10 อันดับ เกย์อันตรายที่โดดเด่น

ไม่เชิงว่าเป็นคนอันตรายแต่มีแนวคิดที่ชั่วร้ายมากกว่า โดยนิกโกเลาะ ดี แบร์นาโด เดย์ มาเกียเวลลี (ค.ศ. 1469 - ค.ศ. 1527) เขาเป็นนักปรัชญา นักเขียน และนักรัฐศาสตร์ชาวอิตาลี นับเป็นหนึ่งในบิดาแห่งรัฐศาสตร์ยุคใหม่ มีชีวิตอยู่ในยุคเรอเนซองส์ ซึ่งหลายคนบอกว่าเป็นคนชั่วร้ายเพราะความคิดที่สื่อในงานเขียนค่อนข้างน่ากลัว เพราะสนับสนุนความชั่วร้ายและเล่ห์เหลี่ยมในการปกครอง โดยการสิ่งที่ผิดศีลธรรมบางทีเป็นความจำเป็นเพื่อให้สามารถบรรลุผลทางศีลธรรมในท้ายสุดวิธีการที่จะขึ้นสู่อำนาจนั้น (แต่ต้องยืดหยุดปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์) บางครั้งหมายถึงการลอบสังหารฝ่ายตรงกันข้าม

อเล็กซานเดอร์ที่ 3 แห่งมาซิโดเนีย (356-323 ปีก่อนคริสตกาล) หรือที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่า อเล็กซานเดอร์มหาราช เป็นกษัตริย์กรีกจากแคว้นมาซิโดเนีย ผู้สร้างจักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคโบราณ ที่ได้รับตำแหน่งตั้งแต่อายุ 16 ปีจากการตายของพ่อ ซึ่งเขาได้นำทัพรุกรานและฆ่าคนในอารยธรรมอื่นๆ เขามีศัตรูมากมายและเพิ่มขึ้นหลังจากเขาพิชิตอารยธรรมต่างๆ จำนวนมาก จนทำให้หลายคนมองว่าเขาเป็นผู้ร้ายมากกว่าพระเอก ส่วนการที่หลายคนมองว่าอเล็กซานเดอร์นั้นเป็นเกย์ก็อันเนื่องมากจากการแสดงความรักกับเฮฟาอิสเทียนซึ่งเป็นทหารคู่ใจของเขาเกินกว่าเพื่อนเสียอีก

ฟริตส์ ฮาร์มานน์ เกิดที่ฮันโนเวอร์ วันที่ 25 ตุลาคม 1879 เป็นลูกคนเล็กสุดในจำนวนลูกทั้งหกของครอบครัวชนชั้นแรงงาน เคยจับไปรักษาที่โรงพยาบาลบ้า แต่ไม่นานก็ถูกปล่อยตัวออกมา หลังจากปล่อยออกมาเขาก็ไปสมทบกับกองทัพเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 1 และต่อมาก็กลายเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นฆาตกรต่อเนื่องที่เลวร้ายที่สุดในเยอรมัน เนื่องจากมีพฤติกรรมเหมือนแวมไพร์ที่เน้นออกล่าวัยรุ่นชายหนุ่มอายุ 12-16 ปี จำนวนไม่ทราบแน่นอน แต่เชื่อว่าอาจมากถึง 24-27 ราย โดยทำการล่อล่อเหยื่อที่ส่วนใหญ่เป็นคนเร่รอนให้เข้ามาในที่พักจากนั้นก็จะการฆ่าด้วยการใช้ฟันกัดเคี้ยวที่ลำคอของเหยื่อ บางรายหัวแทบหลุดจากร่าง จากนั้นก็นำเนื้อเหยื่อมาทำเป็นเนื้อขายให้แก่คนอื่น เขาถูกประหารเมื่อวันที่ 15 เมษายน 1925 โดยเครื่องกิโยติน

เดวิด เอ็ดเวิร์ด มัสท์ เกิดใน Connellsville เพนซิล เมื่อปี 1954 พ่อหย่าร้างกับแม่และถูกเลี้ยงดูพ่อแม่บุญธรรม และมีอาการทางจิตและทุกข์ทรมานจากอาการนั้นมาอย่างยาวนาน เขาพยายามกลับบ้านไปหาแม่ของเขา แต่แม่เกลียดเขามากถึงขนาดขู่เขาด้วยมีด ต่อมาก็สมัครเป็นทหารและพ่อครัวและได้คะแนนเฉลี่ยดีเยี่ยมแต่กระนั้นต่อมาเขาก็กลับกลายเป็นฆาตกรต่อเนื่องที่ฆ่าเด็กหนุ่มไป 5 ราย ร่างของเหยื่อสามในห้ารายนั้นถูกพบใต้แผ่นคอนกรีตในห้องใต้ดินของบ้านเขาเอง สุดท้ายเขาก็ฆ่าตัวตายเพื่อหนีความผิดที่ตนก่อเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2006

เจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ เกิดที่มิลวอกี เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 1960 ซึ่งเขาเป็นพวกรักร่วมเพศที่ก่อคดีฆาตกรรมต่อเนื่องฆ่าคนด้วยความปิติสุขตั้งแต่อายุ 18 ปี ดาห์เมอร์นั้นเป็นชายที่มีแรงดึงดูดทางเพศที่สามารถหลอกล่อชายหนุ่มมาที่ห้องพักเขาได้อย่างง่ายดาย เมื่อสบโอกาสเขาจะฆ่า ข่มขืน ทรมาน หั่นศพ และกินเนื้อคนรวมเหยื่อแล้วประมาณ 17 ราย ระหว่างปี 1978 และปี 1991 ในรัฐวิสคอนซิน ดาห์เมอร์ถูกจับกุมคาห้องพักของเขาและเมื่อสำรวจห้องก็พบว่าห้องดังกล่าวเต็มไปด้วยซากศพมนุษย์ที่ถูกเก็บตามจุดต่างๆ ของห้อง ผลสุดท้ายเขาถูกตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิตและถูกฆ่าตายโดยนักโทษคนอื่นในขณะจำคุก

