เคยมั้ย สิวเขรอะ! หน้าก็มันจนแต่งหน้าแต่ละที นานแสนนาน แต่งเท่าไรก็ไม่สวยสักที แถมขนดกอีก!!!
ปัญหาสิวเขรอะ หน้ามันหรือบางคนมีขนดก ถือว่าเป็นปัญหาที่สาวๆมักจะได้มีโอกาสเป็นกัน ไม่มากก็น้อย และหากเป็นหนักมากล่ะก็ ยิ่งทำให้เราเกิดความไม่มั่นใจ ไม่สู้สังคม หมดเงินไปหลายกระบุงแล้วก็ยังเหมือนเดิม อ้าว..เรื่องจริงนะจ๊ะสาวๆ ถ้าเข้าใจหลักการล่ะก็ ไม่ยากเลย!
สาเหตุที่ทำให้เกิด สิว หน้ามัน ขนดก นั่นก็คือ...
ฮอร์โมนเพศชาย ที่ชื่อว่า แอนโดรเจน ตัวการสำคัญที่เป็นสาเหตุ เจ้าฮอร์โมนแอนโดรเจน เป็นฮอร์โมนเพศชายที่ร่างกายคุณสาวๆ ทั้งหลาย ผลิตได้จากต่อมหมวกไต สำหรับฮอร์โมนแอนโดรเจนในผู้ชายจะมีหน้าที่สำคัญในการกำหนด ลักษณะ รูปร่าง โครงกระดูก หนวดเครา รวมทั้งองค์ประกอบอื่นๆให้ดูเข้มแข็ง สง่างาม สมชายชาตรี ซึ่งถ้าผู้หญิงมีฮอร์โมนประเภทนี้มากๆก็จะมีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับรูปร่างสรีระ ซึ่งฮอร์โมนแอนโดรเจนนี้ยังมีผลอื่นๆด้วยนะคะ
ประการแรก การเริ่มมีสิวขึ้นมากตามใบหน้าและผิวหนัง เช่นบริเวณหน้าอก หลัง ร่วมกับการมีผิวหน้าที่มันมาก เกิดจากการที่ฮอร์โมนแอนโดรเจนไปกระตุ้นต่อมไขมันให้ทำงานมากขึ้น ดังนั้นจะมีการผลิตน้ำมันออกมามากขึ้น เกิดหมักหมมบริเวณผิวหน้า หน้าอก และอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ตามผิวหนัง จึงทำให้เกิดหัวสิวตามที่ต่างๆ เรียกแบบชาวบ้านว่า สิวฮอร์โมน
ประการที่สอง ขนขึ้นดกตามใบหน้าและลำตัวผิดปกติ ฮอร์โมนเพศชายเป็นตัวสำคัญใน การกระตุ้นการเจริญเริ่มแรกของขนตามร่างกายในวัยรุ่น เมื่อแตกเนื้อหนุ่มเนื้อสาว ในกรณีของเด็กผู้หญิงที่ตามปกติมีฮอร์โมนเพศชายอยู่เพียงเล็กน้อย แต่พอที่จะกระตุ้น ให้ขนเกิดขึ้นบริเวณรักแร้และในร่มผ้า แต่ถ้าสตรีใดมีระดับฮอร์โมนเพศชายสูงผิดปกติ เนื่องจากเหตุใดก็ตาม ผลที่เห็นชัดคือสตรีผู้นั้นมีขนขึ้นตามตัวและใบหน้าแบบผู้ชาย
ประการสุดท้าย ลักษณะการมีผมร่วงบางลงหรือร่วงเป็นหย่อม โดยทั่วไปสตรีไม่มีปัญหา เรื่องหัวล้าน แต่ถ้าสตรีใดมีระดับฮอร์โมนชายในร่างกายของเธอสูงกว่าปกติ และคงอยู่ระดับนี้เป็นเวลานาน เธอผู้นั้นอาจเริ่มมีผมร่วง หรือเริ่มร่วงเป็นหย่อม ตรงกลางศีรษะแบบผู้ชายได้
วิธีการรักษา
จะเห็นว่าตัวการหลักๆ ก็คือฮอร์โมนเพศชาย (แอนโดรเจน) ที่ถูกสร้างมากผิดปกติจนไปกระตุ้นให้เกิดอาการดังกล่าวตามมา ดังนั้นหลักในการรักษาก็คือการปรับสมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย โดยการลดการสร้างฮอร์โมนแอนโดรเจนนั่นเอง ไม่ยากเลยง่ายแสนง่าย แพทย์จะใช้ฮอร์โมนที่อยู่ในยาเม็ดคุมกำเนิดนั่นแหละรักษา ลองมาดูชนิดของฮอร์โมนในยาเม็ดคุมกำเนิดดู
ในแผงยาแต่ละเม็ดนั้นจะมีฮอร์โมนอยู่ 2 ชนิด
- ฮอร์โมนเอสโตรเจน ตัวหลักๆ คือ Ethinylestradiol (EE)
- ฮอร์โมนโปรเจสโตเจน มีอยู่ด้วยกันหลายตัว เช่น Norethindrone Levonorgestrel, Norgestrel Gestodene, Desogestrel, Drospirenone, Cyproterone acetate, ฯลฯ
แล้วฮอร์โมนตัวไหนล่ะ ช่วยลดการเกิดสิว หน้ามันหรือขนดกได้? ..
