ย้อนรอย “ป่าช้าวัดดอน” ป่าช้าในตำนาน
พูดถึงเรื่องสยองขวัญที่เกี่ยวกับป่าช้าขึ้นมา ถ้าบอกว่าให้นึกถึงชื่อป่าช้าที่ใครๆ ก็เคยได้ยินชื่อคุ้นหูมายาวนาน ก็ต้องที่นี่เลย….. “ป่าช้าวัดดอน” สถานที่ที่คนกลัวผีในประเทศนี้ได้ยินกันมานานนักแล้ว ที่นี่คือสุสานหรือป่าช้าที่ใครๆ ก็ยกนิ้วให้ในเรื่องของความเฮี้ยน
ป่าช้าหรือสุสานวัดดอนแห่งนี้ มีพื้นที่มากกว่า 150 ไร่ ตั้งอยู่ในเขตสาทร บริเวณซอยเจริญกรุง 57 เชื่อมต่อจนถึงเซ็นต์หลุยส์ ซอย 3 ที่นี่มีเรื่องผีหลอกวิญญาณหลอนมาเล่าต่อให้ได้ยินอยู่หลายเรื่อง อย่างเรื่องที่เล่ากันว่า หากใครขับรถผ่านเข้ามาบริเวณนี้ก็มักจะมีคนเห็นว่า เข้ามาคนเดียวแต่ขากลับออกไปสองคน หรือมากกว่าสองคน แล้วแต่ละคนก็มีสภาพกะรุ่งกะริ่งไม่ค่อยจะสมบูรณ์เท่าไหร่ ดังนั้นในสมัยก่อนเวลาใครโบกแท็กซี่ให้เข้ามาส่งแถวๆ นี้ โชเฟอร์ก็มักจะส่ายหัวปฎิเสธกันเป็นแถว
ต้นเหตุของความเฮี้ยนนั้นก็เพราะว่า ป่าช้าวัดดอนแห่งนี้อยู่ในความดูแลของ 3 องค์กร คือ สมาคมแต้จิ๋วแห่งประเทศไทย มูลนิธิปอเต็กตึ้ง และสมาคมไหหลำด่านเกเต้ จึงมีศพถูกฝังอยู่บริเวณนี้มากกว่าหมื่นศพ ทั้งศพที่ฝังในลักษณะของฮวงซุ้ย ศพที่บรรจุเฉพาะอัฐิ และศพไร้ญาติที่ส่วนใหญ่เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุต่างๆ หรือที่เรียกว่า “ตายโหง” มารวมกันไว้ นั่นจึงทำให้ความน่ากลัวของป่าช้าแห่งนี้ทวีความหลอนมากยิ่งขึ้น แต่ต่อมามีความพยายามจะทำให้พื้นที่ย่านนี้ลดทอนความน่าสะพรึงลง จึงได้เปลี่ยนชื่อป่าช้าวัดดอนมาเป็น “วัดบรมสถล” และปรับปรุงทัศนียภาพ ซะใหม่ ภายใต้การดูแลของสามองค์กรดังกล่าว
อรุโณทัย เกริกไกรแพทย์ สัปเหร่อร่างท้วมวัยเลยครึ่งอายุคน ผู้ที่เกิดและเติบโตมาในชุมชนวัดดอน เล่าถึงบรรยากาศย้อนหลังเมื่อหลายสิบปีก่อน สมัยป่าช้าวัดดอนยังคงความน่าสะพรึงกลัว และซ่อนเรื่องราวเร้นลับในโลกของความเชื่อเรื่องภูต ผี วิญญาณ อันฝังรากลึกมาแต่ครั้งบรรพบุรุษ “คนเค้าเจอกันบ่อยไป ยิ่งแท็กซี่นะใครโบกบอกให้มาส่งวัดดอน ไม่มีใครกล้ามาหรอก กลัวมีเพื่อนกลับออกไปด้วย พวกแท็กซี่เข้ามาส่งผู้โดยสารสิ เจอกันประจำ คนแถวนี้เค้าเห็นนั่งข้างคนขับเลย” สัปเหร่อกล่าว
