Share Facebook LINE Twitter
หน้าแรก เว็บบอร์ด Chat ตรวจหวย ควิซ คำนวณ Pageแชร์ลิ้ง
หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ชนเผ่า Sentinelese ที่ปฏิเสธโลกภายนอก

โพสท์โดย มารคัส


North Sentinel Island: A Glimpse Into Prehistory






ที่มาของภาพ http://goo.gl/zwiFxG


เรื่องที่น่าเหลือเชื่อคือ ยังมีผู้คนในโลกนี้
ที่ไม่มีความรู้อะไรเลยเกี่ยวกับเรื่องอินเตอร์แนต หรือโทรศัพท์มือถือ
ผู้คนพวกนี้คือ ชนเผ่า ที่ตัดขาดจากโลกาภิวัฒน์อย่างสมบูรณ์
และไม่ยินดีต้อนรับบุคคลภายนอกที่จะเข้ามาในพื้นที่เกาะของพวกเขา

เกาะเซนติเนลเหนือ North Sentinel Island
เป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะเกาะอันดามันและเกาะนิโคบาร์
(Andaman and Nicobar Islands)
ในอ่าวเบงกอล ที่ตั้งอยู่ระหว่างพม่ากับอินโดนีเซีย
เกาะแห่งนี้คือ ที่อยู่ของชนเผ่าเซนตินนีเลส Sentinelese
ที่เป็นปรปักษ์กับคนภายนอกและการติดต่อกับโลกภายนอก
และเกาะนี้ได้รับการขนานนามว่า
สถานที่จะแวะเข้าไปเยี่ยมได้ยากที่สุดในโลก


ที่มาของภาพ http://goo.gl/zwiFxG


ในปี 1771(2314) มีการสำรวจรอบ ๆ เกาะนี้
ครั้งแรกโดยบริษัท East India Company
เพราะสังเกตเห็นกองไฟบนชายหาด
เกาะแห่งนี้ก็ยังไม่มีคนสนใจอีก
จนกระทั่งปี 1867(2410) เรือเดินทะเลอินเดียชื่อ Ninevah
ได้อับปางลงใกล้ชายหาดเกาะแห่งนี้
มีผู้รอดชีวิต 106 คนได้สร้างค่ายพักแรมชั่วคราว
แต่ถูกชาวเกาะโจมตีอย่างเลวร้ายในอีกไม่กี่วันต่อมา
แม้ว่าผู้รอดชีวิตพยายามจะป้องกันการโจมตีจากชาวเกาะ
แต่ก็ไม่ค่อยได้ผล จนกระทั่งเรือรบเครื่องจักรไอน้ำราชนาวีอังกฤษ
ได้เดินทางมาถึงเกาะแห่งนี้ แล้วช่วยเหลือคนทั้งหมดออกไปได้

ชนเผ่านี้รู้จักกันอีกครั้งในปี 1880(2423)
พนักงานรัฐ Maurice Vidal Portman ได้ขึ้นบนเกาะ
เพื่อทำหน้าที่ตามคำสั่งที่ได้รับมอบหมาย
มีเส้นทางเข้าไปหลายเส้นทางพอ ๆ กับหมู่บ้านที่ทิ้งรกร้างไว้
แต่ในที่สุดเขาสามารถจับคนพื้นเมืองจำนวน 6 คนได้
แล้วนำไปสู่ Port Blair เมืองหลวงของ Andaman Islands
แต่ต่อมาคนพื้นเมือง 2 คนเสียชีวิต
ส่วนคนที่เหลือถูกปล่อยกลับเกาะในภายหลัง

คาดว่าชนเผ่าเซนตินนีเลส The Sentinelese
น่าจะเป็นบรรพชนของมนุษย์ชุดแรกที่อพยพมาจากอัฟริกา
และเข้ามาพักอาศัยในเกาะเล็ก ๆ แห่งนี้ยาวนานกว่า 60,000 ปี
จำนวนประชากรไม่แน่ชัดคาดว่าน้อยที่สุดราว 40 คนหรือมากที่สุดราว 500 คน

