สยามรัฐสัปดาห์วิจารณ์ โดยวิเคราะห์เอาไว้ว่า "ชาวแบงก์จะตกงานเป็นเบือ เมื่่อระบบอัตโนมัติไร้พนักงานมาแทนที่"
27 ก.พ. 2560 สยามรัฐสัปดาห์วิจารณ์ได้วิเคราะห์ พนักงานแบงค์อาจจะตกงานกันเป็นเบือในอนาคตอันใกล้นี้ โดยวิเคราะก์เอาไว่าดังนี้ว่า
ขณะที่เศรษฐกิจไทยกำลังขับเคลื่อนไปสู่ยุค 4.0 ความกังวลเรื่องเครื่องจักรอัตโนมัติละหุ่นยนต์ทำงานแทนคนยิ่งนานยิ่งเพิ่มขึ้น ล่าสุดแบงก์ออฟอเมริกาเดินหน้าเปิดสาขาธนาคารไร้พนักงานเพิ่มขึ้น คาดทั่วโลกแม้แต่ไทย จะดำเนินการไม่ต่างกัน การจ้างงานสาขาธนาคารควรจะลดลงไม่ต่ำกว่า 60% ในทศวรรษ 60
Bank of America Corp. ได้ทดลองเปิดสาขาธนาคารระบบที่ไม่มีพนักงานประจำสำนักงาน 3 แห่งเมื่อเดือนที่แล้วโดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการลดค่าใช้จ่ายดำเนินการในระยะยาว
สำนักงานสาขา 3 แห่งนี้ ใช้ระบุธุรกรรมการเงินอัตโนมัติให้บริการแก่ลูกค้าทุกด้าน โดยนอกเหนือจากการฝาก ถอนโอนสอบถามยอดเงินในบัญชีซึ่งสามารถทำได้ที่ตู้เอทีเอ็มทุกแห่งแล้ว
หากต้องการทำธุรกรรมด้านอื่น ที่ต้องติดต่อ สอบถามตอบโต้ ก็สามารถใช้บริการวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับเจ้าหน้าที่ธนาคารที่อยู่สาขาใกล้เคียงได้
นอกจากประหยัดพนักงานแล้ว ยังประหยัดค่าใช้จ่ายด้านสำนักงานด้วย
เพราะสาขาที่ใช้ระบบอัตโนมัติสมบูรณ์นี้ จะมีขนาดเล็กลง คือใช้พื้นที่แค่ 1 ใน 4 ของสำนักงานธนาคารสาขาเต็มรูปแบบ
เพราะไม่มีเคาน์เตอร์บริการ ไม่มีโต๊ะเจ้าหน้าที่ ไม่มีโต๊ะเก้าอี้สำหรับลูกค้า ไม่มีห้องผู้จัดการ ไม่มีเครื่องประดับตกแต่งเครื่องปรับอากาศก็ขนาดเล็กลงเพราะพื้นที่ที่จะปรับอากาศแคบลง
ยังไม่นับเรื่อง ห้องน้ำ ห้องส้วม สำหรับพนักงาน เครื่องใช้ไม้สอยและองค์ประกอบสำนักงานอื่นๆโดยเฉพาะค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ
ก่อนหน้านี้แบงก็ออฟอเมริกาได้ทยอยลดจำนวนสาขาที่มีการทำธุรกรรมทางการเงินน้อยลงอย่างต่อเนื่องแล้ว เหมือนกับแบงก์อื่นๆ
ธุรกรรมหรือบริการที่ธนาคารอัตโนมัติดำเนินการได้แก่ การฝาก-ถอนเงิน การจ่ายค่าบริการต่างๆเช่น จ่ายค่าผ่อนชำระ ค่างวดรถยนต์ เครดิตการ์ด ยกเว้นการจ่ายโอนธรรมดาอย่างเช่นการขึ้นเงินตามเช็ค
ในปี 2017 คือปีนี้ แบงก์ออฟอเมริกากำหนดเปิดสาขาใหม่อีก 50-60 สาขา เพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปีที่แล้วที่เปิด 31 สาขา
หากธนาคารอัตโนมัติที่เปิดนำร่อง 3 แห่งนี้ ทำงานได้อย่างสมบูรณ์ ธนาคารสาขาที่เปิดใหม่นี้เกือบทั้งหมดจะใช้ระบบอัตโนมัติไร้พนักงาน
การใช้ระบบอัตโนมัติในธนาคารสาขา ทำให้แบงก์ออฟอเมริกาลดจำนวนสาขาลงต่อเนื่องทุกปีในช่วง3ปีที่ผ่านมา
ปีที่แล้ว จำนวนสาขาของแบงด์ออฟอเมริกามีอยู่ 4,579 สาขาจากปี 2015ที่มีอยู่ 4,726 สาขา เทียบกับปี 2010 ที่มีทั้งหมด 5,900 สาขา
สำหรับ อุตสาหกรรมธนาคารของไทย จากสถิติตัวเลขจำนวนธนาคารและลูกจ้างธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบของธนาคารแห่งประเทศไทย ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2559 พบว่า ธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทย 14 แห่ง มีจำนวนสาขาเต็มรูปแบบ 1,818 แห่ง สาขาย่อย 1 แห่ง มีตู้เอทีเอ็ม จำนวน 14,645ตู้ มีรายได้รวม 232,492 ล้านบาท รายจ่ายรวม 139,568 กำไร 92,924 ล้านบาท
