วิตามิน อาหารเสริม บำบัดอาการสาววัยทอง
เหวี่ยงง่าย ร้อนวูบวาบ เหงื่อออกตอนกลางคืน นอนไม่หลับกระสับกระส่าย เหล่านี้เป็นอาการของสาวใหญ่วัยทองแทบจะทุกคน ขึ้นอยู่กับว่าใครจะเป็นมากเป็นน้อย หลายคนจึงต้องหันไปพึ่งอาหารเสริม เพื่อขจัดอาการเหล่านี้ แล้วอาหารเสริม หรือสมุนไพรอะไรบ้างที่ให้คุณประโยชน์กับสาววัยนี้ เราตามไปดูกันเลยคะ
เมล็ดแฟล็กซ์ : ช่วยลดอาการเหงื่อออกตอนกลางคืน
เมล็ดแฟล็กซ์ และน้ำมันจากเมล็ดแฟล็กซ์ จะช่วยอาการหลังหมดประจำเดือนของคุณผู้หญิงเบาบางลง เพราะในเมล็ดแฟล็กซ์มีลิกแนน (lignans) ซึ่งเป็นฮอร์โมนชนิดหนึ่งมาก จะช่วยปรับฮอร์โมนเพศหญิงให้อยู่ในภาวะสมดุล ส่วนอาการวูบวาบของสาววัยทองนั้น ยังไม่มีการศึกษาชิ้นไหนยืนยันว่า เมล็ดแฟล็กซ์ช่วยลดอาการเหล่านี้ได้
แคลเซียม : ปกป้องการสูญเสียกระดูก
การสูญเสียมวลกระดูกกลายเป็นปัญหาใหญ่ของหญิงวัยทองเลยทีเดียว ซึ่งเกิดจากระดับฮอร์โมนที่ลดลงหลังหมดประจำเดือน และได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอ ทั้งนี้ ปกติแล้วผู้หญิงอายุน้อยกว่า 51 ปี ควรได้รับแคลเซียมวันละ 1,000 มิลลิกรัม แต่หากอายุมากกว่า 51 ปี ควรได้รับแคลเซียมมากกว่าวันละ 1,200 มิลลิกรัม ซึ่งแคลเซียมมีมากใน นม ปลาตัวเล็ก เต้าหู้ หรืออาหารเสริมแคลเซียม
วิตามินดี : เสริมสร้างกระดูก
วิตามินมีความสำคัญต่อกระดูกและฟันไม่แพ้แคลเซียม เพราะหากไม่มีวิตามินดีแล้ว ร่างกายก็จะไม่สามารถดูดซึมแคลเซียมได้ โดยในผู้ใหญ่มักต้องการวิตามินวันละ 600 IUs แต่หากเป็นผู้หญิงที่อายุมากกว่า 71 ปีขึ้นไป ควรจะได้รับวิตามินมากกว่า 800 IUs ต่อวัน ซึ่งสามารถหาวิตามินดีได้ทั้งในอาหารเสริม และแหล่งวิตามินดีชั้นเยี่ยมอย่าง "แสงอาทิตย์"
ทิป : ออกไปเดินรับแสงอาทิตย์เสียบ้างวันละ 10-15 นาที เพื่อรับวิตามินดีสู่ร่างกาย แถมแสงแดดยังช่วยให้อารมณ์ดีอีกด้วย แต่อย่าให้นานเกินไป เพราะหากแสงแดดแรง ๆ ผิวจะไหม้เอาได้
แบล็คโคโฮส (Black cohosh) : แก้อาการร้อนวูบวาบ
แบล็คโคโฮส เป็นสมุนไพรที่พบได้ในเฉพาะเขตอเมริกาเหนือเป็นอาหารเสริมของสาววัยทองที่ขายดีมากในสหรัฐอเมริกาเลยคะ เพราะมีการศึกษาพบว่า รากของแบล็คโคโฮสมีสรรพคุณช่วยรักษาอาการวัยทอง โดยเฉพาะลดอาการร้อนวูบวาบได้เป็นอย่างดีเลย และยังช่วยลดอาการปวดเกร็งขณะมีประจำเดือน ลดภาวะซึมเศร้า ลดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อมดลูก และแก้อาการนอนไม่หลับเรื้อรังได้ อย่างไรก็ตาม ข้อควรระวังในการใช้สมุนไพรชนิดนี้ก็คือ ไม่ควรใช้กับผู้ที่มีปัญหาเรื่องตับ
เซนต์จอห์นเวิร์ต : จัดการอารมณ์แปรปรวน