ชนเผ่านี้ไม่สนใจว่า ใครจะเป็นมิตรหรือเป็นศัตรู
ใครก็ตามที่มาเยีอนแล้วเหยียบชายฝั่งเกาะ
ไม่ว่าโดยอุบัติเหตุทางเรือหรือตั้งใจจะไปก็ตาม
ชนเผ่านี้จะต้อนรับผู้มาเยือนด้วยหอกและธนู
ของขวัญหรือเสื้อผ้าไม่มีความสำคัญกับชนเผ่าเลย
ทั้งยังเคยปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือ
จากโลกภายนอกในช่วงซึมามิ ในปี 2004(2547)


ที่มาของภาพ http://goo.gl/zwiFxG



ที่มาของภาพ http://goo.gl/AgW4qD


เหตุการณ์การให้ความช่วยเหลือหลังเกิดเหตุซีมานิ
ในมหาสมุทรอินเดียในช่วงเดือนธันวาคม 2004(2547)
(เกาะแห่งนี้ถูกคลื่นยักษ์ซีนามิถล่มด้วย)
กลุ่มผู้ให้ความช่วยเหลือได้เดินทางมายังเกาะแห่งนี้
โดยเฮลิคอปเตอร์ของรัฏฐนาวีอินเดีย
เพื่อค้นหาและให้ความช่วยเหลือชนเผ่าบนเกาะในการยังชีพ
แม้ว่าจะมีโอกาสค่อนข้างน้อยมากในการพบชนเผ่านี้
แต่แล้วก็พบชนเผ่านี้ที่ยืนรออยู่บนพื้นดิน แต่มีท่าทางเป็นศัตรู
นักรบชนเผ่าเซนตินนีเลส ได้พุ่งหอกและยิงธนูเข้าใส่เฮลิคอปเตอร์

ไม่มีใครรู้เรื่องเกี่ยวกับตำนานของชนเผ่านี้
ภาษาที่พูดกันรวมทั้งพฤติกรรม/วัฒนธรรมของชนเผ่านี้
เพราะชนเผ่านี้มักจะหลบซ่อนตัวอยู่ในป่า
รวมทั้งไม่มีใครรู้เกี่ยวกับการใช้ชีวิตของชนเผ่านี้
ที่พอจะรู้บ้างก็คือ ชนเผ่าเซนตินนีเลส
เป็นนักล่าสัตว์ ไม่มีการทำเกษตร ยังชีพด้วย
พวกพืช ปลา หัวของพืชที่อยู่ใต้ดิน(มัน บุก กลอย ฯลฯ )
หมูป่า สัตว์เลื้อยคลานประเภทต่าง ๆ และน้ำผึ้ง


ที่มาของภาพ http://goo.gl/19hZ68


อินเดียประกาศว่ามีอำนาจอธิปไตยเหนือเกาะเซนตินนีเลส
แต่มั่นใจได้เลยว่า ชาวเกาะแห่งนี้ไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้
เพราะตั้งแต่ที่อินเดียพยายามจะผูกมิตรกับชนเผ่านี้
หลายต่อหลายครั้งแล้วตั้งแต่ปี 1964(2507)
สุดท้ายอินเดียต้องสั่งยกเลิกปฏิบัติการทั้งหมด
รัฏฐนาวีอินเดียประกาศเขตหวงห้ามระยะทาง 3 ไมล์ทะเลจากเกาะแห่งนี้
ห้ามบรรดานักท่องเที่ยว นักสำรวจ หรือ พวกอยากรู้อยากเห็น
เข้าไปใกล้เกาะหรือขึ้นบนเกาะนี้โดยเด็ดขาด (ไม่รับรองความปลอดภัย)
เพราะอุบัติเหตุหลายครั้งที่เกิดขึ้น ไม่มีใครตายดีสักคน

