ครั้งนึงที่เคยทำพลาดไป
เมื่อตอนผมยัง อายุ 17 ปี ผม ดื้อมาก พ่อผมพูดสอนบอกอะไรผมไม่ค่อยฟัง บอกให้ตั้งใจเรียน ผมก็ได้แต่ตอบครับๆ พอไปโรงเรียน ก็ ไม่เข้าเรียน หรือเรียกง่ายๆ "โดดเรียน" แอบไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ขี่รถมอเตอร์ไซค์ คู่ใจ ไปเที่ยวน้ำตกไปดูสาวๆ เทคนิค แอบโดนเรียนมาเล่นน้ำเหมือนกัน พากันกันแซวสาวๆ ตกตอนเย็นกลับมาบ้าน ปกติ พ่อได้ถามขึ้นมาว่า
พ่อ : ไปโรงเรียนเป็นยังไงบ้างลูก
ผม : ก็เหมือนเดิม อ่ะ พ่อ ไม่มีอะไรมาก (ในใจคิด หึๆ สบายไปอีก 1 วัน)
พ่อ : ตั้งใจเรียนนะลูก "พ่อไม่มีสมบัติอะไรจะให้" ยังไงก็ตั้งใจเรียนนะอย่าไปเกโรงเรียนเที่ยวเตร่ไปทั่วนะลูก ไม่งั้นจะลำบากใน อนาคต
ผม : รู้แล้วครับๆ พ่อไม่ต้องบ่นหรอก !!
วันต่อมาผมก็ทำเหมือนเดิม โดดเรียนเที่ยว ไปเรื่อยๆ ตามภาษาวัยรุ่น จนปิดเทอมแรก ตอน ม.5 ตอนนั้นผมจำได้ดี ว่าผมมีแฟนแล้ว เรา ก็แอบมีอะไรกัน ในช่วง วัยรุ่น อ่ะครับ มันเป็นอะไรที่เราต้องเคยผ่านมาด้วยกันทั้งนั้น เรื่องแบบนี้ ของมันเคยๆ จนมันกลายเป็นเรื่องใหญ่ พ่อแม่ ฝ่ายหญิง เค้าจับได้ว่า ผมกับแฟนมีอะไรกันแล้ว ตามมาเอาเรื่องถึงที่บ้านเลยครับ งานเข้าผมแล้วสิที่นี้ ผมลูกผู้ชายพอ ครับ กล้าทำก็ต้องกล้ารับ ไม่หนีหน้าไม่หนีปัญหาเปิด ประตู ออกไป ใจตกลงไปอยู่ตรงตาตุม ครับ พอยกมือไหว้ พ่อกับแม่ แฟนแล้ว ผู้ใหญ่เค้าคุยกันผมเลยมานั่งอยู่กับแฟนที่หน้าบ้านก็เลยถามแฟนไปว่า
ผม : นี่ !! พ่อแม่เธอรู้ได้ไง เธอบอก พ่อแม่เธอเหรอ
แฟน : ไม่ได้บอก เค้าไม่ได้บอกนะ
ผม : อ่าว ไม่บอกแล้วใครจะพูดว่ะ
แฟน : ทำไม ต้องมาสงสัยด้วย หรือ กลัวอะไร ไหนบอกจะรับผิดชอบไง พูดอย่างนี้หมายความว่าไง (แฟนผมก็ร้องไห้)
ผม : จะร้องทำไมว่ะ ไม่ได้มีใครตายสักหน่อย เอออ บอกไปแล้ว ยังไงก็ต้องรับผิดชอบ
หลังจากที่ผู้ใหญ่เข้าไปคุยกัน นานมาก แล้วพ่อแม่ แฟน ผม ก็ออกมา มองผมด้วยตาขวาง ผมไม่กล้าสู้หน้าครับไม่กล้ามองหน้าแกด้วยซ้ำ ในจิตใต้สำนึกของผม มันบอกว่า "ไอ่ชิบหายเอ่ย กูทำอะไรของกูอยู่ว่ะเนี่ยถ้าเกิดว่ากูได้มีอะไรกันก็คงไม่ต้องลำบากและหนักใจขนาดนี้หรอก" จากนั้นพ่อกับแม่แฟน ก็กลับบ้าน ผมยกมือไหว้แก แต่แกกลับไม่ไหวตอบกลับมาและไม่พูดอะไรด้วยซ้ำ ขี่รถออกไปเฉยๆ วันนั้นทั้งวัน พ่อก็เงียบไม่พูดอะไรอีก ผมนี่ ยิ่งเครียดหนักเลย ครับ
วันต่อมา ผมตื่นขึ้นมาช่วยพ่อผม ทำของเพื่อจะเอาไปขายเหมือนทุกวัน (ลืมบอกไปบ้านผมขายก๋วยเตี๊ยว) ผมได้นั่งรถแแกไปช่วยพ่อขายของ แล้วผมก็เลยถามพ่อว่า
ผม : พ่อครับ พ่อกับแม่แฟนผมเค้าว่ายังไงบ้างครับ
พ่อ : ไม่ได้ว่าอะไรมากหรอกพ่อคุยกับเค้าแล้ว
ผม : เห็นแกเครียดๆนะ ตอนที่เดิน ออกจากบ้านเรา
พ่อ : ก็น่าจะประมาณนั้นแหละ เพราะว่าพ่อ บอกแกว่า บ้านเราไม่ค่อยมีเงิน ซักเท่าไร