สมัย 50 ปีก่อนโน้น ย่านสาทร ยานนาวา บางรัก ยังคงเป็นป่ารกไม่ค่อยมีผู้คนอาศัยอยู่มากนัก เมื่อมีศพไร้ญาติที่ตายโหง(ประสบอุบัติเหตุต่างๆ) ก็จะนำมาฝังรวมๆ กันในพื้นที่ตรงนี้ ต่อมาเมื่อมีเรื่องโจษขานถึงความน่าสะพรึงกลัวยิ่งมีการต่อเติมเสริมแต่งความหลอนเข้าไปอีก ก็ยิ่งทำให้ผู้คนไม่กล้าเยื้องกรายมาใกล้ย่านนี้โดยไม่จำเป็น ประกอบกับศพที่นำมาฝังมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จึงได้มีการทำพิธีล้างป่าช้าขึ้น และมีการขยายเมืองเกิดขึ้นตามมา ปัจจุบันที่นี่จึงเหลือไว้แต่เรื่องเล่าความหลังอันน่าขวัญผวาที่เริ่มจางหายไปเรื่อยๆ ตามกาลเวลา
วันนี้ภาพของป่าช้าอันน่ากลัวของวัดดอน ที่มีความเจริญทางสังคมเข้ามาทำให้ภาพป่าช้าที่น่ากลัว แปรเปลี่ยนกลายเป็นสวนสวยท่ามกลางพื้นที่สีเขียวของกรุงเทพมหานคร ที่ใช้ออกกำลังกาย ใช้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ มีลานกีฬา และโรงเรียน รวมถึงชุมชนที่กำลังขยายตัวไปเรื่อยๆ
ปัจจุบันนี้นอกจากมีการล้างป่าช้าทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับดวงวิญญาณเหล่านั้นไปหลายครั้งแล้ว บริเวณใกล้เคียงกับป่าช้ายังมีทางด่วนตัดผ่านและเป็นจุดขึ้นลงทางด่วนเชื่อมต่อกับถนนสาทร ถนนจันทน์ ผลจากการขยายเมืองและพัฒนาพื้นที่ตรงนี้จึงทำให้มีการปรับปรุงสภาพป่าช้าบริเวณโดยรอบ เป็นโครงการ “สวนสวยในป่าช้า”หรือ “สวนสวยสมาคมแต้จิ๋ว” โดยมีการปรับปรุงป่าช้าวัดดอนบางส่วนเพื่อใช้เป็นสวนสาธารณะให้คนได้เข้าไปออกกำลังกาย ผนวกกับปัจจุบันนี้ไม่มีการนำศพเข้าไปฝังในป่าช้าวัดดอนอีกแล้ว ทำให้บรรยากาศความเงียบสงัดที่ชวนให้ขนหัวลุกลดน้อยลงไป กลายเป็นความคึกคักเต็มไปด้วยผู้คนที่มาออกกำลังกายกันขวักไขว่ทุกวัน….เรียกว่า วิ่งจ๊อกกิ้งในสวนท่ามกลางหลุมฝังศพเลยก็ว่าได้
ทำให้ที่นี่ถือเป็น “สวนสาธารณะที่แปลกที่สุดในโลก” แห่งหนึ่ง เพราะขณะที่คนมาวิ่งจ๊อกกิ้งหรือเดินออกกำลัง ก็จะได้ชมทิวทัศน์ข้างทางเป็นฮวงซุ้ยที่ตั้งเรียงรายเป็นทิวแถว….ออกกำลังไปก็จะได้ปลงสังขาร เกิด-แก่-เจ็บ-ตายไปด้วยซะเลย เข้าท่าดีเหมือนกันนะ!!