มีเรื่องราวบอกเล่าหลายเรื่องที่น่ากลัวเกี่ยวกับชนเผ่าเซนตินนีเลส
คนที่รอดชีวิตกลับมาได้ไม่บาดเจ็บสาหัส
ก็ต่างหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด หรือไม่ก็ตายไปเลย
ในปี 1896(2439) นักโทษที่ลงเรือหลบหนีจากคุกอังกฤษในหมู่เกาะอันดามัน
เรือนักโทษรายนี้ได้แวะบนชายฝั่งเกาะเซนติเนลเหนือ
อีกไม่กี่วันต่อมา บรรดาผู้คุม/ผู้ติตตามที่ตามล่าหานักโทษ
พบศพนักโทษบนชายหาดมีร่องรอยถูกเชือดคอและถูกยิงด้วยธนู


ที่มาของภาพ http://goo.gl/ANxj80


ในปี 1974(2517) มีกลุ่มนักถ่ายทำสารคดี
National Geographic พร้อมกองกำลังตำรวจติดอาวุธ
ได้เดินทางไปยังเกาะแห่งนี้เพื่อถ่ายทำสารคดีชนเผ่านี้
มีการผูกมิตรก่อนด้วยการมอบหม้อ กะทะ ตุ๊กตา มะพร้าว หมูตัวเป็น ๆ
แต่ก็ไม่มีผลเพราะชนเผ่านี้ต่างยิงธนูและปาหอกเข้าใส่ตลอดเวลา
จนทำให้ผู้อำนวยการสร้างหนังสารคดีเรื่องนี้ในระหว่างการถ่ายทำสารคดี
ถูกยิงด้วยธนูยาว 8 ฟุตปักบนท่อนขาข้างซ้าย
แม้ว่าไม่ตายแต่ต้องยุติการถ่ายทำสารคดีทั้งหมด

เมื่อเรือบรรทุกนักถ่ายทำสารคดีแล่นออกจากเกาะ
ทุกคนต่างหันไปมองข้างหลังบนเกาะพบเห็นว่า
ชาวเกาะต่างได้ฉีกตุ๊กตาออกเป็นชิ้น ๆ รวมทั้งหมูตัวเป็น ๆ
แล้วต่างฝังของขวัญทั้งหมดลงบนพื้นดิน
พร้อมกับถืออาวุธธนูและหอกโห่ร้องด้วยความดีใจ
ที่ได้ขับไล่ผู้รุกรานออกไปจากเกาะแห่งนี้ได้
โชคดีที่ได้ถ่ายทำเรื่องราวสารคดีบางส่วนไว้ได้
ในเรื่อง คนค้นคน Man in Search of Man

(ถ้าลูกธนูปักบนหัวเข่า ต้องพูดเหมือนเกมส์ The Elder Scrolls: Skyrim
ข้าเคยเป็นนักผจญภัยเหมือนเจ้า จนกระทั่งโดนธนูปักที่หัวเข่า
I used to be an adventurer like you, then I took an arrow in the knee.)
นักมนุษยวิทยาชาวอินเดีย ที.เอ็น. บัณฑิต T.N. Pandit
ได้เสนอรัฐบาลอินเดียหลายต่อหลายครั้งแล้วให้ช่วยสนับสนุน
โครงการเดินทางไปยังเกาะแห่งนี้ในช่วงปลายปี 1980(2523) ถึงต้นปี 1990(2533)
" บางครั้ง ถ้าพวกชนเผ่านี้หันหลังให้ แล้วหย่อนตะโพกลงเหมือนนั่งขึ้
นั่นแสดงว่าพวกเขาไม่ยินดีต้อนรับพวกเรา ” บัณฑิตกล่าว

มีเรื่องที่น่าประหลาดใจ คือ มีเพียงครั้งแรกและครั้งเดียว
ที่กลุ่มนักวิจัยที่เป็นคนภายนอกได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี
จากชนเผ่านี้โดยไม่มีอาการเกรี้ยวกราด/ไม่พอใจ
ในวันที่ 4 มกราคม 1991(2534) มีผู้ชาย ผู้หญิงและเด็กรวม 28 คน
ได้เผชิญหน้ากับบัณฑิตและสมาชิกโครงการวิจัย
" พวกเขาเดินมาพบพวกเราอย่างเป็นธรรมชาติ มันเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อ
หรือพวกเขาตัดสินใจแล้วว่า ถึงเวลาแล้ว(ที่จะพบปะคนอื่นบ้าง) "

