย์สินจากกรมธรรม์ แต่ผู้ประสบภัยหรือบุคคลภายนอกที่ได้รับความเสียหายจากรถคันที่เอาประกันภัยดังกล่าวยังคงได้รับความคุ้มครอง โดยบริษัทประกันภัยของรถคันที่เอาประกันภัยฝ่ายผิดจะต้องให้ความคุ้มครองชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้กับผู้ที่ได้รับความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน โดยบริษัทประกันภัยจะไปไล่เบี้ยเรียกคืนค่าสินไหมทดแทนที่บริษัทจ่ายไปจากผู้ขับขี่ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกินกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ต่อไป ทั้งนี้ การปรับเปลี่ยนปริมาณแอลกอฮอล์ดังกล่าวไม่กระทบต่อความคุ้มครองของการประกันภัยรถภาคบังคับ หรือประกันพ.ร.บ
สรุปก็คือต่อไปใครคิดจะทานเบียร์มากกว่า 3 แก้ว ก็มาแท็กซี่ เถอะปลอดภัยกว่าเยอะครับ
ค้นพบแหล่งทองคำกว่า 500 ตัน มูลค่าสูงถึง 600,000 ล้านหยวน
สถานีรถไฟเกือบเจ๊ง แต่รอดเพราะแมวตัวเดียว ตำนาน ทามะนายสถานีขนฟูแห่งญี่ปุ่น
ช็อกวงการมวย! “ตะวันฉาย” ขาหักหลังพ่าย TKO ยกแรก
เครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจ
ไทย ชวดเหรียญทอง ปันจักสีลัต ทั้งที่กำลังจะขึ้นรับเหรียญ
จีน ไฟเขียว ให้ไทย ถล่มรังแก๊งสแกมเมอร์
เมื่อวิทยาศาสตร์อธิบายวินาที "กระดูกร้าวถึงหัก" บนสังเวียนของตะวันฉาย
นักมวยรองแชมป์โอลิมปิก แซะเจ้าภาพไทย หลังตกรอบรองฯ ซีเกมส์ 33
มาตรการคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซียแบบ “มหาศาล” ของทรัมป์ จะเขย่ามอสโกแค่ไหนและคำตัดสินใจของจีนกับอินเดียคือหมากชี้ขาด
สงครามยาเสพติดเวอร์ชันทรัมป์
4 พันธุ์ไม้ "นักดูดฝุ่น" ฟอกอากาศขั้นเทพที่ควรมีติดบ้าน
IO เขมรปั่นหนัก! ใช้ AI สร้างพาสปอร์ตปลอม อ้าง “บัวขาว” เป็นคนกัมพูชา ไม่ใช่คนไทย
โรงแรมในเกียวโตลดราคาเหลือ 3,000 เยนต่อคืน หลังไม่มีนักท่องเที่ยวจีน
สงครามยาเสพติดเวอร์ชันทรัมป์