ถ้าลดรายจ่ายในด้านสำนักงานและพนักงาน รายได้จะเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 40% รายจ่ายหรือต้นทุนของธนาคารในยุค Mobile 4G ที่อะไรๆจะอัตโนมัติกันแทบทุกสาขาธุรกิจอุตสาหกรรมรวมทั้งในอุตสาหกรรมธนาคารจะลดลงมาก
คนจะตกงานกันเป็นเบือเป็นอนาคตที่น่าตื่นตระหนก
พ.อ.ดร.เศรษฐพงศ์ มะลิสุวรรณ ประธานกรรมการกิจการโทรคมนาคม และรองประธาน กสทช.ปาฐกถาเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าระบบโทรคมนาคม กำลังเปลี่ยนแปลงโลกครั้งใหญ่
ยกตัวอย่างร้านหนังสือใหญ่ที่สุดในโลก มีร้านสาขามากที่สุดในอเมริกาปิดตัวลง หันมาใช้ร้านหนังสือดิจิตอล
นอร์เวย์จะไม่มีการใช้แบงก์โน้ตหรือธนบัตรในอนาคตอันใกล้เงินตราสกุลต่างๆจะเปลี่ยนเป็นเงินดิจิตอล การถอนเงิน ฝากเงิน โอนเงิน ตรวจสอบยอดเงิน ฯลฯ อะไรๆที่ใช้ตู้เอทีเอ็ม ต่อไปไม่ต้องไปกด ไปรูดอีกต่อไป
ลูกค้าหันมาใช้ระบบออนไลน์แบงกิ้งแบบเรียลไทม์ที่เชื่อมโยงระหว่างธนาคารกับลูกค้าผ่านระบบอินเตอร์เน็ต จึงมีโอกาสสูงมากที่ตู้เอทีเอ็ม จะถูกยกเลิก หันมาใช้ธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์เวลาปัจจุบัน(real time)แทน
ในปีที่ผ่านมา ธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทยแทบจะไม่มีการเปิดสาขาใหม่เลย มีแต่ปิดสาขาย่อยที่ทำรายได้น้อยลง หรือมีผู้ใช้บริการลดลง
ทั้งนี้เพราะ อุปกรณ์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์มีราคาถูกลง ธนาคารนำเครื่องจักรอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้มาแทนการเปิดสาขา
ในอนาคตแค่เอื้อม ระบบธนาคารพาณิชย์จะลดการจ้างพนักงานลง โดยจะจ้างเฉพาะงานที่จำเป็นต้องใช้มนุษย์ทำงาน เช่น ฝ่ายนโยบายและบริหาร ฝ่ายสินเชื่อ ฝ่ายการตลาด ฝ่ายเทคนิค ฝ่ายธุรการ ฯลฯเท่านั้น
งานหน้าเคาน์เตอร์"หุ่นยนต์"ที่มาในรูปแบบตู้หรือเคาน์เตอร์ที่มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จะทำแทนพนักงานมนุษย์ทั้งหมด
บริบทของการเปลี่ยนแปลงนี้จะเกิดขึ้นภายในไม่เกิน 2 ปีข้างหน้า
แอพพลิเคชั่นใหม่ๆในระบบสารสนเทศเข้ามาแทนที่การทำงาน ทำหน้าที่แทนพนักงานธนาคาร
ขณะนี้ back office หรือพื้นด้านในของธนาคารสำหรับผู้บริหารและพนักงาน กับ front office ส่วนด้านหน้าสำหรับงานดูแลลูกค้า เบิกถอน ฝาก โอนเงิน มีความจำเป็นต้องใช้น้อยมากหรือ แทบไม่ต้องใช้
อุตสาหกรรมธนาคารรูปแบบเก่าๆที่มีต้นุทนด้านสถานที่สูงจะลดลง เพราะลูกค้าไม่สนใจทำเลที่ตั้งของธนาคาร
เนื่องจากสามารถเข้าถึงบริการของธนาคารผ่านระบบอินเตอร์เน็ตไร้สายได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด เวลาใด
วันนั้น การจ้างพนักงานธนาคารจะมีลักษณะเป็นฟรีแลนซ์หรือลูกจ้างชั่วคราวทำงานอยู่ที่บ้านหรือที่ไหนก็ได้ที่มีระบบสื่อสารไร้สาย เพราะพนักงานประจำที่แท้จริงคือเครื่องจักรในระบบดิจิตอล ที่ทำงานตลอด 24 ชั่วโมงโดยไม่มีโอที