มหัศจรรย์แห่งรอยยิ้ม “Miracle of smile”

มหัศจรรย์แห่งรอยยิ้ม “Miracle of smile”

           รู้หรือไม่? ว่าใบหน้าของคนเรานั้นประกอบด้วยกล้ามเนื้อถึง 44 มัด ที่ช่วยควบคุมการแสดงออกได้มากกว่า 5,000 แบบ ด้วยกัน และหลายๆ แบบนั้น คือ “การยิ้ม”

          เมื่อคุณพบเห็นผู้คนทำเรื่องเปิ่นๆ หรือ ขายหน้า คุณหัวเราะ เมื่อคุณรอดจากด่านตรวจของตำรวจแบบไม่โดนใบสั่ง คุณยิ้มอย่างมีชัย  และเมื่อคุณประสบความสำเร็จในเรื่องงานเรื่องเรียนหรืออะไร ๆ เป็นไปตามที่คุณหวังอยู่ นั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้คุณยิ้มได้เช่นเดียวกัน การยิ้มนั้นเป็นเรื่องธรรมชาติในการแสดงออกถึงความสุขของมนุษย์ แต่รู้หรือไม่ว่า เพียงแค่การยิ้ม ก็สามารถกระตุ้นให้สมองส่วนหน้าซ้ายหลั่งสารแห่งความสุขออกมา แม้ว่าการยิ้มนั้นจะเกิดจากการฝืนยิ้มก็ตามที

นี่คือความมหัศจรรย์ของการยิ้มที่คุณอาจจะคาดไม่ถึง จากผลของการสำรวจ และการทดลองมากมายจากนานาประเทศ  

  การยิ้ม สร้างความสุขให้กับคุณได้ แม้ว่าคุณจะไม่ได้รู้สึกมีความสุข

          ร่างกาย และจิตใจ มีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด การแสดงสีหน้าด้วยการยิ้ม จะส่งกระแสไปยังระบบประสาทและสมอง ว่าคุณมีความสุข และหลั่งสารแห่งความสุขที่เรียกว่า เอนโดรฟิน (Endorphins) เซโรโทนิน (Serotonin) โดปามีน (Dopamine) และมอร์ฟีน (Morphine) ปฏิกิริยานี้ถูกศึกษาอย่างจริงจังตั้งแต่ ค.ศ.1980 จากนั้นก็มีการพิสูจน์เรื่อยมา จนกระทั้งในปี ค.ศ.1984 วารสารวิทยาศาสตร์ชื่อดัง Science ก็ได้ตีพิมพ์บทความหนึ่ง ที่แสดงให้เห็นว่าการแสดงออกทางสีหน้า มีผลต่อจิตใจและอารมณ์  ซึ่งทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายตามมา เช่น อัตราการเต้นของหัวใจและอัตราการหายใจ นอกจากนี้ การทดลองของชาวเยอรมันที่พบว่าผู้ทดสอบมีความสุขเมื่อทดลองให้คาบปากกาเอาไว้ซึ่งลักษณะของรูปปากมองดูคล้ายกับการยิ้ม และเมื่อให้อาสาสมัครกลุ่มเดียวกันนั้นใช้ริมฝีปากคาบในลักษณะยื่นริมฝีปากล่างและแสดงสีหน้าเหมือนกำลังมีความทุกข์ ก็ส่งผลให้ผู้ทดสอบมีความสุขลดลงไป ดังนั้น หากคุณรู้สึกเซ็งกับรถติดบนทางด่วน คุณอาจปรับอารมณ์ให้ดีเพียงลองยิ้มง่ายๆ ให้ตัวเอง สักหน่อย

 การยิ้มเป็นโรคติดต่อ

          อ่านไม่ผิดหรอกค่ะ การยิ้มนั้นเป็นโรคติดต่อจริงๆ แต่มันไม่ได้มีผลร้ายกับร่างกายใดๆ หากมีใครสักคนยิ้มด้วยความดีใจแบบสุดๆ แล้วบังเอิญหันมาพอดี เราก็คงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกดีไปด้วย หรืออยากยิ้มตาม เพราะจากผลการทดลอง พบว่า คนที่พบเห็นรอยยิ้มของเพื่อน จะมีการทำงานของมัดกล้ามเนื้อบนใบหน้าในลักษณะของการยิ้มเช่นเดียวกัน แม้ว่าบางครั้งอาสาสมัครเองอาจจะไม่รู้สึกตัวว่ายิ้มอยู่เลยก็เป็นได้ อาจจะฟังดูแปลกๆ สักหน่อย แต่นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น

