Share Facebook LINE Twitter
หน้าแรก เว็บบอร์ด Chat ตรวจหวย ควิซ คำนวณ Pageแชร์ลิ้ง
หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ผู้รับใช้หญิงของพระเจ้า คุณแม่เทเรซา

โพสท์โดย ดมด๋อย หอยจิ้มจุม

แม่ชีเทเรซ่าเป็นสตรีอีกท่านหนึ่งที่ทำหน้าที่ปรนนิบัติรับใช้พระเจ้าจนได้รับการขนานนามว่า “ของขวัญจากพระเจ้าในหมู่คนที่ยากจนที่สุด”  และเรียกขานเธอว่า“นักบุญของชาวสลัม”ในศตวรรษที่ 20  สันตะปาปาจอห์นปอลที่ 2 กล่าวยกย่องว่าเธอเป็นสัญลักษณ์ของผู้หญิงแห่งประวัติศาสตร์ในศตวรรษที่ 20  และยังมีคำชื่นชมต่างๆอีกมากมาย  แต่สำหรับแม่ชีเทเรซ่า  หากเธอยังมีชีวิตอยู่ในเวลานี้  เธอจะขอร้องว่าอย่าพูดเช่นนี้เลย และเธอจะกล่าวอย่างชาญฉลาดว่า “นี่ไม่ใช่งานของฉัน แต่เป็นงานขององค์พระผู้เป็นเจ้า  ฉันเป็นเพียงดินสอแท่งเล็กๆ ที่อยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์”  ..พระเจ้าทรงสำแดงความรักของพระองค์แก่โลกผ่านทางการกระทำของเรา!

แม่ชีเทเรซ่า มีชื่อจริงว่า แอ็กเนส  โบจาวิน (Agnes Bojavhin) เกิดที่เมืองสโกเปีย(Skopje) ปัจจุบันคือประเทศมาซิโดเนีย  เมื่อเธอเติบโตขึ้น เธอชื่นชมเรื่องราวชีวิตของมิชชันนารีคนหนึ่งและการรับใช้พระเจ้าของเขา  เธอได้รับการทรงเรียกให้รับใช้พระจ้าเมื่อเธอมีอายุได้ 12 ปี  เธอได้รับการเลี้ยงดูในครอบครัวคาทอลิก และเธได้อออกจากบ้านไปอยู่กับคณะแม่ชีชื่อซิสเตอร์ ออฟ ลอเร็ตโต(Sisters of Loretto) เมื่อเธออายุได้ 18 ปี  นับแต่นั้นเป็นต้นมา เธอไม่ได้พบหน้าแม่และพี่สาวอีกเลย  แอ็กเนสได้ปฏิญาณตนเพื่อดำรงตนเป็นซิสเตอร์อยู่ในสมณเพศและได้นามใหม่ว่า “เทเรซ่า” ตามชื่อนักบุญอุปถัมภ์ของเธอ  เธอเริ่มต้นจากการสอนเด็กๆ ในโรงเรียน และรู้สึกว่าความยากจนที่มีอยู่เต็มไปหมดในเมืองกัลกัตตา(ประเทศอินเดีย)นับวันยิ่งรบกวนจิตใจเธอมากขึ้นทุกที  ที่เมืองนี้เองที่พระเจ้าได้ทรงจัดวางตัวเธอสำหรับพันธกิจการให้ความช่วยเหลือสงเคราะห์คนที่ยากไร้  วันหนึ่ง ระหว่างที่เธอนั่งรถไฟไปยังเมืองดาจีลิ่ง (Darjeeling) เธอมีประสบการณ์กับพระเจ้าซึ่งเธอเรียกว่า “การทรงเรียกในการทรงเรียก” เธอได้รับพระบัญชา “ให้ออกจากคอนแวนต์(ที่พำนักของคณะซิสเตอร์)และไปช่วยคนยากจน”

แม่ชีเทเรซ่าเริ่มทำงานอยู่ท่ามกลางคนยากจนในปี ค.ศ.1948  เธอเขียนลงในสมุดบันทึกส่วนตัวของเธอว่าปีแรกๆ ของการทำงานนั้น เธอต้องประสบกับปัญหาอุปสรรคต่างๆมากมาย  เธอไม่มีทั้งรายได้และแหล่งที่จะได้มาซึ่งอาหาร เธอบอกว่าคนทั้งหลายพากันระแวงสงสัยในตัวเธอ และเธอรู้สึกโดดเดี่ยวเหลือเกิน เธอถูกทดลองจนรำๆอยากจะหวนกลับไปยังคอนแวนต์ที่แสนสุขสบายอยู่หลายครั้ง