ผู้หญิงวัยทองมักจะมีอารมณ์แปรปรวน ฉะนั้นแล้ว สมุนไพรดอกสีเหลืองสดที่ชื่อว่า "เซนต์จอห์นเวิร์ต" (St John's Wort) คงเป็นตัวเลือกที่เหมาะ เพราะสมุนไพรชนิดนี้ได้รับการกล่าวขานกันว่า ช่วยปรับอารมณ์ไม่ให้เกิดความเครียด สามารถแก้อาการซึมเศร้าชนิดที่ไม่รุนแรงได้ และมีฤทธิ์สงบประสาท นอกจากนี้ยังมีหลักฐานยืนยันว่า หากรับประทานเซนต์จอห์นเวิร์ตกับแบล็คโคโฮส (Black cohosh) จะยิ่งช่วยปรับความสมดุลและอารมณ์เหวี่ยงๆ ของสาววัยทองได้ดีเยี่ยมเลยคะ
ขิง : ปรับอารมณ์
หญิงวัยทองมักจะมีอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ ซึ่ง "ขิง" จะช่วยเรื่องการปรับอารมณ์ให้เป็นปกติได้ แถมยังช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้นด้วย โดยขิงก็มีหลากหลายชนิด แต่งานวิจัยที่ผ่าน ๆ มา ก็พบแต่เพียงว่า ขิงช่วยปรับสภาวะทางอารมณ์ของหญิงวัยทอง และช่วยเรื่องการนอนหลับเท่านั้น ส่วนที่ว่า ขิงจะช่วยรักษาอาการทางร่างกาย เช่น อาการวูบวาบได้หรือไม่นั้น ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน
ตังกุย : ราชินีแห่งสมุนไพร
ตังกุย คือ สมุนไพรจีนที่ใช้บำบัดสุขภาพของผู้หญิงมาตั้งแต่พันปีที่แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม การศึกษาในเร็วๆนี้ก็ยังไม่พบหลักฐานยืนยันสรรพคุณของ ตังกุย เท่าไหร่นัก มีเพียงงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ระบุว่า ตังกุย ช่วยลดอาการร้อนวูบวาบของสาววัยทองได้ แต่ก็พบด้วยว่า ตังกุย อาจทำให้เกิดข้างเคียงบางอย่างได้ด้วย ดังนั้น หากจะใช้ควรปรึกษาแพทย์ก่อนดีกว่านะคะ
ถั่วเหลือง : ลดอาการร้อนวูบวาบ
ผู้หญิงวัยทองชาวอเมริกามักมีอาการร้อนวูบวาบมากกว่าหญิงวัยทองชาวเอเชียถึง 8 เท่า และพวกเธอก็รับประทานสารสกัดจากถั่วเหลือง เพื่อดับอาการเหล่านั้น โดยการศึกษาพบว่า ถั่วเหลืองจะช่วยบรรเทาอาการร้อนวูบวาบให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เราจึงมักเห็นอาหารจำพวกถั่วเหลืองผสมอยู่ในอาหารเสริมหลายชนิด แต่ถึงวันนี้ ก็ยังไม่มีงานวิจัยสรุปว่า ถั่วเหลืองช่วยบำบัดอาการร้อนวูบวาบได้มากน้อยแค่ไหน
ทิปส์ : ทานอาหารเสริมอย่างชาญฉลาด
ทางที่ดีที่สุดก่อนจะทานอาหารเสริม คือ ปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกรก่อนทุกครั้ง และจำไว้แม่น ๆ เลยว่า...
อาหารเสริมทุกชนิด หากรับประทานเข้าไปแล้วสามารถทำให้เกิดผลข้างเคียงได้คะ
อาหารเสริมและสมุนไพรอาจทำปฏิกิริยาบางอย่างกับยาที่คุณรับประทานอยู่ โดยสมุนไพรอาจจะไปเพิ่มหรือลดการออกฤทธิ์ของยาชนิดนั้นได้ หรืออาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพบางอย่างขึ้นมาได้ ดังนั้น ศึกษาข้อควรระวังในการใช้สมุนไพรให้ดี
อย่าคิดว่ามีเพียงแต่ "ยา" ชนิดนี้เท่านั้นที่ทำให้เราแพ้ได้ เพราะสมุนไพรบางชนิดก็อาจทำให้คุณเกิดอาการแพ้ได้เหมือนกันคะ