ยิ้มสร้างเสน่ห์

          จากการศึกษาของ American Academy of Cosmetic Dentistry พบว่า 69% ของชาวอเมริกัน รู้สึกว่าการยิ้มที่มีเสน่ห์สามารถดึงดูดใจเพศตรงข้ามได้มากกว่าการแต่งหน้า นอกจากนี้   และยังมีอีกหลายการศึกษาที่พบว่าการยิ้มที่นานกว่า 0.5 วินาที เป็นยิ้มที่ดูจริงใจ น่าเชื่อถือ มีเสน่ห์ดึงดูด และ ดูโดดเด่น  บทความทางวิทยาศาสตร์ฉบับหนึ่งที่ถูกตีพิมพ์ในปี 2009 ใน Personality and Social Psychology Bulletin  กล่าวถึงการทดลองให้อาสาสมัครดูภาพถ่ายเต็มตัวของคนที่พวกเขาไม่รู้จักทั้งหมด 123 รูป ซึ่งประกอบไปด้วยคนที่ทำใบหน้าเฉย ๆ (เหมือนถ่ายรูปติดบัตรประชาชน) และ บางส่วนแสดงใบหน้ายิ้มแย้ม ทายสิคะ ว่าผลเป็นอย่างไร ?ผลก็คือ อาสาสมัครให้ความเห็นว่าคนที่มีใบหน้ายิ้มแย้ม จะถูกมองว่า เป็นคนที่น่าเข้าหา ดูมีความมั่นใจ และมีไมตรีจิต มากกว่าอีกกลุ่ม ดังนั้น หากคุณจะสมัครงาน นอกจากต้องแต่งตัวให้ดูน่าประทับใจแล้ว อย่าลืมพกรอยยิ้ม และหารูปถ่ายที่มีสีหน้าอมยิ้มติดลงไปในใบสมัครด้วยล่ะ

  การยิ้มทำให้สุขภาพคุณดีขึ้น

          ไม่น่าเชื่อว่า การยิ้มนั้น สามารถไปกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลางและเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายได้ การยิ้มยังช่วยลดความดันในเส้นเลือด ช่วยให้หัวใจเต้นเป็นปกติ ระบบการหายใจเป็นไปอย่างมีเสถียรภาพ และช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย นอกจากนี้ยังช่วยให้เม็ดเลือดขาวของเราซึ่งมีหน้าที่ปกป้องร่างกายจากสิ่งแปลกปลอม (เช่น แบคทีเรีย ไวรัส และสารพิษ) จะทำงานได้ดีขึ้นอีกด้วย คุณเองสามารถทดสอบด้วยตัวเองอย่างง่ายๆ ในขณะที่คุณออกกำลังกายแล้วรู้สึกว่าเหนื่อยมากๆ ให้คุณลองยิ้มดู แล้วคุณจะพบว่ามันช่วยให้คุณผ่อนคลายอย่างน่าอัศจรรย์ทีเดียว

 ยิ้มแล้วหน้าเด็ก

          แน่นอนว่าเมื่อคุณยิ้ม กล้ามเนื้อบนใบหน้าของคุณต้องทำงาน นั่นเป็นการช่วยยกกระชับใบหน้าได้โดยธรรมชาติ เพราะเซลล์จะเต่งตัวขึ้น ส่งผลให้ใบหน้าของคุณดูเปล่งปลั่งสุขภาพดี โดยไม่ต้องง้อโบทอกซ์

  ยิ้มแล้วอายุยืน

          การยิ้มส่งผลให้มีความสุข และจากการศึกษาของนักวิจัยของมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย สหรัฐอเมริกา พบว่า คนที่มีความสุข จะมีอายุขัยที่ยาวนานมากกว่าและอาจจะมากกว่าถึง 9 ปี เมื่อเทียบกับคนที่มีความสุขน้อยกว่า   เนื่องจากมีโอกาสน้อยกว่าที่จะเป็นโรคหัวใจ

          ท่าน ติช นัท ฮัน เคยกล่าวเอาไว้ว่า “บางครั้ง ความสุข เป็นเหตุแห่งการยิ้ม แต่บางครั้ง การยิ้ม ก็เป็นเหตุให้เกิดสุข”  ไม่ว่าตอนนี้คุณจะทุกข์ หรือจะสุข ยิ้มเข้าไว้นะคะ เดี๋ยวอะไรๆ ก็จะดีเอง เริ่มที่ตัวคุณก่อน แล้วลองหันไปยิ้มให้คนรอบข้าง หรือ ลองยิ้มให้กับคนแปลกในลิฟท์ หรือบนรถไฟฟ้า ไม่แน่ว่า คุณอาจจะพบมิตรภาพใหม่ๆ ก็เป็นได้

ผู้เขียน: อันดา 
ผู้ช่วยวิจัย/นิสิตปริญญาเอก 

สาขา Polymer Science
คณะ The Petroleum and Petrochemical College
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย