หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

เช่าบ้าน กับ ซื้อบ้าน แบบไหนดีกว่ากัน

โพสท์โดย cmcpro2560

 

 

 

เปรียบเทียบจุดเด่นและจุดด้อยของการเช่าบ้านและซื้อบ้าน ให้คุณได้พิจารณาก่อนตัดสินใจ  

การเช่าบ้าน (Renting)

  1. ไม่ต้องหาเงินจำนวนมากมาเพื่อจะดาวน์บ้าน หรือซ่อมแซม ตกแต่งบ้าน
  2. เพียงแต่มีเงินจำนวนหนึ่ง ที่จะจ่ายค่าเช่าบ้านเท่านั้นพอ
  3. ค่าซ่อมแซมตกแต่ง ต่าง ๆ เป็นความรับผิดชอบ ของเจ้าของผู้ให้เช่าทั้งสิ้น
  4. การเช่า จึงมีความเหมาะสมมาก ต่อคนหนุ่มสาวที่ยัง มีรายได้ไม่มากนัก และยังไม่แน่ใจว่าจะตั้งถิ่นฐานอยู่ใดแน่
  5. สัญญาเช่า ส่วนมากเป็นสัญญาเช่าปีต่อปีผู้เช่าจะโยกย้ายไปอยู่ไหนก็จะง่าย เพราะไม่มีพันธะผูกพันอะไร ไม่ต้องวิตกในเรื่องการจัดการขายทรัพย์สินเหมือนการซื้อบ้าน
  6. ในการเช่า ผู้เช่ามีความรับผิดชอบเฉพาะความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทรัพย์สินของตนที่อยู่ในที่เช่าเท่านั้น ไม่ต้องรับผิดชอบบ้าน หรือบริเวณภายนอก เพราะในเรื่องการสร้างระบบป้องกันความปลอดภัยของบ้าน และทรัพย์สินภายนอกเป็นหน้าที่ของผู้ให้เช่า

การซื้อบ้าน (Buying)

  1. การมีบ้านถือเป็นการลงทุนอย่างหนึ่ง ซึ่งจะให้ผลคุ้มค่าอย่างมากในอนาคต เพราะราคาบ้านและที่จะสูงขึ้นตลอดเวลา บ้านถือเป็นสินทรัพย์ทุนอย่างหนึ่งที่เราสร้างได้ (Build up equity)
  2. เมื่อจะมีบ้าน ค่าใช้จ่ายทุกอย่างที่เกิดขึ้นเรา ต้องรับภาระหมด โดยจะต้องตั้งงบประมาณเต็มที่ เงินดาวน์บ้าน ค่าผ่อนบ้าน ค่าตกแต่ง ซ่อมแซม ค่าประกัน ค่าดูแลรักษา และอื่น ๆ จิปาถะ
  3. เมื่อซื้อบ้านแล้ว ถ้าเดือดร้อนต้องการเงิน จะขายบ้างครั้งจังหวะไม่ดี ก็ขายออกยากเหมือนกัน
  4. การจ่ายดอกเบี้ยในการผ่อนบ้านสามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีได้ แต่ไม่เกิน 10,000 บาท ในขณะที่ค่าเช่าบ้านไม่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้
  5. บ้านที่ได้ซื้อแล้วถ้าจำเป็นต้องโยกย้ายไปอยู่ที่อื่น และต้องการขายบ้าน การขายอาจทำได้ไม่ง่ายนัก  ภาวะเศรษฐกิจไม่ดี อาจขายไม่ได้ตามราคาที่ต้องการ  ทั้งยัง ต้องเสีย ค่านายหน้าในการขายอีกด้วย  หรือมิฉะนั้นจะต้องถือไว้อย่างนั้นจนกว่า ราคาจะกระเตื้องขึ้น
  6. เนื่องจากบ้านที่เราลงทุนซื้อ เป็นทรัพย์สินที่มีค่าที่ต้องรักษาไว้ ดังนั้น เจ้าของต้องลงทุนทุกอย่าง เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น จึงต้องจ่ายค่าติดตั้ง ระบบความปลอดภัย และค่าประกันอัคคีภัยทุกอย่างเอง และถ้าบังเอิญ เกิดอัคคีภัยขึ้น เจ้าของต้องรับภาระความเสี่ยงเอง ในส่วนที่บริษัทประกันมิได้ชดใช้

 

ขอบคุณที่มา: http://www.cmc.co.th/CMC2017/news.php?id=1626
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
cmcpro2560's profile


โพสท์โดย: cmcpro2560
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
12 VOTES (4/5 จาก 3 คน)
VOTED: หน่าน้อย, zerotype, Tabebuia
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
คิดมากหยุดคิดไม่ได้จัดการกับความเครียดยังไง?เศร้า! หนุ่มจิตอาสาชนราวสะพานดับคาที่เทพีเสรีภาพถือหนังสืออะไร?สนามบินที่มีผู้โดยสารมากที่สุด ที่ตั้งอยู่บนเกาะในเขตประเทศไทยชาวเน็ตสับเละ!! เหล่าดาว TikTok แห่เต้น Rockstar ตามลิซ่าบนถนนเยาวราชของดีประเทศไทย! อุทยานแห่งชาติภูจองนายอยปลาสวยงามที่มีราคาแพงมากที่สุด ที่สามารถหาซื้อได้ในท้องตลาดวิธีเพาะเห็ดเผาะ เห็ดถอบ (มีคลิป)โรงแรมในช่องเขา ความงามที่เคยรุ่งเรือง
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
จุดที่น้ำลึกมากที่สุด เท่าที่เคยมีการสำรวจพบบนพื้นผิวโลก
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
เลือกโรงเรียนอนุบาลนานาชาติที่ไหนดีให้ลูกเรียนอย่างมีคุณภาพบริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพลาออกจากงานอย่างไรดีที่นี่มีคำตอบ"ฝันว่านอนไม่หลับ": เมื่อโลกแห่งความฝันสะท้อนความจริงที่เหนื่อยล้า🎮 "ติดเกม" แค่ไหนถึงเรียกว่า "มีปัญหา"? เมื่อโลกแห่งเกมกลายเป็นโลกทั้งใบ 🎮
ตั้งกระทู้ใหม่