แม่ชีเทเรซ่าเป็นสตรียุคศตวรรษที่ 20 ที่สัตย์ซื่อ สุภาพ ถ่อมตน เปิดเผยและมุ่งมั่นในการทำพันธกิจขององค์พระผู้เป็นเจ้า เธอไม่หวั่นไหวต่ออุปสรรคใดๆทั้งสิ้น เธออุทิศตนทำทุกอย่างที่พระเจ้าทรงเรียกให้เธอทำอย่างทุ่มเท ความรักความศรัทธาและการเชื่อฟังพระเจ้าของแม่ชีเทเรซ่าได้ขับเคลื่อนให้พันธกิจของพระองค์ก้าวไปข้างหน้าอยู่ตลอดเวลา เธอเป็นแรงบันดาลใจของคนที่อุทิศตนให้กับการช่วยเหลือคนยากไร้ในรุ่นหลังๆอยู่ไม่น้อย

เมื่องานที่ทำนั้นได้ขยายออกไปและคนยากจนที่มาขอรับความช่วยเหลือก็มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น แม่ชีเทเรซ่าได้ทำเรื่องไปยังวาติกันเพื่อขอให้ส่งแม่ชีให้ไปช่วยงานด้านสังคมสงเคราะห์เพิ่มมากขึ้น  แม่ชีเหล่านั้นคือมิชชันนารีที่ทำงานด้วยความรักและความเมตตา  และงานที่พวกเขาทำนั้นคือการช่วยเหลือคนที่หิวโหย คนตัวเปล่า  คนไร้บ้าน  คนพิการ  คนตาบอด  คนโรคเรื้อน  คนถูกทอดทิ้ง  คนที่ไม่มีใครรักและให้ความสนใจ เขาเหล่านั้นกลายเป็น “ภาระของสังคมและใครๆก็พากันรังเกียจ” ปัจจุบันนี้ มีซิสเตอร์และผู้หญิงมากกว่า 4 พันคนจากหลายเชื้อชาติกำลังทำพันธกิจสงเคราะห์ผู้ยากไร้อยู่ใน 5 ทวีปซึ่งพันธกิจที่ทำนั้นครอบคลุมไปถึงสถานสงเคราะห์คนติดเชื้อเอชไอวี คนเป็นโรคเรื้อน วัณโรค ตอลดจนโครงการให้คำปรึกษาแก่เด็กและครอบครัว สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าและโรงเรียนต่าง ๆ

แม่ชีเทเรซ่ากล่าวว่า “ความทุกข์ยากที่แย่ที่สุดไม่ใช่ความหิวโหย  ไม่ใช่โรคเรื้อน แต่เป็นความรู้สึกว่าไม่มีใครต้องการ ใครๆก็ปฏิเสธ และถูกทอดทิ้ง”

ในสังคมที่มั่งคั่งร่ำรวยของโลกตะวันตก  แม่ชีเทเรซ่าพบว่าสภาพการณ์ที่เลวร้ายที่สุดก็คือความโดดเดี่ยวว้าเหว่  เรากำลังเสาะหาคนทั้งหลายที่พระเยซูคริสต์ได้ทรงเลือกสรรด้วยพระองค์เองเป็นการเฉพาะ ดังหนังสือมัทธิว 25:34-40 ได้กล่าวไว้ว่า “ขณะนั้น พระมหากษัตริย์จะตรัสกับพวกผู้ที่อยู่เบื้องขวาพระหัตถ์ของพระองค์ว่า 'ท่านทั้งหลายที่ได้รับพรจากพระบิดาของเรา จงมารับเอาราชอาณาจักรซึ่งเตรียมไว้สำหรับท่านทั้งหลายตั้งแต่แรกสร้างโลก เพราะว่าเมื่อเราหิว พวกท่านก็จัดหาให้เรากิน เรากระหายน้ำ ท่านก็ให้เราดื่ม เราเป็นแขกแปลกหน้า พวกท่านก็ต้อนรับเรา เราเปลือยกายพวกท่านก็ให้เสื้อผ้าเรานุ่งห่ม เมื่อเราเจ็บป่วยท่านก็มาดูแลเรา เมื่อเราอยู่ในคุก พวกท่านก็มาเยี่ยมเรา' เวลานั้นบรรดาคนชอบธรรมจะกราบทูลว่า 'องค์พระผู้เป็นเจ้า ที่พวกข้าพระองค์เห็นพระองค์ทรงหิวและจัดให้เสวยหรือทรงกระหายน้ำ และจัดมาถวายนั้นตั้งแต่เมื่อไร? ที่พวกข้าพระองค์เห็นพระองค์ทรงเป็นแขกแปลกหน้าและได้ต้อนรับไว้ หรือเปลือยพระกายและสวมฉลองพระองค์ให้นั้นตั้งแต่เมื่อไร? ที่ข้าพระองค์เห็นพระองค์ประชวรหรือทรงถูกจำคุก และมาเฝ้าพระองค์นั้นตั้งแต่เมื่อไร?' แล้วพระมหากษัตริย์จะตรัสตอบว่า 'เราบอกความจริงกับท่านทั้งหลายว่า ซึ่งพวกท่านได้ทำกับคนใดคนหนึ่งที่เล็กน้อยที่สุดในพี่น้องของเรานี้ ก็เหมือนทำกับเราด้วย”

ในปี ค.ศ.1952 แม่ชีเทเรซ่าได้เปิดบ้านสำหรับชาวฮินดูที่ถูกทอดทิ้งและกำลังจะตาย เธอและ

ซิสเตอร์คนอื่นๆเดินเข้าไปในสลัมกลางเมืองกัลกัตตาเพื่อนำคนยากไร้ที่นอนป่วยและอดอยากเหล่านั้นไปพักที่บ้านที่กลุ่มซิสเตอร์สร้างขึ้นสำหรับคนที่กำลังจะตาย เพื่อผู้ป่วยเหล่านั้นจะได้รับความรักเมตตาและตายอย่างมีศักดิ์ศรี  ผู้ป่วยบางรายได้รับการเยียวยาจนหาย เขาได้สัมผัสถึงความรักของพระเยซูที่สำแดงผ่านทางซิสเตอร์ทั้งหลายผู้เปี่ยมไปด้วยความรักความเมตตา  แม่ชีเทเรซ่าสอนทุกคนที่ทำงานอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของเธอว่าผู้ที่ตกทุกข์ได้ยากเหล่านั้นควรจะได้“เห็นพระเยซูจากชีวิตของผู้เชื่อทุกคน” เธอบอกว่าความเมตตากรุณาสามารถเปลี่ยนจิตใจของคนเราได้มากกว่าการใช้หลักวิทยาศาสตร์หรือลีลาการพูดอันไพเราะที่ชวนให้หลงใหล

ชาวอินเดียคนหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนที่ดีของแม่ชีเทเรซ่าได้กล่าวไว้ว่าสิ่งที่ดีและยิ่งใหญ่ที่สุดที่เธอได้ทำคือการบอกให้ผู้ยากไร้ทั้งหลายได้รู้จักพระเยซูคริสต์  ชาวฮินดูเป็นจำนวนมากได้มาเชื่อวางใจในองค์พระเยซูคริสต์ผู้ทรงพระชนม์อยู่ก่อนที่เขาจะตายไป การทำงานเพื่อเห็นแก่มนุษยธรรมของแม่ชีเทเรซ่านั้นเป็นมาจากองค์พระคริสต์ที่อยู่ภายในเธอ  สตรีที่สูงเพียง 4 ฟุต 11 นิ้วผู้นี้ได้ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ยากไร้ด้วยความบริสุทธิ์ใจและไม่เห็นแก่ตัว เธอจึงเปรียบเหมือนเป็นดวงประทีปที่ส่องความสว่างและความหวังของพระเยซูคริสต์ไปยังโลกที่มืดมิด เธอเคยพูดไว้ว่า “พระเจ้าไม่ได้ทรงเรียกเราให้มาชื่นชมกับความสำเร็จ แต่ให้เราปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์” สำหรับคนยากไร้ที่มีชีวิตอยู่ไม่ต่างจากสัตว์แต่ตายอย่างทูตสวรรค์นับว่าเป็นการปิดฉากชีวิตที่สวยงามทีเดียว!