ก่อนอื่น แอดมินขอพูดหลักการการลดสิวของฮอร์โมนเหล่านี้อย่างสั้นๆ กันก่อน คือ อย่างที่เราเข้าใจกันอยู่แล้วว่า สิวฮอร์โมนนั้นเกิดจากการที่ฮอร์โมนในร่างกายของเราไม่สมดุลกัน โดยฮอร์โมนที่ทำให้เกิดสิวนั้นก็คือ ฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgen) ซึ่งมันก็คือฮอร์โมนเพศชายนั่นเอง พูดง่ายๆคือคนที่เป็นสิวฮอร์โมนมักจะมีฮอร์โมนแอนโดรเจนมากเกินไป เพราะฉะนั้นหากเราต้องการรักษาสิวที่เกิดจากความไม่สมดุลของฮอร์โมนนั้น ก็ทำได้โดยการพยายามลดฮอร์โมนแอนโดรเจน (ฮอร์โมนเพศชาย) ให้น้อยลงโดยการต้านการสร้างฮอร์โมนแอนโดรเจน เพื่อไม่ให้ฮอร์โมนแอนโดรเจน (ฮอร์โมนเพศชาย) มีมากเกินไป เมื่อฮอร์โมนแอนโดรเจน (ฮอร์โมนเพศชาย) ลดลง อาการสิว ผิวหน้ามัน ขนดก ก็น้อยลงตามไปด้วยนั่นเองและฮอร์โมนที่จัดว่าเป็นตัวเด่นของอาการเหล่านี้ ก็คือ
- ไซโปรเตอโรน อะซิเดท (Cyproterone acetate)
เจ้าฮอร์โมนไซโปรเตอโรน อะซิเดท (Cyproterone acetate) จะเป็นฮอร์โมนที่มีฤทธิ์เด่นมากในการต้านฮอร์โมนเพศชายในร่างกาย จัดว่าเป็นตัวแม่เลยล่ะ ดังนั้นจึงเหมาะมากในการช่วยลดปัญหาเรื่อง สิว ผิวหน้ามัน หรือแม้แต่ผู้หญิงที่มีปัญหาขนดกมากผิดปกติ ดังนั้นถ้าสาวๆ คนไหนมีปัญหาสิวเขรอะ! หน้าก็มันจนแต่งหน้าแต่ละที นานแสนนาน หรือแต่งหน้ายากจากปัญหาหน้ามัน ก็ลองพิจารณาเลือกกลุ่มนี้ดูค่ะ มีให้เลือกหลายยี่ห้อ เช่น DIANE-35, Sucee, B-Lady, Dafne-35, Preme ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็จะมีส่วนผสมของฮอร์โมนเอสโตรเจน Ethinylestradiol อยู่ 0.035 มิลลิกรัม ใช้แล้วนอกจากจะช่วยในการรักษาสิวฮอร์โมน ลดผิวหน้ามัน หรือขนดกแล้ว ก็ยังช่วยให้ผิวพรรณดูมีน้ำมีนวลขึ้นด้วยจากฮอร์โมนเอสโตรเจน
ส่วนวิธีการรับประทานนั้นเป็นรอบๆ ทาน 21 วันแล้วหยุด 7 วัน จึงค่อยรับประทานแผงต่อไป แนะนำให้ทานอย่างน้อยสัก 3 เดือนขึ้นไปนะจ๊ะถึงจะเริ่มเห็นผลชัดเจน ทีนี้ล่ะ นอกจากสิวจะไม่มีแล้ว สาวๆจะได้แต่งหน้าได้เนียนสวย หรือขนดกที่คอยทำลายความมั่นใจ จะได้ลดลงเสียที
จะเลือกใช้ตัวไหนสาวๆก็ลองพิจารณาให้ดีและที่สำคัญ อย่าลืมปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยานะคะเพื่อจะได้ทราบถึงวิธีใช้ได้อย่างถูกต้อง ปลอดภัยค่ะ
โพสท์โดย: LB