หมายเหตุ

เรื่องเล่าค่อนข้างไร้สาระ(แก้เครียด)
เคยพบเห็นแม่ค้าในตลาดสด ห.ใ. (หาดใหญ่)
เวลาทะเลาะด่าทอกันระหว่างสองคนหรือมากกว่า
มักจะด่าว่า วานเด่ หรือ วานกูเด่
ถ้าใครถลกผ้าถุงขึ้นก่อนแล้วโชว์วาน
ให้ฝ่ายตรงข้ามที่ทะเลาะด้วยเห็นวาน
(อาจจะนุ่งกางเกงใน หรือเห็นวานกระดำกระด่าง)
คนถกวานก่อนถือว่าได้รับชัยชนะเชิงสัญลักษณ์แล้ว
แม้ว่าจะเถียงข้าง ๆ คู ๆ หรือไม่มีเหตุผลชนะก็ตามแต่
ทั้งนี้กองเชียร์จะหัวเราะชอบใจ
แล้วมอบชัยชนะให้กับคนถกวานก่อน
แล้วส่วนมากคนที่โต้เถียงด้วยมักจะหยุดพูด/เงิบไปเลย
แต่ตอนนี้ไม่ค่อยเห็นพฤติกรรมแบบนี้แล้ว


เรือชาวประมงที่ถูกยึดโดยชนเผ่าเซนตินนีเลส ที่มาของภาพ http://goo.gl/2Sye7nl


แต่โชคร้าย การพบปะในครั้งสุดท้ายของคนภายนอกกับชาวเกาะในปี 2006(2549)
กลายเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย ชาวประมง 2 คนถูกฆ่าตาย
ในขณะที่แอบไปทำการประมงภายในเขตหวงห้ามของเกาะแห่งนี้ (ตามประกาศรัฏฐนาวีอินเดีย)
สันนิษฐานว่า กินเหล้าเมามายแล้วหลับในเรือที่แวะจอดที่ชายฝั่งเกาะแห่งนี้


ที่มาของภาพ http://goo.gl/zwiFxG



พื้นที่เกาะประมาณ 72 ตร.กิโลเมตร หรือ 45,000 ไร่
ไม่มีสิ่งปลูกสร้างเป็นป่าส่วนมาก มีซากเรือขนาดประมาณ 100 เมตรใกล้ชายฝั่ง
สันนิษฐานว่า น่าจะเป็นเรือเดินทะเลอินเดีย Ninevah ที่มีผู้โดยสาร 106 คน
อับปางใกล้ชายฝั่ง แล้วถูกชนเผ่าบนเกาะนี้ขับไล่เข่นฆ่า

ชาวเซนตินนีเลส
น่าจะเป็นชนเผ่าที่ไร้การติดต่อกับโลกภายนอก
ที่ยังหลงเหลืออยู่ในโลกใบนี้ที่ไม่สนใจกับโลกาภิวัฒน์
แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ดีที่ชนเผ่านี้ควรอยู่ตามลำพัง
แต่ก็มีรื่องที่ไม่ดีเช่นกัน
เพราะการไม่ติดต่อกับโลกภายนอก
อาจจะไม่มีภูมิคุ้มกันโรคหลายชนิด
รวมทั้งการปรับตัวให้เข้ากับโลกสมัยใหม่
จะกลายเป็นเรื่องที่ยากลำบากมากเช่นกัน

เรื่องราวชนเผ่านี้เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจ
แม้ว่าชนเผ่านี้จะมีวัตถุประสงค์ที่แปลกแยกกับโลกภายนอก
ชนเผ่าเซนตินนีเลสไม่ต้องการความช่วยเหลือใด ๆ
มีพฤติกรรมที่ทำให้หลายคนอยากรู้อยากเห็น
ชนเผ่านี้มีมุมมองคนภายนอกและโลกภายนอกอย่างไร
ชนเผ่าเรียกตนเองว่าอย่างไร
ชนเผ่านี้พอใจหรือไม่
ที่เรียกพวกเขาว่า เซนตินนีเลส Sentinelese

