คำคมเพื่อน กลอนเพื่อน สำหรับวัยเรียน วัยทำงาน
คำว่าเพื่อนมันมีความหมายมากมายกว่าที่เราคิด ในช่วงสมัยเรื่องมอต้น มอปลาย มหาลัย เป็นวัยเรียนที่เราสนุกกันมาก ไม่มีกันแอ๊ปสวยแข่งกัน มีแต่คำว่าเพื่อน ที่เราให้ความสำคัญกับเพื่อนมากที่สุด เพื่อนในวัยเรียน เป็นทั้งเพื่อนที่เล่นกับเรา ดูแลเรายามที่เราอยู่ในโรงเรียน เป็นทั้งครูที่สอนวิชาเรียนที่เราไม่เข้าใจ ช่วยเราทำการบ้าน เป็นทั้งพยาบาลประจำตัว ที่จะคอยดูแลเรายามที่เราไม่สบายในโรงเรียน เป็นคนแจ้งข่าวสาร การบ้านต่างๆ กิจกรรมต่างๆให้เราได้รู้ เป็นเพื่อนที่คอยช่วยเราทำงานกลุ่ม ทำรายงาน นับว่าเพื่อนสำคัญกับเรามากในช่วงที่เราเรียนเลยก็ว่าได้
คำว่า ” มิตรภาพ”ที่พวกเราร่วมกันสร้าง มันอาจมีวันเลือนรางเมื่อพวกเราจากกันไป แต่ฉันเชื่อว่ามันคงไม่ลบเลือนไปจากใจ เพราะไม่ว่ายังไงพวกเราก็ “เพื่อนกัน” ขอบคุณสำหรับความผูกพันธ์ และยื่นไมตรีให้กัน…มาตลอด แม้ตอนนี้ฉันทำได้เพียงแค่กอด แต่ก็จะอวยพร…ขอสัญญา…ไม่ลืมเธอ
คิดถึงเพื่อนทุกครั้งที่ตื่นและนอน
อยากบอกเพื่อนว่ารักมากมายว่ะ
เราจะเป้นเพื่อนกันตลอดไป
ถ้าเราขาดเพื่อนรึไม่มีเพื่อนเนี้ยเรา
จะมีความสุขและเสียงหัวเราะ
เหมือนทุกวันไหม
เพื่อนเป็นเหมือนดั่งชีวิตเราเลยน่ะ
อีกม่ายน่านก้อต้องจากกานแล้วสินะ
อยากบอกเพื่อนทุกคนว่า
เพื่อน . . . กูรัก...ว่ะ
มีดีมากมาย
ความคิดหลากหลาย
ให้ทายคือใคร
แม้วันวาน ผ่านไปไม่รู้จบ
ไม่อาจลบ นิยามความเป็นเพื่อน
ภาพสัมพันธ์หนหลัง ยังย้ำเตือน
ไม่เคยเลือนลบหาย จากใจเรา
เพื่อน” คือคนที่กิน เล่นด้วยกัน
“เพื่อน” คือคนที่ทำการบ้านไม่ทัน ก็ลอกได้
“เพื่อน” คือคนที่รับปรึกษา ปัญหาหัวใจ
“เพื่อน” คือคนที่เรารักใคร ก็ช่วยลุ้น
“เพื่อน” คือคนที่เตือนให้ทำ แต่ความดี
“เพื่อน” คือคนที่หวังดี คอยเกื้อหนุน
“เพื่อน” คือคนที่อยู่ใกล้~ไกล ก็อบอุ่น
ความรักของเพื่อน จะกรุ่น มิรู้เลือน
เพื่อนแท้ คือ ธนาคาร ยามเงินขาด
เพื่อนแท้ คือ ตลาด ยามท้องหิว
เพื่อนแท้ คือ ที่ระบาย ยามเรากริ้ว
เพื่อนแท้ คือ ไอคิว ยามเราสอบ
เพื่อนแท้ คือ ผู้นำ หากทำผิด
