หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

พระพุทธบารมีฉัพพรรณรังสี

โพสท์โดย Timmy Mueller

พระฉัพพรรณรังสี

(โพสเพื่อเป็นพุทธบูชา และให้ท่านที่ยังไม่ทราบได้ทราบนะครับ)



ฉัพพรรณรังสี  (อ่านว่า  ฉับ พัน นะ รัง สี)

มี ๖ สี คือ สีเขียว ขาว แดง เหลือง ม่วง และประภัสสร (เลื่อมพราย) ท่านอุปมาว่า

สีเขียว - นิลกะ สีเขียวเข้มเหมือนดอกอัญชัน ดอกสามหาว กลีบบัวเขียวที่ซ่านออกไปจากพระเกสา คือ ผม และพระมัสสุ (หนวด) ออกมาจากสีเขียวแห่งพระเนตรทั้งสอง

สีขาว - โอทาตะ สีขาวเหมือนแผ่นเงิน เหมือนน้ำนม และดอกโกมุท ดอกย่านทรายและมลิวัลย์ ซ่านออกมาจากพระอัฐิ (กระดูก) พระทนต์ (ฟัน) และสีขาวออกจากพระเนตรทั้งสอง

สีแดง - โลหิต แดงเหมือนสีตะวันทอง สีผ้ากัมพล ดอกชัยพฤกษ์ ดอกทองกวาว ดอกชบา ที่ออกมาจากพระมังสะ (สีเนื้อ) พระโลหิต (สีเลือด) ซ่านออกมาจากพระเนตรทั้งสอง

สีเหลือง - ปิตะ สีเหมือนแผ่นทองคำ สีเหลืองเหมือนผงขมิ้น ดอกกรรณิการ์ที่ซ่านออกมาจากพระฉวีวรรณ(ผิว)

สีม่วง - มันชิถะ เหมือนสีเท้าหงส์ที่เรียกว่า หงสบาท สีดอกหงอนไก่ สีม่วงแดง ที่ซ่านออกมาจากพระสรีระ (ร่างกาย)

สีประภัสสร - สีเลื่อมพราย เหมือนสีแก้วผลึกที่เรียกว่า สีเลื่อมประภัสสร ออกมาจากพระสรีระเช่นกัน

 

ฉัพพรรณรังสีที่ซ่านออกมาหลังจากทรงพิจารณาพระอภิธรรมเจ็ดคัมภีร์มาถึงคัมภีร์มหาปัฏฐาน ในเบื้องต้นฉัพพรรณรังสีออกจากพระวรกายไปสู่เบื้องล่าง

จากมหาปฐพีใหญ่ อันหนาถึงสองแสนสี่หมื่นโยชน์ รัศมีเหล่านั้นลอดทะลุแผ่นดิน ลงไปจับน้ำในแผ่นดินหนาถึงสี่แสนแปดหมื่นโยชน์ รัศมีเหล่านั้นเมื่อเจาะทะลุลมแล้ว แล่นลงไปสู่อัชฎากาส อากาศว่าง ๆ ภายใต้ลม

ฉัพพรรณรังสีที่แผ่ไปสู่เบื้องบนแผ่ไปตั้งแต่มนุษย์และเทวภูมิ ๖ คือ จากนั้นแผ่ไปยังพรหมโลก ตั้งแต่ชั้นพรหมปาริสัชชา จนถึงชั้นสุทธาวาส ๕ แล้วแล่นไปสู่อัชฎากาส

ฉัพพรรณรังสีที่ไปสู่เบื้องขวาอันหาที่สุดมิได้ ไม่มีรัศมีใด ๆ ที่เทียบเท่าได้เลย แม้รัศมีของพระอาทิตย์ พระจันทร์ ดวงดาว และเทวดาทั้งหลายก็สู้ไม่ได้

ฉัพพรรณรังสีที่ปรากฏในบรรดาพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ จะให้ผู้อื่นมองเห็นหรือมองไม่ให้ก็ได้ แต่มีฉัพพรรณรังสีของพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งพระนามว่า พระมังคละพุทธเจ้า