ผม : แกจะให้แต่งกันเหรอครับพ่อ
พ่อ : อืม แกให้แต่งกัน
ผม : แกเรียกเท่าไรครับ พ่อ
พ่อ : ก็ แสนกว่าๆ
ผม : แล้วถ้าเราไม่แต่ง ล่ะพ่อ
พ่อ : หนูก็ติดคุกสิลูก พ่อไม่อยากเห็นลูกหมดอนาคต
ผมอึ้งไปเลยครับ น้ำตาคลอเบ้า เลยครับ พอกลับมาถึงบ้าน ผมเข้าไปกราบขอโทษพ่อ ผมทำผิดไปมาก ผมร้องไห้ ออกมา มันกลั้นน้ำตาไม่อยู่จริงๆ ครับ และวันที่ต้องแต่งงานก็มาถึง ก็มีคนมาร่วมงาน อวยพรกัน ทางบ้านแฟนผมเค้าถือกันว่าหากแต่งแล้วจะต้องอยู่ที่ บ้านของเค้า 3 วันถึงออกจากบ้านได้ พอครบ 3 วันแล้วผมก็กลับมานอนที่บ้านของผม
หลังจากที่ผมแต่งงานเวลาก็ผ่านไปแล้ว 1 เดือน ก็ถึงวันเปิดเทอมผมมาโรงเรียนปกติ แต่ไม่เข้าโรงเรียนครับ แอบไปเที่ยวเตร่ เหมือนเดิมแต่ครั้งนี้ หนักหน่อย ครับ ทำแบบนี้ทุกวันๆ จน ครบ 1 เดือน อาจารย์เชิญผู้ปกครองมาพบเสร็จแล้ว อาจารย์รู้เรื่องว่ามีเรื่องชู้สาวในโรงเรียนอยู่แล้วด้วย ทางโรงเรียนก็เลยเชิญออก (โรงเรียนที่ผมเรียนเค้าห้ามมีเรื่องชู้สาวกันนะครับ) พอกับมาถึงบ้าน ผมมองดูหน้าพ่อของผม หน้าตาเศร้า ผมมองดูแล้วผมสงสารพอคิดว่าเราทำความผิดอีกแล้วผิดมากด้วย ไม่รู้จะทำยังไงดีแล้วพ่อก็เดินเข้ามาหาผม ผมคิดว่าจะโดนเตะหรือไม่ก็หมัดตรตง ซะแล้วครับ แต่พ่อกลับพูดว่า
พ่อ : เป็นยังไงบ้างพ่อบอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่าเกเรียน เพราะว่าพ่อไม่มีเงิน ไม่มีทรัพย์สมบัติให้เหมือนพ่อแม่คนอื่นเค้าพ่อถึงบอกให้ลูกตั้งใจเรียนและหางานดีๆทำจะได้ไม่ลำบากเหมือนพ่อ
ผม : ครับ
พ่อ : แล้วยังงี้ เราจะทำอะไรเลี้ยงเมียเราล่ะ
ผม : ก็ไปเป็นเด็กร้านซ่อมรถ (วัยรุ่นอ่ะ ครับ ชอบแต่งรถ แล้วก็เอาไปแข่งกัน)
พ่อ : มันได้เงินวันล่ะ 200 บาทน่ะเหรอ แค่นั้นนะถ้าเราแค่คนเดียวมันพอกินอยู่หรอกแต่เรามีเมียแล้วนะมันไม่พ่อใช่หรอก พ่อเคยผ่านมาก่อน พ่อรู้ดีว่าเป็นยังไงบ้าง
ผม : มันก็น่าจะพออยู่หรอก พ่อ ไม่ได้ใช้อะไรเยอะอยู่แล้ว
พ่อ : แล้วถ้าเรามีลูกขึ้นมาล่ะ จะเป็นยังไง
ผม : ถึงเวลานั้นเดี๋ยวค่อยคิดหาทางอีกทีแล้วกัน ครับ
พ่อ : เราจะต้องคิดได้แล้วอย่าปล่อยเวลาให้มันเสียไปเปล่าๆ พ่อก็บอกได้แค่นี้แหละ ชีวิตของหนูเราจะต้องเรียนรู้ด้วยตัวเองแล้วนะลูก
หลังจากวันนั้นเวลาก็ผ่านไป 1 ปีแล้ว ผมมีลูก 1 คน เงินไม่พอใช้จริงๆด้วยครับ คิดหาทางแล้วก็ยังหาทางออกไม่เจอ ตรงตามที่พ่อผมพูดไว้เปะเลย เลยมานั่งนึกย้อนกลับไปดูว่า เราทำอะไรไปบ้างในแต่ล่ะวันที่พ่อค่อยบอกค่อยสอน และที่พ่อส่งให้เรียนแต่กลับไม่ตั้งใจเรียนมานั่งนึกทบทวนดู คิดไป น้ำตาซึ่มออกมา กูไม่หน้าเลย ตอนที่พ่อบอกพ่อสอน ทำไมไม่ตั้งใจ ฟังและตั้งเรียน ถ้าเราฟังพ่อตั้งแต่แรก คงจะไม่เป็นแบบนี้ แน่ๆเลย