เครื่องเป่ามือในห้องน้ำ ตัวแพร่กระจายเชื้อโรคที่ควรหลีกห่าง
ถ้าคุณมีเหตุจำเป็นต้องเข้าห้องน้ำนอกบ้าน UNLOCKMEN อยากแนะนำให้หลีกเลี่ยงห้องน้ำที่มีแต่เครื่องเป่ามือ หรือ Hand Dryer เพราะมันเป็นตัวกระจายเชื้อโรคในห้องน้ำที่น่ากลัวมาก
ไม่มีที่ไหนสุขใจเท่าห้องน้ำที่บ้าน แต่ในชีวิตประจำวัน พวกเราใช้เวลาอยู่นอกบ้านตลอดเวลา ต้องมีช่วงเวลาที่หลีกเลี่ยงห้องน้ำสาธารณะไม่ได้ วันนี้ UNLOCKMEN มีผลวิจัยที่ตีพิมพ์ใน Journal of Hospital Infection จัดทำโดย Prof. Mark Wilcox, professor of medical microbiology at University of Leeds, ชี้ให้เราเห็นความน่ากลัวของเครื่องเป่ามือในห้องน้ำ หรือ electronic hand dryer ที่สามารถทำให้มือแห้งได้ พร้อมๆกับเป่าเชื้อโรค ไวรัส แบคทีเรีย บนฝ่ามือของแต่ละคนให้ปลิวว่อนอยู่ในห้องน้ำได้ไกลหลายเมตร และลอยอยู่ในอากาศได้นานหลายชั่วโมง
การทดลองเรื่องเครื่องเป่ามือให้แห้งในห้องน้ำ ทำโดยการป้าย Lactobacillis bacteria แบคทีเรียที่ไม่มีอยู่ในห้องน้ำ บนฝ่ามือของกลุ่มตัวอย่าง แล้วให้ใช้เครื่องเป่ามือในห้องน้ำหลังเสร็จภารกิจปกติ จากนั้นจึงทำการวัดปริมาณแบคทีเรียดังกล่าว พบว่าปริมาณแบคทีเรียในอากาศใกล้ๆเครื่องเป่ามือแบบใช้ลมร้อน (Warm air dryer) มีจำนวนมากกว่าบริเวณกระดาษเช็ดมือปกติถึง 4.5 เท่า และบริเวณเครื่องเป่ามือแบบใช้ลมแรงเป่า (Jer air dryer) พบว่ามีแบคทีเรียสูงกว่าถึง 27 เท่าเลยทีเดียว และยังพบว่าแบคทีเรียดังกล่าวถูกพัดได้ไกลถึง 2 เมตร
ความน่ากลัวที่แท้จริงไม่ใช่แค่นี้ครับ ในชีวิตจริง หลายคนใช้ห้องน้ำ แบบไม่เคยล้างมือ หรือล้างไม่สะอาดพอ ดังนั้นเชื้อโรคที่เครื่องเป่ามือจะพัดกระจายในห้องน้ำ อาจจะมีเชื้อโรคที่น่ากลัวอยู่ด้วย ยิ่งสถานที่อย่างโรงพยาบาล ที่เสี่ยงต่อการมีเชื้อโรคติดต่อหลายอย่าง กระจายตัวอยู่ในห้องน้ำ และเชื้อโรคเหล่านั้นสามารถมีชีวิตอยู่นอกร่างกายได้นาน ยิ่งทำให้คุณเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อจากการหายใจเข้าได้ไม่ยากเลย
แน่นอนว่าห้องน้ำสาธารณะ ขึ้นชื่อเป็นอันดับต้นๆ ในฐานะแหล่งรวมเชื้อโรคอยู่แล้ว ดังนั้นนอกจากอันตรายของเครื่องเป่ามือแล้ว UNLOCKMEN อยากให้ทุกคนหลีกเลี่ยงการหยิบ จับ สัมผัส บริเวณที่มีปัจจัยเสี่ยงสูง หรือจุดที่ทุกคนมักสัมผัส เช่น หัวก๊อกน้ำ ลูกบิดประตู ที่กดสบู่ และอื่นๆ เพราะเราไม่รู้หรอกครับว่า คนก่อนนี้ เค้าล้างมือหลังเสร็จภาพกิจหรือเปล่า จริงไหมครับ
จุดที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคในห้องน้ำมากที่สุด
ข้อมูลบางส่วนจาก : Journal of Hospital Infection
โพสท์โดย: I sea u