มีพระรัศมีแผ่ไปมากกว่าพระพุทธเจ้าพระองค์อื่น ๆ คือ มีรัศมีแผ่ไปแสนโกฏิโลกธาตุ (แสนโลกธาตุเท่ากับแสนจักรวาล จักรวาลหนึ่งเท่ากับ ๓๑ ภูมิ)

ส่องสว่างเป็นรัศมีสีทองทั่วไปตลอดทั้งกลางวันกลางคืน กลบแสงจากดวงจันทร์และดวงอาทิตย์จนสิ้น ประชาชนจะรู้ได้ว่าเป็นกลางวันจากเสียงนกร้อง เป็นเวลากลางคืนเมื่อดอกไม้บาน



เหตุที่พระมังคละพุทธเจ้าทรงมีฉัพพรรณรังสีส่องสว่างโดยตลอดนั้น เพราะสมัยเมื่อเป็นพระโพธิสัตว์ ยักษ์ตนหนึ่งได้ปลอมตัวเป็นพราหมณ์ได้มาขอบุตรสองคนจากพระโพธิสัตว์

พระองค์ทรงบริจาคให้โดยถือว่าเป็นบารมีไปสู่โพธิญาณ พอยักษ์ได้เด็กแล้วก็กินเด็กทั้งสองต่อหน้าพระโพธิสัตว์ พระโพธิสัตว์เห็นแล้วไม่มีความเสียพระทัยแม้เพียงปลายผม

กลับยังพระทัยให้เข้มแข็งปิติโสมนัสโดยเปล่งอุทานว่า "ทานอันใดที่ให้โดยดีแล้ว ยังผลให้สิ้นอาสวะกิเลสเป็นปัจจัยให้บรรลุพระนิพพาน"

พระมังคละโพธิสัตว์ได้ทรงตั้งพระทัยปรารถนาว่า เมื่อพระองค์ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้ว ขอให้รัศมีแผ่ไปแสนจักรวาลตลอดพระชนม์ชีพของพระองค์

อีกเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้พระองค์ทรงมีรัศมีแผ่ไปแสนจักรวาลคือ ในสมัยที่พระองค์ยังเป็นพระโพธิสัตว์ ท่านได้เห็นเจดีย์ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วคิดว่า ควรสละชีพเพื่อบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

จึงได้พันกายของตนเป็นคบเพลิง และเอาเนยใสใส่ถาดทองคำสูงประมาณ ๑ ศอกเทินไว้บนศีรษะ แล้วจุดไส้ประทีปที่พันไว้ให้ลุกโพลงทั่วร่างกาย ทำประทักษิณเวียนขวารอบพระเจดีย์ตลอดราตรีจนส่วาง

ด้วยอำนาจแห่งการบูชานี้ แม้ขุมขนสักเส้นหนึ่งก็ไม่ไหม้ไฟ ด้วยอำนาจแห่งพระธรรมที่ยอมสละชีพเพื่อบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติให้เป็นสุข

ด้วยผลกรรมนี้ จึงทำให้รังสีของพระมังคละพุทธเจ้าแผ่ไปถึงแสนจักรวาลเป็นนิจตลอดกาล ในสมัยของพระองค์ เมื่อพระองค์ทรงปรินิพพาน พระฉัพพรรณรังสีนี้ก็ดับไปพร้อมกันทั้งหมด



พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ เมื่อทรงพิจารณาคัมภีร์มหาปัฏฐานแล้วเป็นเหตุให้เกิดฉัพพรรณรังสี รัศมีซ่านออกจากพระวรกายด้วยความบริสุทธิ์


การที่รัศมีของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีอยู่ได้ตลอดเวลาก็ด้วยอำนาจแห่งพุทธวิสัย คือ พระเดช ๕ ประการ ที่เกิดขึ้นมาพร้อมกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้าคือ

๑. ศีลเดช ทรงมีกาย วาจา เรียบร้อย มีศีลวินัยดียอดเยี่ยม

๒. คุณเดช ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอย่างยอดเยี่ยมแก่สัตว์โลกทั้งปวง