ถึงแม้ประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศอินเดียจะนับถือศาสนาฮินดู แต่แม่ชีเทเรซ่านั้นได้ชื่อว่าเป็นสมบัติของชาติอินเดียที่ได้ก้าวข้ามเส้นแบ่งแยกทางศาสนา อดีตนายกรัฐมนตรีท่านหนึ่งได้กล่าวไว้ว่า “โลกนี้โดยเฉพาะอินเดียยากจนลงกว่าเดิมเมื่อแม่ชีเทเรซ่าได้จากไป  ชีวิตของเธอได้อุทิศให้กับการทำพันธกิจเพื่อนำความรัก สันติสุขและความชื่นชมยินดีไปยังผู้คนที่ใครๆก็รังเกียจและพยายามหลีกหนีไปให้ไกล”

ปีค.ศ. 1979 แม่ชีเทเรซ่าได้รับรางวัลโนเบลสาขามนุษยธรรม แต่เธอปฏิเสธการเข้าร่วมในงานเลี้ยงอันเป็นธรรมเนียมที่ถือปฏิบัติกันมาเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ และเธอได้มอบเงินจำนวน 192,000 เหรียญสหรัฐ(5,760,000 บาท)ให้แก่คนยากจนในประเทศอินเดียโดยเธอได้กล่าวว่ารางวัลที่โลกนี้ให้มาจะมีความสำคัญมากทีเดียวหากเงินจำนวนนี้สามารถทำให้เธอตอบสนองความต้องการของผู้ที่ต่ำต้อยในสังคม แม่ชีเทเรซ่าใช้ความมีชื่อเสียงของเธอเป็นฐานในการอนุรักษ์คุณธรรมอันทรงคุณค่าอย่างเข้มแข็ง ในปี ค.ศ. 1994 แม่ชีเทเรซ่าได้กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมอธิษฐานแห่งชาติที่กรุงวอชิงตันดีซี ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอได้แสดงความคิดเห็นส่วนตัวของเธอเกี่ยวกับการทำแท้งว่าเป็นการฆาตกรรมและกล่าวต่อไปอีกว่า "หากเรายอมรับผู้หญิงซึ่งเป็นแม่ที่สามารถฆ่าได้แม้กระทั่งลูกในไส้ของตนเอง แล้วเราจะไปบอกผู้อื่นไม่ให้เข่นฆ่ากันได้อย่างไร?”  เมื่อเธอกล่าวจบ ผู้คนที่นั่งอยู่ในห้องประชุมต่างก็ลุกขึ้นยืนปรบมือให้เธออย่างยาวนาน

แม่ชีเทเรซ่าไม่ได้แสดงอาการหวั่นไหวต่อคำวิพากษ์วิจารณ์ใดๆ  ผู้ที่ผลิตสารคดีเกี่ยวกับเรื่องราวชีวิตของเธอได้ตั้งชื่อเรื่องว่า "ทูตจากนรก" เธอบอกกับนักหนังสือพิมพ์ว่าเธอไม่ถือสา “มันเป็นสิทธิ์ของคุณที่จะตัดสินใจว่าคุณต้องการจะดำรงชีวิตอยู่แบบไหน แต่สำหรับฉัน ฉันจะทำงานของฉันต่อไป  ฉันปรนนิบัติรับใช้พระเจ้าโดยมีจุดประสงค์ที่ชัดเจน ไม่ว่าใครจะว่าอย่างไร เราควรจะยิ้มรับและก้มหน้าทำงานของเราต่อไป การทำงานด้วยใจถ่อมสุภาพจะไม่มีอะไรมาแผ้วพานเราได้เลย ไม่ว่าใครจะยกย่องหรือเหยียดหยามเราไม่ใช่ประเด็นที่สำคัญ เพราะเราย่อมรู้จักตัวเราดีว่ากำลังทำอะไรอยู่”  ชีวิตและงานของแม่ชีเทเรซ่าต้องถือว่าเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับเรา เมื่อมีคนถามว่าเธอได้รับพละกำลังตลอดจนความอดทนต่อความยากลำบากในการทำงานมาจากไหน เธอตอบว่า “ฉันคิดว่าจะไม่มีใครต้องการพระคุณและความช่วยเหลือจากพระเจ้ามากเท่าฉัน เมื่อใดก็ตามที่ฉันรู้สึกอ่อนกำลังและขาดคนช่วย เมื่อนั้นแหละที่พระเจ้าทรงทำงานอยู่ในฉัน"

