นางในอยู่ไหนกัน:เขตฝ่ายในของจีนสมัยราชวงศ์ชิง
คำพูดของจีนเกี่ยวกับจำนวนนางในวังจีน คือ “นางงามในวังใน ๓๐๐๐ นาง” (后宫三千佳丽:hou gong san qian jia li) กับอีกคำหนึ่งพูดเพื่อบรรยายจำนวนอาคารและหมู่พระสนม คือ “สามพระตำหนักหกหมู่เรือน ๗๒ พระสนม” (三宫六院 七十二妃:san gong liu yuan qi shi er fei)แต่เอาเข้าจริงก็อาจจะมากกว่าน้อยก็กว่า แต่อย่างน้อยในราชวงศ์ชิงก็น้อยกว่า คือ พระสนม และเจ้าจอม เท่าที่มีบันทึก มีประมาณ ไม่เกิน ๑๐๐ คน โดยมากจะเป็นตัวเลขระหว่าง ๔๐ – ๗๐ คน อาทิ ในสมัยพระเจ้า คังซี มีประมาณ นางในประมาณ ๔๙ คน พระเจ้าหยงเจิ่น มีประมาณ ๓๐ คน พระเจ้าเฉียนหลงมีประมาณ ๔๐ คน นี้คือที่มีการบันทึก ไม่มีการบันทึกคงมีอีกไม่น้อย น่าจะถึงร้อยคน
พระราชวังหลวงของจีน ในเขตพระราชฐานชั้นใน
พระสนมจำนวนมหาศาลนี้จะถูกจัดให้ไประทับในเขตฝ่ายในของวังหลวง โดยพระสนมในรัชกาลปัจจุบันจะประทับในเขตหมู่ตำหนักตะวันออกและตะวันตก ๖ ตำหนัก (东西六宫: dong xi liu gong) จริงๆ ไม่ได้มีแค่ ๖ ตำหนัก แต่มี ๑๒ ตำหนัก แต่ด้วยความที่แบ่งข้างละ ๖ เลยเรียก ๖ ตำหนักกันเรื่อยมา
หมู่ตำหนักทั้ง ๑๒ นี้จะอยู่ขนาบข้างพระตำหนักทั้งสาม (三宫: san gong) งามไสว ลดระเบียบเรียงชั้นเป็นหลั่นไป อันได้แก่พระตำหนักเฉียนชิงกง ซึ่งเป็นที่ประทับของฮ่องเต้ พระตำหนักคุนหนิงกง ซึ่งเป็นที่ประทับของฮองเฮา พระที่นั่งเจียวไท่กงที่เป็นเก็บรักษาพระราชสมบัติอันมีค่า ทั้งนี้การสร้างวังให้มีพระตำหนักที่ประทับสำหรับฮ่องเต้ ๓ องค์และมีตำหนักให้เหล่าสนมกำนัลอาศัยอีก ๖ ตำหนักไว้ซ้ายขวาของพระตำหนักที่ประทับ เป็นธรรมเนียมมาตั้งแต่ก่อนสมัยราชวงศ์ชิง โดยปรากฎครั้งแรกในบันทึกธรรมเนียม (礼记: li ji) ซึ่งเขียนตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฮั่น
ภาพซีกหนึ่งของหมู่ตำหนักทั้งหก ที่ขนาบของพระตำหนักที่ประทับของฮ่องเต้ และฮ่องเฮา
ตำหนักทางตะวันออก ๖ ตำหนัก (东六宫:dong liu gong)ประกอบด้วยตำหนักจิงเหรินกง ตำหนังจงชุยกง ตำหนักเฉิงเฉียนกง ตำหนักจิงหยางกง ตำหนักหยงเหอกง และตำหนักหยานซีกง และตำหนักตะวันตก ๖ ตำหนัก (西六宫:xi liu gong)ประกอบด้วย ตำหนักชูซิวกง ตำหนักอี้คุนกง ตำหนักฉางชุนกง ตำหนักหยงโซวกง ตำหนักชีเชียงกง ตำหนักเซียนฟูกง ตำหนักทั้ง ๖ เหล่านี้ จะประกอบด้วยเรือนทั้งหมด ๘ หลัง โดยในแปดหลังนี้จะมีเรือนประธานเป็นเอก ๑ หลัง บวกลบคูณหารแล้ว สรุปในวังจะมีอาคารหลักให้ฝ่ายในของฮ่องเต้รัชกาลปัจจุบันอาศัยได้ทั้งหมด ๙๖ หลังไม่นับอาคารอื่นๆในวังอีก