เพื่อนแท้ คือ บัตรเครดิต ในวงเหล้า
เพื่อนแท้ คือ บอดี้การ์ด ยามเราเมา
เพื่อนแท้ คือ เธอไงเล่า อ่าวทำเปงงง
เพื่อนไม่เคย ไม่เคยทิ้งกัน
ไม่ว่าความฝันนั้นจะไกลสักเท่าไหร่
จะหกล้มซมซานเมื่อใด
เพื่อนจะปลอบใจ
ไม่มีคนที่จะรู้ใจ
ไม่มีใครรักและตามใจเหมือนเพื่อนเก่า
จะยังไงตามใจแต่เรา
เพื่อนเรารักจริง
นับร้อยนับล้านนาที
เคยมีเพื่อนที่แสนดีอยู่เคียงใกล้
แต่วันนี้อีกไม่กี่นานต้องจากไกล
เหลือภาพตรงนี้ไว้เพียงความทรงจำ
ไม่ว่าเธอจะไปถึง ณ จุดไหน
โปรดเก็บคำว่าเพื่อนไว้ในหัวใจ
รักษาคำคำนี้ไว้ชั่วรันดร
มีแต่เพียงภาพเก่าเราร่วมสร้าง
ภาพที่เพื่อนเคียงข้างไปทุกที่
แต่ภาพเก่าจะลับไกลไปทุกที
เพราะวันนี้กล่าวคำว่าอำลา
ไม่มีแล้วเข้าแถวหน้าเสาธง
ไม่มีแล้ว แถวตรง พนมมือไหว้
ไม่มีแล้วขาสั้นตัวคู่ใจ
กระโปรงจีบรอบกายก็ไม่มี
ลาแล้วห้องเรียนเก่าที่เคยอยู่
ลาแล้วคุณครูที่เคยสอน
ลาแล้วเพื่อนรักที่จากจร
ลาแล้วกลอนข้างฝาห้องที่เขียนไว้
ลาแล้วโต๊ะที่รกไปด้วยกาพย์
ลาแล้วภาพที่วานเขียนติดโต๊ะไว้
ลาแล้วม่านที่ปลิวพลิ้วไสว
ลาแล้วไง ……ห้องของพวกเรา
ความเป็นเพื่อนไม่ลบเลือนไปจากจิต
ความเป็นมิตรจะสถิตในใจฉัน
หากวันใดเพื่อนคนใกล้ต้องไกลกัน
ความผูกพันเรามีกันทุกเวลา
อยาก เต้น ไป RCA.
อยาก เตร็ดเตร่ .. ไป สะพานพุทธ
อยาก ยกชุด . . . ไป ยันฮี
อยาก ดูดี ! . . . . ไป วุฒิศักดิ์
อยาก จัดหนัก … ไป ข้าวสาร
อยาก แรดร่าน . . ไป ทองหล่อ
อยาก คล่องคอ . . ไป หลังราม
อยาก เป็นเพศที่สาม .. ไป รัชดา
อยาก มีหน้ามีตา ไป สยามฯ
อยาก พล่าม ไป มัฆวานฯ
อยาก ช็อป อยาก ทาน ไป จตุจักร
อยาก ลดน้ำหนัก ไป สลิมอัพเซ็นเตอร์
อยาก เซอร์ ไป วังหลัง
อยาก มีตังค์ ไป ปล้นทอง
อยาก มีเจ้าของ มาหากู!!!
ทำไม..เรียนผูกจึงต้องเรียนแก้
ทำไม..เป็นคุณแม่ถึงยังใช้นางสาว
ทำไม..ยศตำรวจถึงต้องเป็นรูปดาว
ทำไม..สีขาวถึงต้องตรงข้ามกับสีดำ
ทำไม..กลางวันพระจันทร์ถึงไม่ส่อง
ทำไม..สองบวกหนึ่งถึงต้องเป็นสาม
ทำไม..คนเดินหน้าถึงไม่เรียกว่าผู้ตาม
แล้วทำไม…ฉันจึงต้องถาม…?!?!?
อ้าว!!! เเล้วตามมาอ่านกันทำไม ?
