"ไม่เชื่ออย่าลบหลู่" บนเรื่องงาน กับ ย่านาค วัดมหาบุศย์

      ถ้าพูดถึงคนเราเวลามีความไม่สบายใจอะไรก็แล้วแต่ ทุกคนจะต้องมีวิธีในการหาทางออกเพื่อให้ตนเอง สบายใจขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเลือกที่จะอยู่คนเดียว หรือเลือกที่หาคนปรึกษา เป็นต้น และอีกทางเลือกหนึ่งคือการหาสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ เพื่อที่จะให้ตนเองมีความสบายใจขึ้น

       ดังนั้น ผมจึงมีประสบการณ์เรื่องเล่า เกี่ยวกับ การหาสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ เวลาที่เราไม่สบายใจ "ไม่เชื่ออย่าลบหลู่" ซึ่งประสบการณ์ผมก็คือ "เรื่องงาน" 

        เรื่องเล่าของผมก็คือ ก่อนหน้านี้ผมได้ทำงานสถานที่แห่งหนึ่ง ทำงานมาแล้วสามปี ก็มาถึงจุดอิ่มตัว  ซึ่งเวลาตอนนั้นผมก็พยายามค้นหาตัวตนที่แท้จริงว่าตนเองเหมาะสำหรับงานอะไร จะกระทั่งรู้ว่า อยากเข้าทำงานบริษัท ชื่อ.... ตำเเหน่ง .... ซึ่งกำลังเปิดรับสมัครอยู่   ซึ่งบริษัทนี้จะต้องเข้าสัมภาษณ์ถึงสามรอบ ตอนนั้นผมได้ไปสัมภาษณ์รอบสองเรียบร้อยแล้ว ทางบริษัทก็แจ้งว่าจะติดต่อกลับมาภายหลัง  ผ่านไป 1 สัปดาห์ ก็ยังไม่มีวี่แววที่ทางบริษัทติดต่อมา ผมด้วยความที่ว่าอยากได้งานที่บริษัทนี้มาก หลังจากนั้น ก็หาข้อมูลว่า ถ้าจะบนบานศาลกล่าว ควรจะไปบนที่ไหนดี ก็รู้ว่า มีสถานที่แห่งหนึ่ง ที่มีชื่อเสียงมากๆ ซึ่งสถานที่นั้นก็คือ "ย่านาค วัดมหาบุศย์"  ตั้งอยู่ที่ อ่อนนุช ซอย 7 ซึ่งตอนนั้น ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ถ้าได้ก็ดี ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ซึ่งวิธีการบนของผมก็คือ (อันนี้เป็นวิธีการบนส่วนบุคคลน่ะครับ) ก่อนอื่นก็จุดธูป เทียนปกติทั่วไป ซึ่งย่านาคจะใช้ธูป 2 ดอก เวลาผมบนบานอะไรก็แล้วแต่ ผมจะพูดให้มีเสียง และผมจะพูดแนะนำตัวเองก่อนเสมอ ว่าชื่อ-สกุลอะไร ..... บลาๆๆๆ แล้วก็ขอในสิ่งที่เราต้องการ ในตอนนั้น ผมได้พูดชื่อบริษัทและตำแหน่งที่อยากทำงาน พร้อมทั้งสิ่งที่เราจะบนให้กับท่าน หลังจากนั้น ผมก็ปักธูปลงกระถางที่วัดเตรียมไว้ หลังจากปักธูป ก็มีเสียงโทรศัพท์เข้ามาทันที พร้อมกับข้อความที่ว่า "คุณสะดวกที่จะเข้ามาสัมภาษณ์รอบสุดท้ายวันไหนค่ะ" ผมขนลุกมากในครั้งนั้น แต่ก็ยังคิดว่าอาจเป็นเรื่องบังเอิญก็เป็นได้ ผมก็มาแก้บนตามปกติที่เคยบนไว้ หลังจากที่ผมได้เข้าทำงานบริษัท ก็มีทั้งความสุขและความไม่สบายใจในการทำงานอีก  ผมเชื่อว่า ถ้าใครที่ทำงานบริษัทหรือเอกชน ส่วนใหญ่ ก็จะมีตัวชี้วัดในการทำงานที่เรียกว่า KPI ซึ่งในตอนนั้น ผมก็ เดี๋ยวดีเดี๋ยวไม่ดี มีขึ้นๆ ลงๆ ก็ด้วยเหตุนี้ ผมก็ได้มาบนอีกรอบ วิธีการบนเหมือนเดิม คือ พูดมีเสียง และแนะนำตัวเอง บลาๆๆ ถ้าสิ้นปี KPI ผ่านทุกตัว ผมจะกลับมาแก้บน พอสิ้นปีเท่านั้น KPI ผมผ่านได้ทุกตัว ซึ่งคนในบริษัทส่วนน้อยมากที่จะทำได้ ครั้งนี้ผมเริ่มเชื่อแล้วว่า "ย่านาค" มีความศักดิ์สิทธิ์จริง หลังจากนั้นผมก็ยังมีเหตุการณ์ต่อเนื่องอีกคือ เป็นช่วงที่บริษัทมีการเปลี่ยนแปลง  ไม่ว่าจะเป็นเจ้านาย วิธีการทำงาน  บลาๆๆๆ ก็เลยมีความรู้สึกว่าอยากลาออกและย้ายบริษัท สุดท้ายก็ได้กลับมาพึ่ง "ย่านาค"  อีกครั้ง ความนี้ขอว่า "ถ้างานที่ทำอยู่ในปัจจุบัน มันคืองานที่เหมาะสำหรับผมจริงๆ ขอให้ผมทำงานที่นี่ได้อย่างมีความสุข และมีการปรับตำแหน่ง เพื่อให้มีความก้าวหน้าในบริษัท ถ้าไม่ใช่ ก็ขอให้มีบริษัท ที่เคยไปสมัครงานไว้โทรมาเพื่อที่จะไปสัมภาษณ์ในการย้ายบริษัท " ผ่านไป 1 เดือน ไม่มีบริษัทไหนโทรมาให้ไปสัมภาษณ์เลย จนกระทั่งวันหนึ่ง หัวหน้าผมนัดทานข้าว  และแจ้งข่าวว่า "ดีใจด้วยน่ะ น้องได้ปรับตำแหน่ง" ตอนนั้นดีใจมาก ที่ได้รับข่าวนี้เพราะการปรับตำแหน่งของคนในบริษัท มีความเป็นไปได้น้อยมากที่ใครจะได้รับโอกาสนี้ และตอนนั้นก็ได้นึกถึง ย่านาค ขึ้นมาทันทีเลย ผมบอกเลยว่าเรื่องนี้ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ว่าย่านาคท่านศักดิ์สิทธิ์จริงๆ 

            แต่นอกจากการบนบานแล้ว ไม่ใช่ว่าคุณจะไม่มีความกระตือรือร้นอะไรเลยในการทำงาน ผมขอบอกเลยว่า เราต้องทำหน้าที่ในการทำงานให้ดีที่สุดเช่นกัน  ยังไงการที่เรามี สิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ ก็เป็นสิ่งที่ทำให้เราสบายใจขึ้น  และสิ่งที่ผมได้มาเล่าให้ฟังนี้  ก็เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ซึ่ง "ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ " ครับ