หมายเหตุ

นักประวัติศาสตร์ชาตินิยมชาวละตินอเมริกา
เชื่อตามตำนานชาวอินเดียแดง/ชนเผ่าอินคา
ที่เล่ากันว่า พวกผิวขาวมอบหรือโยนทิ้งผ้าห่ม
ที่ปนเปื้อนเชื้อหวัดหรือไข้ทรพิษ
ให้กับชาวอินเดียแดง/ชนเผ่าอินคา
ทำให้ล้มหายตายจากไปเป็นจำนวนมาก
เพราะไม่มีภูมิคุ้มกันโรคพวกนี้เลย
น่าจะเป็นต้นแบบอาวุธชีวภาพครั้งแรก

เรียบเรียงจาก
https://goo.gl/vZaMdz
http://goo.gl/xyzZuF
http://goo.gl/5GIzKs
http://goo.gl/SPsqRQ
http://goo.gl/zgRrb2

ขอบคุณที่มา: https://pantip.com/topic/31848269
Credit : Kalamang Bill ที่มาของภาพ http://goo.gl/Ym8Xb1
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
มารคัส's profile


โพสท์โดย: มารคัส
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
12 VOTES (4/5 จาก 3 คน)
VOTED: zerotype, ท่านแมวฮั่ว
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
จดหมายที่เปิดโปงความอัดอั้น ก่อนโศกนาฏกรรมในเรือนจำ"สาวไทยหาทำ!! ฉีดวิตามินเข้าเส้นเลือดด้วยตัวเอง หมอเตือนอันตรายมาก อย่าหาทำรวมภาพเรียกรอยยิ้มประจำวันนี้ วันที่แดดจ้ามาหลายวันแล้ว แต่วันนี้ฟ้าครึ้มเฉยเลย ลดความร้อนได้มากๆเลยเด้อการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่ก้าวล้ำแสดงให้เห็นว่า “การอดอาหาร” มีผลกระทบในทางที่ดีต่อการทำงานของสมองรวม เลขปฏิทินจีน งวด 16/3/68ญี่ปุ่นย้ายต้นไม้ 165 ปีอย่างพิถีพิถัน—รักษาสมดุลระหว่างพัฒนาเมืองกับธรรมชาติพายุไซโคลนอัลเฟรดพัดถล่มออสเตรเลียตะวันออกอย่างหนัก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ประชาชนไม่มีไฟฟ้าใช้อย.เตือน!ห้ามน้ำยาซักผ้าขาวผสมน้ำยาล้างห้องน้ำ เหตุทำให้เกิดสารพิษอันตรายถึงชีวิตรีวิวของเล่นเก่ายุค 80 Gold Lightan หุ่นเหล็กที่ทำมาจากเหล็กจริงๆ
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
สาวไทยหาทำ!! ฉีดวิตามินเข้าเส้นเลือดด้วยตัวเอง หมอเตือนอันตรายมาก อย่าหาทำเที่ยวบินเช่าเหมาลำออกออกเดินทางโดยไม่มีผู้โดยสาร ทิ้งผู้โดยสารเกือบ 170 คนอยู่ที่สนามบินมะนิลาทำไมคนไทยแต่ละภาคถึงมีสีผิวต่างกัน? วิเคราะห์จากวิทยาศาสตร์และภูมิศาสตร์จดหมายที่เปิดโปงความอัดอั้น ก่อนโศกนาฏกรรมในเรือนจำ"JENNIE ให้สัมภาษณ์กับ CAPITAL FM เกี่ยวกับอัลบั้มเปิดตัว‘Ruby’
ตั้งกระทู้ใหม่
หน้าแรกเว็บบอร์ดหาเพื่อนChatหาเพื่อน Lineหาเพื่อน SkypePic PostตรวจหวยควิซคำนวณPageแชร์ลิ้ง
Postjung
เงื่อนไขการให้บริการ ติดต่อเว็บไซต์ แจ้งปัญหาการใช้งาน แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม ข่าวประชาสัมพันธ์ ลงโฆษณา
เว็บไซต์นี้ใช้ Cookie
เพื่อประสบการณ์ที่ดีและการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดูข้อมูลเพิ่มเติม อ่านนโยบายการใช้งาน
ตกลง