“รัก”กับ”กั๊ก”มันคนละความหมายกัน
อย่าใช้สันดาน”มักง่าย”
ทำให้มันกลายเป็นคำที่มี
ความหมายเดียวกัน
แนะนำความสุขให้เพื่อน
“ถ้าคุณอยากมีความสุขเพียง 1 ชั่วโมง ผมแนะนำให้คุณหลับ…
ถ้าคุณอยากมีความสุข 1 วัน ผมแนะนำให้คุณไปตกปลา…
ถ้าคุณอยากมีความสุข 1 ปี ผมแนะนำให้คุณแต่งงาน…
แต่ถ้าคุณอยากมีความสุขตลอดชีวิต คุณต้องช่วยเหลือผู้คนให้มีชีวิตที่ดีขึ้น”
ไม่มีคำว่าสาย , สำหรับการเริ่มต้นใหม่
ไม่มีคำว่าช้าไป , สำหรับการให้อภัย
ไม่มีคำว่าเสียดาย , สำหรับการปล่อยวาง
ไม่มีคำว่าแตกต่าง , สำหรับความเข้าใจ
“ดอกไม้บางอย่างเมื่อมันไม่ได้น้ำ เป็นธรรมดาที่มันจะแห้งและเหี่ยวเฉา และคนเราเมื่อขาดกำลังใจก็เป็นธรรมดา ที่จะรู้สึกท้อได้ง่าย”
แม้เวลา เนิ่นนาน ผ่านจากนี้
แต่สิ่งดี จะยังอยู่ ไม่หวั่นไหว
ถึงเวลา จะผ่าน นานเท่าไร
แต่จิตใจ มีเพื่อน ตลอดมา
จะไม่ลืม เพื่อนคนนี้ ชั่วชีวิต
อยู่เป็นมิตร คอยดูแล และรักษา
ให้ความรัก คงอยู่ ตลอดมา
มิตรภาพ จะล้ำค่า ตลอดไป
เพื่อนไม่ใช่ ทุกอย่าง ในชีวิต
เพื่อนไม่ใช่ คนลิขิต หรือขีดฝัน
เพื่อนไม่ใช่ ใครคนหนึง ซึ่งสำคัญ
แค่เพื่อนจะ “ไม่ทิ้งกัน จนวันตาย”
มีเพื่อน ที่เข้าใจเรามากกว่าใคร ๆ มีเพื่อนเท่านั้นที่คอยปลอบใจ ยามเราเศร้า
มีเพื่อนเท่านั้นที่คอย ไห้กำลังใจเรา มีเพื่อนเท่านั้นที่ คอยร่วมทุกข์ สุข กับเรา
มีเพื่อนเท่านั้นที่คอย รักและห่วงใย ถึงยังไงเพื่อนคนนี้จะรักแกตลอดไป
ถ้าเพื่อนทั้งหมดของข้าพเจ้าพร้อมใจกันกระโดดลงมาจากสะพาน
ข้าพเจ้าจะไม่โดดตามพวกเขาไป
แต่ข้าพเจ้าจะยอมรออยู่ที่ก้นเหวเพื่อที่จะรับพวกเขา
พื่อนที่ดีเหมือนดวงดาว คุณจะไม่ได้เห็นพวกเขาตลอดเวลา แต่คุณจะรู้ว่าเขาอยู่ที่นั่นเสมอ
“การได้ร่วมเดินทางกับสหายในความมืดมิด ยังดีเสียกว่า การเดินลำพังในแสงสว่าง”
เพื่อนแท้มีหัวไหล่ไว้คอยซับนำ้ตาให้ เพื่อนทั่วไปคอยถือขวดไวน์มางานเลี้ยงของคุณเพื่อนแท้มาแต่หัววันเพื่อนทั่วไปมาถึงจะหาแต่ของกิน
“เพื่อนที่ดีที่สุดนั้นคือ คนที่คุณสามารถนั่งข้างๆ บนชานบ้านโดยปราศจากคำพูด
และเมื่อเขาเดินจากไป คุณก็รู้สึกได้ว่านั่นเป็นบทสนทนาที่ดีที่สุดเท่าที่คุณเคยมีมา”
ไม่มีอะไร ที่ทำให้เรา เเยกจากกันได้…(เพื่อน)
นอกจากความตาย เเละผู้ชายที่หล่อกว่า…
การถอยห่างจะช่วยสอนให้เราได้เรียนรู้ว่า
ยิ่งเรายึดติด อยากได้ อยากครอบครอง
ยิ่งทำให้เราอ่อนแอและแพ้ภัยตัวเอง
หากไม่ได้เขามาเป็นคนรักของเรา
ขอเพียงแค่เขาได้เข้าใจในเหตุผลข้อนี้
