เสริมมงคลรับปีใหม่ไทยที่พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ
สงกรานต์ปีนี้ไม่ได้ไปไหนเพราะเบื่อการเดินทาง และรถติดครับ
เลยขออยู่เที่ยวในกรุงเทพฯแบบชิวๆดูบ้างดีกว่า และก็ไม่ผิดหวังจริงๆครับ
เมื่อตัดสินใจเลือกออกไปไหว้สักการะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์เสริมมงคลต้อนรับปีใหม่ไทยที่พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ
เพราะเห็นโฆษณามาจากทางอินเตอร์เนต และบ้านผมก็อยู่แถวอุดมสุขซึ่งเดินทางสะดวกมาก
ในวันที่ผมเดินทางไป เป็นวันที่ทางพิพิธภัณณ์กำลังมีพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุพอดีครับ
เฉพาะวันที่ 13 เขาเปิดให้ประชาชนเข้าฟรีในช่วงเช้าครับ (แต่ห้ามขึ้นไปบนตัวช้าง) สำหรับช่วงบ่ายก็มีโปรค่าเข้าลดครึ่งราคาเหลือ 100 บาทไปจนถึงวันที่ 16 นี้ครับ
จึงถือเป็นโชคดี ที่ผมได้มากราบไหว้บูชาสิ่งศักดิสิทธิ์ (แบบฟรีๆ) ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ขึ้นไปชมความสวยงามบนตัวช้างเอราวัณก็ตาม
จากครั้งล่าสุดที่มา ที่นี่มีการเปลียนแปลงไปพอสมควรครับ
ตอนนี้ที่นี่เหมือนเขาจะทำเป็นเส้นทางการกราบไหว้บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้นักท่องเที่ยวได้เดินตาม
เส้นทางนี้เริ่มจากจุดแรกที่การศักการะบูชาที่องค์เจดีย์จุฬามณี ที่บรรจุองค์พระสารีริกธาตุไว้ภายใน
จากนั้นเดินต่อไปทางด้านซ้ายใกล้ๆทางเข้าพิพิธิภัณฑ์จะพบกับศาลาท้าวมหาพระพรหมครับ
เมื่อกราบไหว้บูชาขอโชคขอลาภกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็เดินต่อไปลอดท้องช้างที่สร้างเรียงรายอยู่ตามทางเดินเป็นการเสริมมงคล
ระหว่างทางจะมีจุดแวะอีกหนึ่งจุดคือ ศาลาพระตรีมูรติ ซึ่งที่นี่มีความเชื่อไม่เหมือนที่อื่นว่า นอกจากท่านจะบันดาลให้ผู้ที่ศรัทธาสมหวังในเรื่องของความรักได้แล้ว ท่านยังศักดิ์สิทธิ์ในเรื่องของความสำเร็จ และหน้าที่การงานด้วยครับ
เมื่อกราบไหว้บูชาจุดนี้เรียบร้อยแล้วก็เดินลอดท้องช้างต่อตามเส้นทาง ก็จะมาพบกับแท่นบูชาพระพิฆเนศ เทพแห่งความสำเร็จครับ
และในละแวกเดียวกัน ทางด้านซ้ายขององค์พระพิฆเนศนั้น ก็จะมีศาลาที่มีเจ้าแม่กวนอิมประดิษฐานอยู่ครับ ซึ่งที่นี่แปลกมาก เพราะว่ามีเจ้าแม่กวนอิมปางที่เป็นผู้ชายด้วยครับ คนจะนิยมมาขอพรในเรื่องสติปัญญาบารมีกันครับ
เมื่อเสร็จจากจุดนี้ ก็สามารถเดินต่อขึ้นไปเยี่ยมชมด้านในขององค์ช้างเอราวัณได้ครับ แต่คราวนี้ผมไม่ได้ขึ้นเพราะไปช่วงเช้า ซึ่งเป็นช่วงที่ทางพิพิธภัณฑ์กำลังทำพิธีกันอยู่ครับ
หลังจากนั้นถ้าใครอยากจะลงมาสักการะสิ่งศักดิ์ต่อทางด้านหน้าก็สามารถทำได้ครับ
เท่านี้ก็ถือว่าครบถ้วน เสริมความเป็นมงคลกันได้อย่างเต็มที่ครับ