คนส่วนใหญ่ไม่รู้เลยว่าแม่ชีเทเรซ่าเป็นโรคหัวใจขั้นรุนแรง  ในปี ค.ศ. 1983 เธอมีอาการของโรคหัวใจเป็นครั้งแรก เธอถูกขอร้องให้ลาออกหลายครั้ง แต่กรรมการก็ลงคะแนนเสียงให้เธออยู่ต่อ เธอได้รับเรี่ยวแรงมาจากพระเจ้า เธอเป็นที่รู้จักว่าเป็นนักรบที่อธิษฐานต่อพระเจ้าอย่างเข้มแข็ง เธอย้ำถึงฤทธิ์เดชของการอธิษฐาน และหนุนใจให้คนอื่น ๆ อธิษฐานอยู่เสมอ

ในปี ค.ศ. 1997 หลังจากที่เธอได้รับรางวัลเกียรติยศสูงสุดจากรัฐสภาของสหรัฐผ่านไปได้ 3 เดือน เธอก็มาถึงวาระสุดท้ายของชีวิต ถ้อยคำสุดท้ายที่เธอกล่าวนั้นคือ"พระเยซู    ข้าพระองค์รักพระองค์   พระเยซู   ข้าพระองค์รักพระองค์"  นึกไม่ถึงเลยว่ารัฐบาลอินเดียจะจัดพิธีศพเพื่อเป็นเกียรติแก่เธอ และเพื่อเป็นการสดุดีงานที่เธอทำเพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้มาตลอดชีวิต  เธอเสียชีวิตในสัปดาห์เดียวกันกับการสิ้นพระชนม์ของเจ้าหญิงไดอาน่า แม่ชีเทเรซ่าคือเจ้าหญิงตัวจริงในใจของผู้ยากไร้ทั้งหลาย  เธอคือผู้หญิงที่ไม่มีความละอายในข่าวประเสริฐของพระเยซูคริสต์

ในช่วงชีวิตของแม่ชีเทเรซ่า เธอเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่ได้รับการยกย่องสูงสุดในสหรัฐอเมริกา  ในปี ค.ศ. 1999 เธอได้รับยกย่องว่าเป็นผู้หญิงที่มีคนชื่นชอบมากที่สุดในยุคศตวรรษที่ 20  เธอเป็นเสมือนกระจกเงาที่สะท้อนพระเยซูคริสต์ออกมาจากชีวิตของเธอ  เธอได้รับในสิ่งที่เธอหว่านให้แก่ผู้อื่น ความรักที่เธอให้แก่คนที่ยากไร้ต้อยต่ำอย่างไม่มีขีดจำกัดเป็นเหตุให้คนทั้งโลกรักเธออย่างไม่รู้ลืม

เราได้เรียนรู้ถึงประวัติและการรับใช้ของผู้หญิงทั้ง 3 คนในยุคศตวรรษที่ 20  คือไอมี่  แคทเธอรีน  และแม่ชีเทเรซ่ากันแล้ว เราได้เห็นถึงความเชื่อความศรัทธาและความเชื่อฟังที่พร้อมจะปฏิบัติพันธกิจตามที่พระเจ้าทรงมอบหมายให้แก่เข เธอทั้ง 3 คนยอมละทิ้งความสุขสบาย ยอมทำงานหนักโดยไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย ต้องเดินทางไกลเป็นเวลานาน ต้องเอาชนะความเหงา ต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์ เธอทั้งสามต้องข้ามภูเขาแห่งปัญหาลูกแล้วลูกเล่า พระวิญญาณบริสุทธ์ได้ประทานฤทธิ์เดชให้แก่เธอทั้งสามให้สามารถทำงานที่เป็นไปไม่ได้ในสภาวะปกติธรรมดาให้บรรลุผลสำเร็จ  หนังสือกิจการที่เธอทั้งสามจะเขียนต่อไปนั้นย่อมเป็นประจักษ์พยานได้ว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงทำอะไรผ่านทั้งผู้รับใช้หญิงอย่างเธอทั้งสามคนนี้บ้าง

เราได้รับบทเรียนอันมีค่าจากชีวิตของไอมี่และแคทเธอรีน มารรู้ดีว่าจุดอ่อนของเราแต่ละคนนั้นอยู่ตรงไหน แคทเธอรีนกลัวสูญเสียโอกาสที่ผ่านเข้าไป เธอหว่านล้อมตัวเธอเองว่าการแต่งงานจะเปิดให้อีคนหนึ่งเข้ามาช่วยแบ่งเบาภารกิจที่พระเจ้าทรงเรียกให้ทำนั้น  แต่น่าเสียดายที่เธอไปตกลงปลงใจกับผู้ชายที่มีภรรยาและลูกแล้ว  ไอมี่เปิดโอกาสให้ผู้ชาย 2 คนเข้ามารบกวนพันธกิจที่เธอทำอยู่นั้น เธอพูดว่า เธอเหงาและคิดว่าผู้ชายจะเข้ามาช่วยงานพันธกิจของเธอได้ แต่แล้วเธอก็ต้องแยกทองจากเขาทั้งสองคนและยอมรับในความผิดพลาดของเธอ หากผู้หญิงทั้งสองคนนี้เชื่อฟังพระเจ้าโดยไม่พยายามหาเหตุผลแบบมนุษย์มาสนับสนุนความคิดของตน  ความเจ็บปวด ความผิดหวังเสียใจและความเสียหายที่กระทบถึงพันธกิจที่เธอทำอยู่นั้นย่อมเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ให้มันเกิดขึ้นได้