อย่าได้เข้าใจว่าเราโกรธหรือเกลียดเขาถึงต้องแสดงท่าทีเฉยชาใส่
คนเจ็บปวดคนนี้ก็จะได้มีแรงพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นมาเข้มแข็งได้อีกครั้ง
พร้อมที่จะใช้ชีวิตที่เดินบนทางที่เหมาะที่ควร
แม้ว่าการเดินทางจะมีอุปสรรคมากบ้างน้อยบ้างก็ตามที
มันมีเหตุผลหลายอย่าง
ที่เราจำเป็นต้องหักห้ามใจไม่ให้รักใครสักคน
เหตุผลของคนเราย่อมไม่เหมือนกัน
บางคนอาจต้องห้ามใจเพราะรู้ตัวว่ามันคงเป็นไปไม่ได้
บางคนอาจต้องห้ามใจ
เพราะกลัวใจตัวเองจะถลำลึกและเจ็บปวดมากไปกว่านี้
บางคนอาจต้องห้ามใจเพราะมีคนที่รักคนที่เรารักมาก่อน
และคนคนนั้นก็คือคนที่เรารู้จัก
และเราก็ไม่อยากทำร้ายความรู้สึกของคนคนนั้น
บางคนอาจต้องห้ามใจเพราะเขาอาจไม่ได้คิดและรู้สึกเหมือนกับเรา
ทุกข์ทรมานแค่ไหนที่เรารักเขา
แต่ต้องพยายามฝืนใจถอยห่างออกมา
เราต้องเงียบ ต้องเฉยชา ต้องเลี่ยง ต้องหลบหน้า
ต้องทำหน้าตาบึ้งตึงใส่
เพื่อจะย้ำเตือนให้ตัวเองไม่ต้องรู้สึกอะไรใดๆ กับเขา
มันเจ็บแทบบ้าที่ต้องทำร้ายตัวเองด้วยวิธีการนี้
แม้จะดูเป็นวิธีการโง่ๆ
แต่หากจำเป็นต้องทำเพื่อปกป้องตัวเอง
เพื่อไม่ให้ใจของตัวเองต้องบาดเจ็บ
บางที . . . หัวใจก็ยอมเจ็บ
เพียงแลกกับ ความสุขเล็กๆ . . . มาเก็บไว้
บางที . . . เหนื่อยจนลุกขึ้นไม่ไหว
แต่ก็ยังพอใจ . . . กับสิ่งที่เป็น
บางที . . . แม้จะลำบากยากเข็ญ
แต่ก็ยอมเป็น . . . เบี้ยล่างหัวใจเธอ
อาการแบบนี้ใครไม่เป็น . . . ไม่รู้สึกจริงไหม
คนบางคน.. ได้รักได้รู้จักกับใครสักคน แต่แล้วก็มีอันทำให้คนสองคนเป็นได้แค่เพียงเส้นขนาน ที่ไม่อาจบรรจบลงเอยกันได้ ด้วยเพราะใครสักคนอาจมีพันธะกับคนอีกคนก่อนอยู่แล้ว โดยไม่เคยบอกกล่าว…
คนใกล้ไม่เคยค่า แลมอง
คนไกลใยจับจอง ดูค่า
ไกลไม่ไร้เจ้าของ แต่ใกล้ใช่นา
คนไกลใยมิค่า ควรเจ้าแลมอง
เธอคงไม่มีวันกลับมา
จึงปล่อยฉันให้อ่อนล้าอยู่ตรงนี้
เจ็บปวดกับน้ำตาที่มี
ให้ฉันพร่ำเพ้อทุกนาทีโดยไม่เหลือใคร
แต่อยากให้เธอรู้นะคนดี
ว่าฉันคนนี้ยังคงรักเธอมากแค่ไหน
แม้ในวินาทีนี้ที่เธอคิดถึงใคร
แต่หนึ่งลมหายใจยังมีอยู่ต่อไปเพื่อคิดถึงเธอ
อยากหยุดเวลา ไว้ตรงนี้
ไม่อยากให้ 1 นาทีข้างหน้า มาถึง
เร็วเกินกว่า จะหาวิธีใด มาฉุดดึง
ไม่พอจะเอ่ย คำลึกซึ้ง ได้หมดใจ
ขอเวลา ให้ฉันบ้าง
อย่ารีบผลัก ความอ้างว้างมาให้
อย่าคิดง่าย ๆ ..แค่จากไป..
..คิดยาก ๆ บ้างได้ไหม..
คิดถึงสภาพฉันที่ไม่เหลือใคร…..แม้แต่เธอ…..