สรุปแล้ว มีพระสนมชั้นสูงรวมเป็น ๑๓ องค์ แต่ปรกติแล้วมักจะไม่ครบ ๑๓ เสียทีเดียว ตั้งกันเรื่อยๆ จะครบก็ได้ แต่อย่าเกิน เว้นเสียแต่ผู้ดำรงตำแหน่งก่อนหน้าได้ยศสูงขึ้น หรือไม่ก็สิ้นชีวิตไปแล้ว เลยตั้งขึ้นมาอีกได้ ดังนั้น ช่วงแรกๆใครได้ตำแหน่งก่อนก็เข้าไปอยู่เป็นเจ้าของหมู่ตำหนักก่อน ถ้าใครเกิดซวยดันได้มาเป็นตำแหน่งท้ายๆ โดยเฉพาะเป็นตำแหน่งผินคนสุดท้าย ก็รับกรรมไปไม่ได้เป็นเจ้าของตำหนัก ต้องไปอาศัยเขาอยู่ หรือไม่ก็ไปอยู่ที่ตำหนักอื่นที่ไม่ใช่ ๑๒ ตำหนักนี้ โดยพระสนมศักดิ์สูงเหล่านี้จะประทับในตำหนักประธานของหมู่ตำหนักและเป็นประธานมีอำนาจปกครองหมู่ตำหนักของตน
คราวนี้มาถึงพวกเจ้าจอมที่มีจำนวนไม่จำกัด ไม่ใช่พระสนมชั้นสูง เรียงลำดับจากสูงไปต่ำ ได้แก่
๑. กุ่ยเหริน (贵人: gui ren)
๒. ฉางจ้าย (常在: chang zai)
๓. ตาอิ้ง (答应: da ying)
นางในชั้นรองนี้แยกย้ายไปอยู่ตามเรือนบริวารในหมู่ตำหนักทั้ง ๑๒ นั้น ซึ่งผู้ที่อาศัยอยู่ในหมู่ตำหนัก จะต้องเชื่อฟังท่านเจ้าของตำหนัก เจ้าของตำหนักอาจจะว่ากล่าวตักเตือน ดุด่า ตบตี เรื่อยไปจนถึงชวนกินข้าว ชวนนั่งเล่นไผ่นกกระจอก ไผ่ตอง ปักผ้า ทำขนม เลี้ยงหมาเลี้ยงแมว ฯลฯ แล้วแต่อัธยาศัยเจ้าของตำหนักจะน่ารักแค่ไหน มีเรือน ๙๖ หลังให้อยู่แบ่งๆกันไป ส่วนบริวารของนางในทั้งหลายก็จะอาศัยร่วมอยู่ในเรือนของนางในนั้นเอง หรือไม่ก็กระจายพักในส่วนที่พักของขันทีและข้าหลวง
ส่วนพระสนมของรัชกาลก่อน หลังจากสิ้นรัชกาลแล้วต้องย้ายออกจากหมู่ตำหนักตะวันออกตะวันตกทั้ง ๑๒ ตำหนัก แล้วย้ายไปอยู่ในหมู่ตำหนักแถบทิศตะวันตกเฉียงเหนือของพระราชวังหลวง อาทิ ตำหนักชือหนิงกง ตำหนักโซ่วคังกง ตำหนักโซ่วอันกง ตำหนักอิงฮัวกง เป็นต้น ตำหนักชือหนิงกงนี้ฮองไทเฮาจะประทับ แต่ว่าพระสนมที่มีพระโอรสธิดาอาจจะทูลลาออกไปร่วมประทับกับพระโอรสธิดานอกวังได้ เว้นแต่พระธิดาจะอภิเษกกับเจ้านายที่อยู่ชายแดนอาทิเขตมองโกเลีย อันนั้นก็เกินกว่าพระมารดาจะตามไปประทับร่วม พระสนมรัชกาลก่อนนี้ถ้าไม่ประทับในวังหลวง ก็จะไปประทับนอกวังหลวง โดยประทับตามพระราชวังแห่งต่างๆที่สร้างไว้เป็นที่เสด็จประพาส ดังพระราชวังฤดูร้อนแห่งต่างๆ หรือไม่อีกทีก็ทูลลาขอกลับไปอยู่กับญาติ แต่กรณีนี้เกิดขึ้นได้น้อย ไม่เช่นนั้นก็ทูลลาออกไปบวชอยู่ในวัดหลวงเป็นนางชีจนวันตาย
ภาพตำหนักชือหนิงกง และเขตตำหนักในบพระสนมรัชกาลก่อนนี้ถ้าไม่ประทับในวังหลวง