หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

อาหารที่ไม่ควรทานตอนท้องว่าง ไม่ว่าหิวขนาดไหนก็อย่าทานนะ!

โพสท์โดย จิซัง

ในเวลาที่หิวมากๆ ไม่ว่าจะเห็นอาหารอะไรก็อยากจะทานไปหมดโดยที่ไม่ได้คำนึงถึงสุขภาพ ฉะนั้นก่อนจะทานอะไรเราควรเพิ่มความระมัดระวังและเอาใจใส่ในเรื่องอาหารการกินให้มากขึ้น เพราะอาหารบางประเภทไม่เหมาะที่จะรับประทานในช่วงท้องว่าง

 

1 . ลูกพลับ

ลูกพลับเป็นผลไม้ที่ควรหลีกเลี่ยงหากร่างกายยังไม่มีอาหารรองท้องมาก่อน เพราะการรับประทานผลไม้ชนิดนี้ในช่วงเวลาดังกล่าวจะเป็นตัวกระตุ้นให้กระเพาะอาหารหลั่งกรดเกลือออกมามากทำให้ผู้บริโภครู้สึกเจ็บหน้าอกคลื่นไส้และเป็นแผลในกระเพาะอาหารได้ง่าย ดังนั้นใครที่อยากจะรับประทานผลไม้ชนิดนี้จริงๆก็ควรรับประทานในช่วงเวลาหลังจากการรับประทานอาหารและไม่ควรรับประทานเกินสองลูกต่อวัน

 

2 . มะเขือเทศ

ไม่ควรรับประทานมะเขือเทศขณะท้องว่าง เนื่องจากในมะเขือเทศมีสาร Astringent ที่จะทำปฏิกิริยากับกรดเกลือในกระเพาะอาหาร ซึ่งจะทำให้กรดเกลือจับตัวเป็นก้อนซึ่งอาจทำให้กระเพาะอาหารอุดตัน  เกิดอาการไม่สบายต่างๆ เช่น ท้องอืดท้องเฟ้อปวดท้องได้ แต่ถ้าเรารับประทานมะเขือเทศในช่วงเวลาหลังจากการรับประทานอาหาร กรดเกลือในกระเพาะอาหารจะเข้ากันกับอาหารอย่างดี จะทำให้กรดเกลือในกระเพาะอาหารเจือจางได้

 

3 . กล้วย

คนส่วนใหญ่มักจะเชื่อกันว่าการทานกล้วยเยอะๆจะทำให้ระบบขับถ่ายดี แต่มักจะลืมกันไปว่า หากทานกล้วยในช่วงเวลาที่ท้องว่างแล้วนอกจากจะทำให้ท้องอืด ยังจะเพิ่มธาตุแมกนีเซียมในเลือดให้สูงขึ้นทำให้สูญเสียสัดส่วนของแคลเซียมและแมกนีเซียมซึ่งเป็นการยับยั้งการทำงานของหลอดเลือดหัวใจอันเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างมาก

 

4 . ส้ม

ส้มอุดมไปด้วยน้ำตาลและกรด ซึ่งส้มจัดว่าเป็นผลไม้ต้องห้ามตอนท้องท้องว่าง เพราะรสเปรี้ยวของส้มจะทำให้กระเพาะอาหารระคายเคืองได้ ทำให้กรดเกลือในกระเพาะอาหารเพิ่มขึ้นและเกิดออาการท้องอืดท้องเฟ้อ

 

5 . น้ำตาลหรืออาหารรสหวาน

การที่คนเราเสียพลังงานไปเยอะๆนั้นจริงอยู่ว่าร่างกายต้องได้รับการเสริมสร้างจากเกลือแร่และน้ำตาลเมื่อเรารู้สึกอ่อนเพลีย แต่ทว่าหากท้องว่างแล้วการเลือกดื่มน้ำหวานหรือของหวานเช่นน้ำอัดลมลูกอมช็อกโกแลต จะทำให้โปรตีนรวมตัวกับน้ำตาลซึ่งส่งผลต่อการดูดซึมโปรตีนทุกชนิด และลดสมรรถภาพการทำงานของระบบหมุนเวียนเลือดและไตได้

 

6 . มันเทศ

มันเทศจะอุดมไปด้วยน้ำตาล การรับประทานในเวลาท้องว่างนั้น จะกระตุ้นให้กระเพาะอาหารหลั่งกรดเกลือออกมามาก และมันเทศก็ยังมีเอนไซม์ออกซิไดซ์ (Oxidase) มากมาย จะเป็นตัวทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากมายในระบบทางเดินอาหาร ถ้ารับประทานมันเทศมากเกินไปจะมีอาหารท้องอืดและสะอึกเกิดขึ้นได้

 

7 . เครื่องดื่มเย็น

การรับประทานเครื่องดื่มเย็นในเวลาท้องว่างจะทำให้กระเพาะอาหารระคายเคืองได้และทำให้ร่างกายเกิดความผิดปกติ จนส่งผลให้เป็นโรคกระเพาะอาหารได้

 

8. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ไม่ควรรับประทานในขณะท้องว่าง เพราะมันจะมีส่วนเพิ่มแรงกระตุ้นเยื่อบุกระเพาะอาหาร ส่งผลให้เป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบ(gastritis) และเป็นแผลในกระเพาะอาหารได้(stomach ulcer) และร่างกายก็จะเกิดอาการภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ส่งผลทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะเหงื่อออกและใจสั่น บางทีอาการอาจรุนแรงจนถึงเป็นลมหรือเสียชีวิตก็ได้