การที่เรารักใครสักคน ปรารถนาดีกับใครสักคน หวังดีกับใครสักคน แล้วเค้าเกิดปฏิเสธสิ่งเหล่านั้นที่เราพยายามมอบให้ เค้าเรียกว่า อกหัก หรือป่าว…? ช่วยตอบกันทีนะค่ะ ^^’
สำหรับเพื่อนเรื่องเล็ก ๆ ไม่มีวันที่จ่ะทะเลาะกันแร่ะเลิกเป่นเพื่อนกันได้ แต่สำหรับคนรักไม่ว่าจ่ะเป่นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ก้อสามารถเลิกจากการเป่น”คนรัก”มากลายเป่น”คนรู้จัก” ได้
—- ความคิดสมัยอนุบาล
เพื่อนที่ดีคือคนที่ให้สีเทียนสีแดงกับคุณ
เมื่อมีเหลือแต่สีเทียนสีดำทะมึน
—- ความคิดสมัย ป.1 เพื่อนที่ดีคือคนที่ไปห้องน้ำเป็นเพื่อนคุณ
แล้วก็จับมือคุณระหว่างเดินผ่านห้องโถงที่น่ากลัว
—- ความคิดสมัย ป.2
เพื่อนที่ดีคือคนที่ทำให้คุณเข้าเรียนคลาสที่ไม่อยากเรียน (มั้ง)
—- ความคิดสมัย ป.3 เพื่อนที่ดีคือคนที่แบ่งอาหารกลางวันให้คุณ
เมื่อคุณลืมกล่องข้าวไว้ที่บ้าน = =?
—- ความคิดสมัย ป.4
เพื่อนที่ดีคือคนที่ยอมเปลี่ยนคู่เต้นในวิชาลีลาศ
เมื่อคุณไม่อยากจับคู่เต้นอยู่กับนิกจอมลามก หรือเอ็มกลิ่นแรง
—- ความคิดสมัย ป.5
เพื่อนที่ดีคือคนที่เผื่อที่นั่งให้คุณเมื่อถึงมื้อเที่ยง
—- ความคิดสมัย ป.6
เพื่อนที่ดีคือคนที่พาคุณไปหาคนที่คุณตกหลุมรัก
เพื่อขอให้เค้ามาเต้นรำกับคุณ
เผื่อว่าเค้าปฏิเสธคุณจะได้ไม่ต้องอายไง
———————————————————————————–
—- ความคิดสมัย ม.1 เพื่อนที่ดีคือคนที่ให้คุณลอกรายงานสังคม
—- ความคิดสมัย ม.2 เพื่อนที่ดี คือคนที่ช่วยคุณทำรายงานกลุ่ม
และไม่เคยนินทาคุณลับหลัง
—- ความคิดสมัย ม.3 เพื่อนที่ดี
คือคนที่เปนที่ปรึกษาปันหาหัวใจให้คุณ และอินกับคุณในทุกๆอารมณ์
—- ความคิดสมัย ม.4 คือ คนที่ยอมเปลี่ยนวิชาเรียน
เพื่อที่คุณจะได้มีเพื่อนนั่งกินข้าว
—- ความคิดสมัย ม.5
เพื่อนที่ดีคือคนที่ยอมให้คุณขับรถใหม่ของเค้า
ช่วยคุยกะพ่อแม่ของคุณเวลาคุณมีปัญหา
แล้วก็คอยปลอบคุณตอนที่คุณเลิกกับแฟน
—- ความคิดตอน ม.6
เพื่อนที่ดีคือคนที่ช่วยคุณเลือกมหาวิทยาลัยที่จะเข้า
แล้วก็บอกกับคุณว่าคุณเข้าที่นั่นได้แน่
แถมยังช่วยคุยกับพ่อแม่ให้ยอมให้คุณไปเรียนมหาลัยนั้นอีกด้วย
—- ในงานจบการศึกษา เพื่อนที่ดีของคุณ คือคนที่ร้องไห้เงียบๆ
ในใจ แล้วก็แบ่งปันรอยยิ้มกว้างๆ ให้คุณ
หน้าร้อนหลังจบ ม.6
เพื่อนที่ดีเหมือนดวงดาว คุณจะไม่ได้เห็นพวกเขาตลอดเวลา แต่คุณจะรู้ว่าเขาอยู่ที่นั่นเสมอ