๓. ปัญญาเดช ทรงมีพระปัญญาท่วมท้นด้วยพระสัพพัญญุตญาณ

๔. บุญเดช ทรงมีบุญสั่งสมตั้งแต่เป็นพระโพธิสัตว์

๕. ธรรมเดช ทรงรู้ธรรมตามความเป็นจริง แล้วนำมาสั่งสอนให้รู้ธรรมตามความเป็นจริง

ด้วยอำนาจพระเดช ๕ ประการนี้ จึงเป็นเหตุให้เกิดฉัพพรรณรังสีด้วยประการฉะนี้แล

 

คัดย่อจาก / ขอขอบคุณ

ปิยา ธรรมารักษ์
-----------------
จาก ธรรมะเพื่อชีวิต
เล่มที่ ๓๕ ฉบับวันมาฆบูชา ๒๕๔๖
มูลนิธิพุทธศาสนศึกษา วัดบุรณศิริมาตยาราม

ธงศาสนาพุทธสากล หรือธงฉัพพรรณรังสี

 

 

 

 

ที่มา: พลังจิต
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
Timmy Mueller's profile


โพสท์โดย: Timmy Mueller
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
76 VOTES (4/5 จาก 19 คน)
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เปิดตัวเลขจริง! เอวาและ 4 สาวหมื่นล้าน มีเงินในบัญชีคนละเท่าไหร่?20 แคปชั่นกวางเรนเดียร์ ฮาๆ น่ารักๆ แคปชั่นกวางน้อย กวางเหลียวหลัง อ่อยๆผักที่มีแคลเซียมมากกว่านม 4 เท่า! ค้นพบแหล่งแคลเซียมธรรมชาติที่ขายดีตามตลาดแต่ยังน้อยคนรู้จักเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 มาแน่! คนทั่วไปรับผ่านดิจิทัลวอลเล็ต กระตุ้นเศรษฐกิจปี 2568ในวันที่ไม่มีพ่อแม่คอยถามไถ่ อย่างน้อยๆ น้องก็ยังมี เพื่อนพ่อที่คอยถามไถ่น้องแทนสาวขึ้นรถไฟฟ้าไม่ทัน ประตูหนีบมือ ก่อนโดนลากไปกับรถมะเร็งลำไส้ใหญ่ โรคร้ายที่มากับเมนูอร่อยเพลง “ไก่” จากเป้ อารักษ์ เพลงเก่าสุดยูนีค ที่กำลังเป็นไวรัลอีกครั้ง50 ข้อแนะนำ!! เพื่อชีวิต "ราบรื่น" ในปี 2025ชายคนหนึ่งเข้าพักโรงแรม เกิดเหงาเรียกสาวบริการ พบเป็นเมียของตนเองหนุ่มจีนหน้าเหลี่ยมเพราะ "เคี้ยวหมากฝรั่ง" หนักมาก เผยภายใน 8 ปี เสียค่าหมากฝรั่งไปกว่า 2 ล้านบาทซีรีส์จีน “ต้นตำนานอาภรณ์จักรพรรดิ” ผลงานของ “ถานซงอวิ้น” แนวนางเอกสู้ชีวิต
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
เพลง “ไก่” จากเป้ อารักษ์ เพลงเก่าสุดยูนีค ที่กำลังเป็นไวรัลอีกครั้ง50 ข้อแนะนำ!! เพื่อชีวิต "ราบรื่น" ในปี 2025พนักงานสตาร์บัคส์[อเมริกา] ประท้วงหยุดงานจนถึงคริสต์มาสอีฟ เพื่อต่อรองค่าจ้างและเวลาทำงานซีรีส์จีน “ต้นตำนานอาภรณ์จักรพรรดิ” ผลงานของ “ถานซงอวิ้น” แนวนางเอกสู้ชีวิต“มนุษย์เกิดมาทำไม?” คำถามที่ปลดล็อกความหมายของการมีชีวิต
ตั้งกระทู้ใหม่