 

9 . กระเทียม

สารที่อยู่ในกระเทียมจะทำให้กระเพาะอาหารระคายเคืองได้ บางทีอาจจะเกิดอาการรุนแรงจนทำให้เกิดการปวดท้อง(gastrospasm) หรือโรคกระเพาะอาหารอักเสบ(gastritis) ส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบทางเดินอาหาร

 

10. น้ำชา

ตื่นเช้าแล้วจิบน้ำชาสักแก้วดูแล้วเข้าท่าและน่าจะดี แต่หารู้ไม่ว่า การจิบชาร้อนโดยเฉพาะชาแก่ช่วงท้องว่างนั้นจะทำให้กรดเกลือของน้ำย่อยในกระเพาะอาหารเจือจางเกิดอาการใจสั่นเวียนศีรษะมือเท้าไม่มีแรงและหิวมากๆ

 

11 . วิตามิน

การรับประทานวิตามินในขณะท้องว่าง ร่างกายจะดูดซับวิตามินไม่ทันและจะถูกถ่ายออกไปพร้อมกับอุจจาระควรรับประทานหลังอาหาร ร่างกายจะได้ดูดซึมวิตามินอย่างเต็มที่

 

12 . สับปะรด

เนื่องจากสับปะรดเป็นผลไม้ที่มีเอนไซม์มาก หากเรายังไม่ได้รับประทานอาหาร เอนไซม์เหล่านี้จะเข้าไปกัดกระเพาะอาหาร ดีที่สุดคือรับประทานสับปะรดหลังรับอาหาร จะได้ผลดีต่อร่างกาย

 

เพื่อนๆทุกคน เมื่อดูแล้วช่วยแชร์ความรู้เหล่านี้ออกไปให้เพื่อนคนอื่นๆของคุณดูด้วย ทุกคนจะได้ ไม่ต้องทำร้ายร่างกายของตัวเองอีกต่อไป

ขอบคุณที่มา: http://www.manyum.com/post/detail/132854.html
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
จิซัง's profile


โพสท์โดย: จิซัง
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
28 VOTES (4/5 จาก 7 คน)
VOTED: paktronghie, โคโมรินค่ะ, ono, zerotype, แมวฮั่ว แมวขี้น้อยใจ
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
พบแล้ว! นักศึกษาและอาจารย์ ม.มหิดล หลงป่าในอุทยานแห่งชาติไทรโยค กาญจนบุรี"เด้งมาก็เด้งกลับ" ช็อตฮากระจาย..ระหว่างชายปริศนา VS นักร้องสาว 😁รักษาบาดแผลได้เร็วขึ้น 25%?! ผ้าพันแผลสุดเจ๋งที่คุณยังไม่เคยเห็น!เจ้าสาวคนดังเจอดราม่ายับ หลังบอก ไม่ ทำงานบ้านให้เจ้าบ่าวทำ แถมยังใส่สูงเกินจนเหมือนกดเจ้าบ่าวช็อกวงการ! แห่อาลัย "แบงค์ เลสเตอร์" อินฟลูเอนเซอร์ดัง แร็พเปอร์สายสู้ชีวิต หลังถูกจ้างดื่มเหล้าจนเสียชีวิต (มึคลิป)สาวอินเดียสั่งของออนไลน์ ดีใจรับกล่อง เปิดออกแทบช็อค กลายเป็นศwอยู่ในนั้นไม่มีวันตกเครื่องแน่นอน!…เมื่อคุณรู้เคล็ดลับเหล่านี้!นักโทษนับพันแหกคุก ในโมซัมบิกเกิดเหตุแท็กซี่พุ่งชนคนเดิน คืนวันคริสต์มาสในนิวยอร์กกทม.ประกาศ จำกัดความเร็วรถยนต์ เหลือ 60 กม./ชม.แล้ว!!7 สาเหตุของอาการเหนื่อยล้า พร้อมวิธีการจัดการความเหนื่อยล้าเหล่านี้ เพื่อความสดชื่นตลอดทั้งวัน และ การนอนหลับตอนกลางคืนอย่างมีคุณภาพ“อาหารวัยทอง” 40+ กินอะไรดี? แนวทางการบริโภคสำหรับอาหารวัยทอง การดูแลร่างกายให้แข็งแรงสมบูรณ์ ห่างไกลผลกระทบจากอาการวัยทอง
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
สาวอินเดียสั่งของออนไลน์ ดีใจรับกล่อง เปิดออกแทบช็อค กลายเป็นศwอยู่ในนั้นกทม.ประกาศ จำกัดความเร็วรถยนต์ เหลือ 60 กม./ชม.แล้ว!!"เด้งมาก็เด้งกลับ" ช็อตฮากระจาย..ระหว่างชายปริศนา VS นักร้องสาว 😁
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
เกวียนไม้โอ๊คอายุ 4,000 ปี : ยานพาหนะล้อที่เก่าแก่ที่สุดในโลกคนลดน้ำหนักจำเป็นต้องกินเวย์โปรตีนทุกคนไหม?ไขความลับ ทำไมนักเรียนญี่ปุ่นถึงนิยมใส่กระโปรงสั้น?ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับถุงยๅงอนามัย : มาเคลียร์ความเข้าใจผิดๆ ที่คุณอาจเคยได้ยินกันเน่อ
ตั้งกระทู้ใหม่