เมื่อทั้งเพื่อนและแฟนต่างมีความสำคัญจริงมะ งั้นคุณจะแบ่งภาคไปคบทั้งเพื่อนและแฟนพร้อมๆกันได้เรอะ? เอางี้ดิ่ มาเป็นแฟนที่ดีของแฟน และเป็นเพื่อนที่ดีของเพื่อน ด้วยการ…
1. ในเมื่อต้องมีทั้งเพื่อนและแฟน เพราะไม่อยากทิ้งฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไว้ข้างหลัง แถมคุณไม่อยากให้เพื่อนตั้งแง่เกิดอาการอยากหาเรื่อง ….แค่ สงสัยปนน้อยใจว่า แหม พอมีแฟนแล้วก็หายไปเลยนะละก็ ทางออกที่เหมาะสมก็คือ คุณควรแนะนำแฟนให้เพื่อนในกลุ่มรู้จักซะดีๆ ไม่ใช่แบ่งแฟนไปทาง เพื่อนไปอีกทาง โดยไม่ให้พวกเขาได้ข้องเกี่ยวกันเลย ก็ทะแม่งๆอยู่นะ ยกเว้นคุณยังทำเป็นโยกโย้อยู่นั่นแหละว่า ยังไม่มีแฟ้น ยังไม่มีแฟน แต่ไปเดินควงกันตามงานต่างๆจนเพื่อนแอบเห็นมาแล้ว ปัดโธ่ ทำเป็นเล่นตัวแบบดารานักร้องที่ไม่ยอมรับความจริงไปได้ งั้น ถ้าพร้อมอยากชวนแฟนมาให้เพื่อนรู้จักเมื่อไหร่ค่อยทำละกัน ของอย่างนี้ไม่อยากบีบคั้นในเรื่องเวลากันร้อก หากไม่มั่นใจ จะชะลอไว้ก่อนก็ได้ เพราะเพื่อนน่ะ พร้อมที่จะทับถม, เยาะเย้ย และถากถางยามเพื่อนอกหักอยู่แร้น….แต่นี่พูดเล่นนะ เพราะไม่มีเพื่อนแท้ที่ไหนเค้าทำหยั่งงี้กันหรอก แต่อาจแซว กันมั่งมีแน่ๆ หนีไม่พ้นหรอกน้อง ดันมีเพื่อนดี๊ ดีก็เงียะ
2. แล้วถ้ามีแฟนเป็นคนที่อยู่ในก๊วนเพื่อนกลุ่มเดียวกันเองละ
อิ อิ ทอดสะพานให้คนอื่นมาเป็นแฟนไม่ได้แล้วเรอะ ถึงได้จับคู่อยู่ในกลุ่มเดียวกันเองหยั่งงี้…อุ้ย นี่แค่แซวเล่นๆนะตัว เพราะไม่สำคัญหรอกว่า แฟนของคุณจะเป็นใครมาจากไหน? ลองพรหมลิขิตเสกให้เป็นแฟนกันแล้ว ถึงไงก็ไม่แคล้วต้องจับคู่จู๋จี๋กันจนได้ แต่เพื่อนคนอื่นๆในกลุ่มสิ ถ้าไม่แปลกใจก็คงนินทากันแหงๆ แต่บางทีอาจแค่ขำๆ ด้วยความเอ็นดูก็ได้นะ ว่าในที่สุดก็มาลงเอยกันจนได้ แล้วพูดก็พูด
สังเกตไหมว่า ใครที่มีแฟนมักอยากให้แฟนเป็น “เพื่อน” หรือเข้าขั้น “เพื่อนสนิท” แฮะ เอ้าไม่ดีเหรอ ถ้าเราสามารถคุยกับแฟนได้ทุกเรื่อง, ถามได้ทุกอย่าง ส่วนจะได้คำตอบที่น่ารักหรือน่าตื้บก็แล้วแต่นิสัยของผู้เป็นแฟนอ่ะ ว่ากวนทีนแค่ไหน นอกจากนี้ ถ้าแฟนที่เป็นเพื่อนยังพึ่งพาอาศัยกันได้ซะด้วย แล้วไม่จ๊าบตรงไหนฮ้า จึงขออวยพรให้สมปรารถนาทุกคนเลย เพี้ยง
