"เจ้านางบัวสวรรค์" เจ้านางเศรษฐีแห่งเชียงตุง
"เจ้านางบัวสวรรค์" เจ้านางแห่งเชียงตุง ความงามของเจ้านางนี้ เหล่าธิดาเจ้าขุนส่าและเจ้าแว่นแก้วแห่งเมืองล๊อกจ๊อกเคยกล่าวชมเอาไว้ว่างดงามที่สุด
ย้อนไปในสมัยนั้น ชีวิตในหอคำนครเชียงตุงรุ่งเรืองจนถึงขีดสุด เจ้าฟ้ารัตนะก้อนแก้วอินแถลงนอกจากจะเก่งเรื่องการปกครอง การต่างประเทศและการพัฒนาแล้ว ท่านยังเป็นนักธุรกิจมือฉมังทำให้เจ้านายชาย-หญิงในราชสำนักได้รับการศึกษาเป็นอย่างดี มีการเล่นกีฬาอย่างชาวตะวันตก เช่น เทนนิส ขณะที่เจ้านายทางหัวเมืองล้านนายังคงนั่งช้างนั่งเกวียนแต่เจ้านางบัวสวรรค์มักขับรถไปพักผ่อนที่ดอยเหมย รวมถึงปิ๊คนิคที่น้ำพุร้อนประจำเมืองซึ่งในสมัยนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่นำสมัยมากๆ
มีเรื่องเล่าว่าครั้งหนึ่งบรรดาเจ้านางไปพักผ่อนกันที่ดอยเหมย.มีเจ้านางองค์หนึ่งถูกผีเข้า.เจ้านางบัวสรรค์ต้องขับรถมารับเจ้าฟ้าเฒ่าที่หอคำเพื่อมาไล่ผี...กล่าวกันว่าเจ้านางบัวสวรรค์ได้รับสืบทอดคาถาอาคมจากเจ้าฟ้าเฒ่ามาทั้งหมด(ปกติจะถ่ายทอดให้ฝ่ายชาย).เจ้านางยังเคยแสดงวิชาให้เห็นประจักษ์ในคราวช่วยเจ้าฟ้าขุนศึกมังรายจากการคุมตัวของทหารพม่าที่นครย่างกุ้ง...ชีวิตส่วนตัวเจ้านางได้ครองตัวเป็นโสดบางคนกล่าวว่าเพราะเจ้านางเพียบพร้อมไปด้วยรูปสมบัติ.สติปัญญาและทรัพย์บริวารจึงไม่มีชายใดที่เหมาะสมเป็นคู่ครอง....ทรัพย์สินของเจ้านางมีหลายสิ่งล้ำค่ามากในยุคนั้น อาทิ.ซิ่นไหมคำปิงซึ่งหาได้ยากและราคาสูงลิ่ว
เจ้านางบัวสวรรค์เดินทางมากรุงเทพอยู่หลายครั้ง.เมื่อเชียงตุงเกิดการเปลี่ยนแปลง.เจ้านางอยากจะมาอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่กับพี่น้อง.แต่ด้วยเหตุผลบางประการ.เจ้านางจึงต้องอยู่ที่เมืองเชียงตุงจนกระทั่งถึงแก่กรรมที่หอหลวงเมืองเชียงตุงในปี1979...ว่ากันว่าความลับและเรื่องราวทั้งหลายของหอคำแห่งเชียงตุงก็ได้จากไปพร้อมกับเจ้านาง
เจ้านางบัวสวรรค์เป็นราชธิดาที่ประสูติจากเจ้านางจามฟอง.เมื่อเจ้าแม่สิ้นพระชนม.์เจ้าสุวรรณาซึ่งเป็นเจ้าย่าได้รับเจ้านางมาเป็นบุตรบุญธรรม
เจ้านางบัวสวรรค์นั้นเป็นที่โปรดปรานของเจ้าย่าและเจ้าพ่อเพราะทรงมีทั้งความงดงามและความสามารถ.อีกทั้งยังเป็นที่รักเคารพของเจ้าพี่เจ้าน้อง.เจ้านางบัวสวรรค์ยังได้ชื่อว่าเจ้านางเศรษฐีเพราะนอกจากจะได้รับมรดกของเจ้าย่าทั้งหมดแล้ว.ยังได้รับถ่ายทอดเทคนิคการเจรจาการค้าพร้อมกับถูกมอบหมายให้เป็นผู้ดูแลการเงินส่วนพระองค์ของเจ้าฟ้ารัตนะก้อนแก้วอินแถลง.รวมถึงเป็นผู้ถือกุญแจท้องพระคลังอีกด้วยครับ
ขอบพระคุณท่านเจ้าของภาพทุกท่านครับ
ขอบคุณที่มา: http://www.facebook.com/Tripkengtung