เทคนิค ที่ไม่ใช่ "อาชีวะ" ในการเลือก ตัวปั๊มน้ำ
ปัจจุบันปั๊มน้ำที่ใช้ภายในบ้าน ในอาคาร มีหลายแบบ มีหลักการทำงานต่างๆ กัน แบบที่นิยมใช้ในปัจจุบันมี 4 แบบ ได้แก่
- ปั๊มน้ำอัตโนมัติ แบบมีถังแรงดัน ควบคุมการทำงานด้วย สวิทช์แรงดัน (Pressure Switch) ปั๊มจะทำงานเมื่อแรงดันในถังแรงดันต่ำกว่าที่ตั้งไว้ และหยุดเมื่อแรงดันสูงถึงกำหนด
- ปั๊มน้ำอัตโนมัติ แบบแรงดันคงที่ ควบคุมการทำงานด้วย สวิทช์แรงดัน (Pressure Switch) และสวิทซ์ตรวจจับการไหลของน้ำ (Flow Switch) โดยปั๊มจะทำงานตลอดเวลาที่เปิดน้ำ และจะหยุดเมื่อปิดน้ำ ไม่มีอาการน้ำไหลแรง-เบา ขณะเปิดน้ำ
- ปั๊มน้ำอัตโนมัติ แบบอินเวอร์ทเตอร์ ควบคุมการทำงานด้วย อินเวอร์ทเตอร์ (Inverter) ปั๊มทำงานตลอดเวลาที่เปิดน้ำ และปั๊มจะพยายามทำงานให้น้ำไหลแรงเท่ากัน คือเมื่อเปิดก๊อกจำนวนมากขึ้น ปั๊มจะหมุนเร็วขึ้น ให้ปั๊มจ่ายน้ำได้มากขึ้น แต่ก็หมุนเร็วขึ้นได้ค่าหนึ่งเท่านั้น
- ปั๊มน้ำธรรมดา ควบคุมการทำงานด้วยสวิทซ์ลูกลอย ใช้สูบน้ำขึ้นถังพักน้ำ เพื่อเก็บน้ำไว้ใช้ หรือเก็บน้ำบนอาคาร ฉะนั้นก่อนเลือกปั๊มน้ำ ควรศึกษา และเปรียบเทียบหลักการทำงานต่างๆ ให้เข้ากับลักษณะการใช้งานเป็นสำคัญ
ปัจจุบัน ปั๊มน้ำอัตโนมัติได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เหมาะสำหรับการใช้ภายในบ้าน โดยแบ่งออกเป็น 2 แบบ
- แบบที่ 1 ปั๊มมีถังแรงดันอากาศ
- แบบที่ 2 ปั๊มแรงดันคงที่
สำหรับปั๊มมีถังแรงดันอากาศ ข้อดีคืออายุการใช้งานนานกว่า แต่ข้อเสียคือตัวถังทำด้วยเหล็กแล้วเคลือบด้านใน พอใช้ไปนานๆ ด้านในจะเป็นสนิม เวลารั่วต้องเปลี่ยนถังใหม่ แต่ปัจจุบันมีเฉพาะตัวถังขาย ถ้ามอเตอร์ไม่เสียก็เปลี่ยนแต่ถัง ส่วนปั๊มแรงดันคงที่ ข้อดีคือถ้าเราเปิดน้ำ 4 จุดพร้อมกัน แรงดันน้ำจะไหลเท่ากันทั้ง 4 จุด ไม่ว่าก๊อกน้ำจะอยู่ด้านหน้าหรือด้านหลัง ถ้าเทียบทั้งสองแบบที่วัตต์เท่ากัน ปั๊มแรงดันอากาศจะดึงน้ำได้แรงกว่า
การเลือกใช้ปั๊มน้ำนั้น จะต้องคำนวณจากจำนวนผู้อยู่อาศัยเป็นหลัก เช่น ทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น จะมีแค่ 2-3 ห้องน้ำ เลือกใช้ปั๊มขนาด 100-150 วัตต์ก็พอ หรือถ้าไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น เลือกใช้แค่ 100 วัตต์ เราก็สามารถเปิดน้ำพร้อมกันได้ 2-3 จุด แต่ถ้าใช้เครื่องทำน้ำอุ่น ควรเพิ่มเป็น 150 วัตต์ เพราะจะช่วยเพิ่มแรงดันน้ำอุ่นหรือเมื่อเราเปิดก๊อกน้ำหลายจุดพร้อมกัน
ถ้าเป็นบ้านเดี่ยวแนะนำให้ใช้ปั๊มขนาด 200–250 วัตต์ เพราะจะเปิดพร้อมกันได้ถึง 5-6 จุด หรือถ้าติดเครื่องทำน้ำอุ่นถึง 3 ห้องน้ำ ขอแนะนำให้ใช้แบบ 250 วัตต์ เพราะจะดีตรงที่ช่วยประหยัดไฟ