3. อย่าไปสนคนที่เพื่อนของคุณก็อยากฉกเค้ามาเป็นแฟนเหมือนกันเลย เพราะเรื่องนี้สร้างความแตกแยกให้กับเพื่อนทั้งหลายมานักต่อนักแล้วอ่ะดิ่ ไอ้ใจตรงกันน่ะ ไม่มีใครเถียงหรอก ว่าเกิดขึ้นไม่ได้ ของพรรค์นี้เป็นเรื่องธรรมชาติจะตาย แต่ถ้าไม่อยากผิดใจกับเพื่อนซี้ เพราะต้องตบตีแย่งชิงคนคนเดียวกันมาเป็นแฟนละก็ หากเป็นไปได้ ขอให้ถอยฉากออกมาซะเถอะ เพื่อเห็นแก่มิตรภาพที่เคยมีต่อกัน ก็อย่าเสียดงเสียดายใครคนนั้นอยู่เลย ไปมองหา “ใครที่น่ารักกว่า” เอาดาบหน้าเหอะ นี่ไม่ได้ เชียร์ให้เป็นแม่พระอะไรหรอกนะ เพราะรู้ว่าไม่ได้เป็นกันอยู่แล้ว อ้าว…หลุดปากไปได้ไงเนี่ย แค่อยากบอกว่า ถ้าเกิดไปชอบคนคนเดียวกับที่เพื่อนเราเองก็สนด้วย หากเสียสละกันได้ ก็ยกให้เพื่อนไปเหอะ แม้ในใจอาจรู้สึกว่า เค้าไม่ใช่สิ่งของที่จะยกให้เพื่อนกันง่ายๆซะหน่อย แต่เมอร์ลินเชื่อมือคุณนะ ว่าไม่สิ้นไร้ไม้ตอกถ้าจะหาแฟนที่ดีกว่า หรือแฟนที่ดีเท่ากับคนคนนั้นได้อีกแล้ว ในเมื่อโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน แล้วจะรู้ได้ไงว่า คนที่คุณหวังไม่มีอยู่จริง ต้องเข้าข้างตัวเองไว้ก่อนเด๊ะ เดี๋ยวเจอเองแหละ
4. โยงมาจากข้อที่ 3 นั่นแหละ จำไว้ว่าอย่าไปตอแยกับแฟนของเพื่อนเชียว เพราะแฟนของใครของใครก็หวงน่ะซี ดังนั้น อย่าสะดิ้งไปแตะต้องคนมีเจ้าของเข้าล่ะ นี่คนละเรื่องกับกรณีไปหลงชอบคนคนเดียวกันแล้วนะ แต่เป็นแฟนตัวจริงเสียงแท้ที่เพื่อนมีอยู่แล้วต่างหาก ถ้าคุณรู้ว่าสองคนนี้เป็นแฟนกันแล้ว แค่เพียงรู้จักแฟนของเพื่อนไว้น่ะได้ แต่ไม่ควรไปคลุกคลีหรือทำเป็นซี้กันสุดขีดกับแฟนของเพื่อนเชียว ถึงแม้เค้าจะเสนอหน้า (ด้านๆ) มากระแซะคุณก่อนเองก็เถอะ เพราะไม่รู้นี่ว่า เค้าต้องการอะไรกันแน่ อยากเป็นเพื่อนหรืออยากแหกคอกมาจีบเราว้า ดังนั้น เพื่อความชัวร์ คุณบอกปัดเค้าไปซะเลย โดยไม่ต้องรั้งรอ และไม่เกรงใจดีกว่า อย่าลืมนะโว้ย แฟนเพื่อนน่ะ ใครห้ามแตะ อยู่ ให้ห่างเข้าไว้ปลอดภัยกว่า ชิ้ว ชิ้ว
5. อย่าฉอเลาะกับแฟน ต่อหน้าเพื่อนจนเกินงาม
ไม่ใช่ไม่อยากดูนะ แต่ขณะเดียวกันก็น่าหมั่นไส้ เอ้ย น่าอิจฉาด้วย จะไปลูบไล้ หรือแสดงความหวานแหวว ก็ไปทำกันในที่มิดชิดซะเถอะ อย่ามาทำสวีท หรือหยอกเอินกันในที่สาธารณะบ่อยๆเลย แค่มีแฟนตัดหน้าไปก่อน เพื่อนๆก็ตาร้อนฉ่ากันเป็นแถว
เพื่อนที่ดีนั้นหายาก แต่ยากกว่าในการจะลาจาก และเป็นไปไม่ได้ที่จะลืมเลือน
“บาง ทีเวลาถูกเพื่อนทำร้ายความรู้สึก เราก็อยากจะทำร้ายเขากลับไปบ้าง แต่ก็ทำไม่ได้ ไม่ใช่เพราะเราไม่กล้าหาญ แค่รู้สึกว่าตัวเองหน้า.ด้านไม่พอ”