“TEXT NECK” ท่าที่ไม่ควรทำ เพราะส่งผลเสียต่อกระดูกสันหลังของคุณ

ศีรษะของมนุษย์หนักประมาณ 5 กิโลกรัม แต่เมื่อคอของเราโน้มลงไปข้างหน้า น้ำหนักที่กดลงบนกระดูกสันหลังคอ (cervical spine ) จะเพิ่มขึ้น เมื่อคอโน้มลงมาข้างหน้าทำมุม 15 องศากับแกนตั้งของลำตัว น้ำหนักที่กดลงจากศีรษะจะสูงถึง 12 กิโลกรัม, ที่ 30 องศา จะมีน้ำหนัก 18 กิโลกรัม, ที่ 45 องศา จะมีน้ำหนัก 22 กิโลกรัม, ที่ 60 องศา จะมีน้ำหนัก 27 กิโลกรัมเลยทีเดียว

นั่นคือภาระที่เราต้องแบกรับขณะก้มหน้าจ้องหน้าจอสมาร์ทโฟนของคุณ สิ่งที่คนนับล้านทำอยู่อย่างน้อยก็ประมาณชั่วโมงนึงในทุกทุกวัน จากข้อมูลงานวิจัยที่ถูกตีพิมพ์ใน National Library of Medicine โดย Kenneth Hansraj งานวิจัยนี้จะถูกตีพิมพ์ในวารสาร Surgical Technology International ในเดือนหน้า นักวิจัยกล่าวว่าท่าทางเช่นนี้ซึ่งในบางครั้งถูกเรียกว่า “text neck” สามารถส่งผลให้เกิดการสึกหรอของกระดูกสันหลัง การเสื่อมถอยและอาจถึงขั้นต้องมีการผ่าตัด

Hansraj หัวหน้าแผนกศัลยกรรมกระดูกสันหลังที่ศูนย์ New York Spine Surgery and Rehabilitation Medicine กล่าวต่อสำนักข่าว The Washington Post ว่า “ท่าทางนี้มีการระบาดอย่างรวดเร็วมาก หรืออย่างน้อยก็คือมันกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว ลองมองรอบๆ คุณดูสิ ทุกคนมีแต่ก้มหน้ากันทั้งนั้น”

คุณยังมองไม่เห็นภาพของการที่กระดูกสันหลังต้องแบกรับน้ำหนักกว่า 27 กิโลกรัมหละสิ ? ลองจินตนาการว่าคุณกำลังมีเด็ก 8 ขวบนั่งอยู่บนคอของคุณเป็นเวลาหลายชั่วโมงต่อวัน ผู้คนที่มีสมาร์ทโฟนในปัจจุบันใช้เวลาโดยเฉลี่ยสองถึงสี่ชั่วโมงต่อวันในการก้มหน้าจ้องหน้าจอ อ่านอีเมลล์ ส่งข้อความ หรือเช็คโซเชียล มีเดีย ต่างๆ นั่นคิดเป็นกว่า 700-1400 ชั่วโมงต่อปีที่เรากำลังทำให้เกิดแรงกดต่อกระดูกสันหลัง และเด็กมัธยมอาจจะมากกว่านี้ด้วยซ้ำ

นาย Hansraj กล่าวว่า “ปัญหานี้ค่อนข้างลึกซึ้งในเยาว์ชน เนื่องจากการที่มีแรงกดจำนวนมากเกินลงบนกระดูกสันหลังคอนั้นอาจจะทำให้พวกเขาต้องได้รับการรักษากระดูกสันหลังตั้งแต่วัยเยาว์ ฉันอยากจะเห็นพ่อแม่ออกมาคอยแนะแนวลูกๆ ของตัวเองจริงๆ”

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้กล่าวเตือนมาหลายปีแล้ว บางคนกล่าวว่าในทุกทุกหนึ่งนิ้วที่ศีรษะโน้มลงไปข้างหน้า แรงกดทับกระดูกสันหลังจะเพิ่มขึ้นสองเท่า

Tom DiAngelis ประธานแผนก Private Practice ของสมาคม American Physical Therapy Association กล่าวแก่สำนักข่าว CNN เมื่อปีที่แล้วถึงผลกระทบซึ่งคล้ายกับการงอนิ้วไปด้านหลังและค้างไว้เช่นนั้นประมาณหนึ่งชั่วโมง

เขากล่าวว่า “เมื่อคุณยืดเนื้อเยื่อในระยะเวลานาน มันจะได้รับการบาดเจ็บ และเกิดการอักเสบ มันยังสามารถทำให้เกิดความเสียหายกับกล้ามเนื้อ เส้นประสาทรวมถึงการเคลื่อนของหมอนรองกระดูกและอาจจะทำให้สัดส่วนโค้งของคอถูกเปลี่ยนแปลงไปเมื่อระยะเวลาผ่านไปนาน”

(Courtesy of Dr. Ken Hansraj M.D.)

Michelle Collie หัวหน้าแพทย์ของแผนก Performance Physical Therapy ที่ Rhode Island กล่าวต่อสำนักข่าว CNN เมื่อปีที่แล้วว่าเธอเริ่มเห็นผู้ป่วยซึ่งได้รับผลกระทบจากการก้มหน้าจ้องสมาร์ทโฟนเป็นระยะเวลานาน และปวดหลังและคอมากว่าหกถึงเจ็ดกว่าปีที่ผ่านมา

ท่าทางที่ไม่ดีสามารถก่อให้เกิดปัญหาอื่นตามมาเช่นเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่ามันสามารถลดความจุของปอดได้ถึง 30% มันยังเชื่อมโยงกับอาการปวดหัวและปัญหาที่เกี่ยวกับระบบประสาทอย่างเช่น โรคซึมเศร้า และโรคที่เกี่ยวกับหัวใจอีกด้วย

งานวิจัยเสนอว่า “ในขณะที่มันอาจจะเกือบเป็นไปไม่ได้ที่จะหลีกเลี่ยงการใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ พวกเราก็ควรจะเปลี่ยนวิธีการใช้สมาร์ทโฟนใหม่โดยการเล่นในขณะที่นั่งตัวตรงให้มากที่สุด และหลีกเลี่ยงการใช้เวลามากกว่าหนึ่งชั่วโมงต่อวันก้มหน้าเล่น”

มีวิธีง่ายๆ มาเพื่อหลีกเลี่ยงอาการปวดกระดูกสันหลังคอ

• จ้องดูสมาร์ทโฟนของคุณด้วยตาเท่านั้น พยายามอย่าก้มศีรษะลงมากเกินไป
• ออกกำลังกาย: ขยับศีรษะของคุณจากซ้ายไปขวาหลายๆ ที, ใช้ฝ่ามือกดดันศีรษะขณะที่พยายามเคลื่อนไปข้างหน้าและข้างหลัง, กางมือและแอ่นหน้าอกไปข้างหน้านิดนึงเพื่อยืดกล้ามเนื้อ

 ที่มา: Washington Post