 

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
32 VOTES (4/5 จาก 8 คน)
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
พิธีสวนสนามปิดด่านอินเดีย-ปากีสถาน พิธีปิดที่กวนโอ๊ยกันแบบสุดๆ แต่ก็ยังไม่ลุกมาปะทะ กวนกันจนนักท่องเที่ยวชอบ จัดทัวร์มาชมกันเลยเด้อรอยยิ้มสุดท้ายของโลมา: โศกนาฏกรรมจากความคึกคะนองของมนุษย์เพื่อนเมียแฉ "ไฮโซเก๊" ถามหน่อยคนรวยที่ไหนใส่รองเท้าส้นถาก!?ไม่หล่อแถมลวงหลอก! เปิดใจ “คะน้า” ทำไมถึงตกหลุมรัก “ไฮโซปลอมเปลือก”?รวมภาพเรียกรอยยิ้มประจำวันนี้ วันที่เป็นวันอังคารแล้ว อีกไม่กี่สิบชั่วโมง ก็จะถึงวันติ๊ดชึ่งๆสงกรานต์กันแล้ว รอกันอีกนิดนะทุกๆคนเปิดใจนางแบบ! เจอ “ไฮโซเก๊” รุกจีบวันแรก แจกเพชรปลอม บอดี้การ์ดประกบจนขนลุกสโนว์ไวท์ประท้วงปลดปล่อยปาเลสไตน์ทีมกู้ภัยสิงค์โปรส่งแมลงสาบดัดแปลงหาคนติดในอาคารในพม่าจีนเดินหน้า! สร้าง “สะพานที่สูงที่สุดในโลก” ข้ามหุบเขาแกรนด์ฮัวเจียง สูงเทียบตึกกว่า 200 ชั้นภูเขาไฟในฟิลิปปินส์พ่นเถ้าถ่านลอยขึ้นไปในอากาศสาวแฉอีก! "ไฮโซเก๊" โชว์เงิน-ทอง-บัญชีร้อยล้าน แต่ขากลับนั่งวินคณะทำงานนายกฯ แจงชัด! ไล่ตรวจแชตไลน์ปลอม ยันไม่ใช่ของจริง พร้อมดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีหนุ่มคอคาร์บอน
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
จีนเดินหน้า! สร้าง “สะพานที่สูงที่สุดในโลก” ข้ามหุบเขาแกรนด์ฮัวเจียง สูงเทียบตึกกว่า 200 ชั้นรีวิวซีรี่ส์เกาหลีที่โคตรอบอุ่นทำน้ำตาอาบแก้มแทบทุกตอนเขมรเคลมชุดไทย อ้าง! เป็นชุดแต่งงานเขมร เตรียมส่งขึ้นทะเบียน "ยูเนสโก" ?สโนว์ไวท์ประท้วงปลดปล่อยปาเลสไตน์คนที่จากคุณไปเปิดใจนางแบบ! เจอ “ไฮโซเก๊” รุกจีบวันแรก แจกเพชรปลอม บอดี้การ์ดประกบจนขนลุก
ตั้งกระทู้ใหม่
หน้าแรกเว็บบอร์ดหาเพื่อนChatหาเพื่อน Lineหาเพื่อน SkypePic PostตรวจหวยควิซคำนวณPageแชร์ลิ้ง
Postjung
เงื่อนไขการให้บริการ ติดต่อเว็บไซต์ แจ้งปัญหาการใช้งาน แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม ข่าวประชาสัมพันธ์ ลงโฆษณา
เว็บไซต์นี้ใช้ Cookie
เพื่อประสบการณ์ที่ดีและการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดูข้อมูลเพิ่มเติม อ่านนโยบายการใช้งาน
ตกลง