หลุยส์ อัลเบอร์โต้ การาวิโต้ ได้รับฉายาว่า เดรัจฉาน แสดงให้เห็นว่าเชขาคือมนุษย์อันตรายของโลกอย่างแท้จริง เขาก็ได้รับขนานนามว่าเป็นฆาตกรต่อเนื่องที่ฆ่าคนมากที่สุดในโลก เขาถือกำเนิดขึ้นมาในเขตควินดิโอของประเทศโคลัมเบีย เมื่อวันที่ 25 มกราคม 1957 ในครอบครัวยากจนที่มีลูกหลายคนและพ่อชอบใช้ความรุนแรงแก่เด็ก หลังจากนั้นเขาก็เริ่มทำการข่มขืนและฆ่าเด็กผู้ชายในเขตควินดิโอ ไปมากมายถึง 135 รายด้วยกัน (ความจริงมากกว่านั้น) ในช่วง 1992-1999 โดยหลุยส์จะหลอกเด็กชายมาครั้งละคน จัดการมัดมือและทรมานก่อนที่จะฆ่าจ้วงมีด (หรือไขควง) แทงร่างเหยื่ออย่างไม่ยั้ง เขาถูกพิพากษาจำคุก 1853 ปี ซึ่งเขายังสารภาพว่าเขาสังหารเหยื่อมากกว่าที่หลายคนคาดไว้ถึง 300 ราย

อาเทอร์ แกรี่ บิชอป เกิดเมื่อวันที่ 1 มกราคม 1951 ในยูทาห์ เป็นลูกที่ดีของพ่อแม่ที่นับถือมอร์มอน มีการศึกษาและสติปัญญาฉลาดเฉลียว เขาเป็นคนเคร่งศาสนา เป็นคนดีเรียนอยู่ในโรงเรียนธุรกิจที่อนาคตสดใส อย่างไรก็ตามต่อมาเขาก็ถูกจับได้ว่ายักยอกเงินในฐานะผู้ทำบัญชี และเขาก็เริ่มหมกมุ่นอยู่กับสื่อลามกอนาจารเด็ก จนกลายเป็นคนตัณหากลับ ก่อคดีล่วงละเมิดเด็กชาย ก่อนที่จะเริ่มก่อคดีฆาตกรรมต่อเนื่องด้วยการ ทำการลักพาตัวและฆาตกรรมเด็กชายไป 5 รายในปี 1983 ทั้งหมดถูกทรมานและฆ่าอย่างโหดร้าย ไม่ว่าจะเป็นกดหน้าลงในน้ำ, อุดปากบีบจมูก ข่มขืนและฆ่าด้วยไม้กระบองทุบตี ฯลฯ ที่น่าสนใจคือพ่อแม่ของเขาไม่รู้เรื่องสิ่งที่เขาก่อแม้แต่น้อย เขาถูกประหารชีวิตด้วยการฉีดยาพิษเข้าเส้นเลือดเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 1988

แรนดี้ สตีเว่น คราฟท์ เกิดในปี 1945 ในแคลิฟอร์เนีย ได้รับฉายาว่า นักฆ่าทางด่วน เพราะเขาชอบทิ้งศพบนถนนทางด่วน เขาเป็นลูกชายคนเดียวของพ่อแม่ที่มีน้องสาวถึงสามคน มีสติปัญญาสูง และเคยได้รับการฝึกอบรมจากรักษาความปลอดภัยระดับสูงจากกองทัพอากาศสหรัฐ หากแต่เขากลับกลายพวกรักร่วมเพศและกลายเป็นฆาตกรต่อเนื่องสังหารชายหนุ่มถึง 16 รายระหว่าง 1972 และ1983 (ความจริงอาจสูงถึง 67 ราย) โดยส่วนใหญ่เป็นคู่เกย์ที่เขาล่อลวงพากลับบ้าน มอมยา จากนั้นก็ทรมาน ข่มขืน และฆ่าด้วยการรักคอ เหยื่อส่วนใหญ่ถูกเผาอวัยวะเพศและหน้าอก บางครั้งก็มีวัตถุแปลกปลอมยัดใส่ทวารหนัก บางรายถึงขั้นตัดอวัยวะเพศ ปัจจุบันเขาอยู่ถูกจำคุกในแดนประหารในคุก

ย้อนกลับไปเรื่องของฟริตส์ ฮาร์มานน์ ที่สังหารชายหนุ่มเยอรมันไปมากมาย ความจริงแล้วเขาไม่ได้ก่อคดีเพียงคนเดียว เขายังมี ฮาร์น กรานส์ เด็กหนุ่มที่หนีออกจากบ้านที่เขาพบเมื่อปี 1919 มาด้วย (ตอนนั้นกรานส์ยังอายุ 20 ปี)และเด็กหนุ่มคนนี้ได้แนะให้ฮามานน์ฆ่าเหยื่อ เพื่อที่เขาอยากได้เสื้อผ้าเหยื่อไปขาย ชายสองคนอาศัยอยู่อพาร์ตเมนต์ร่วมกัน และกลายเป็นคนรักกัน นับตั้งแต่นั้นมา ปี1919 1924 เขาก็ได้หลอกให้เหยื่อเด็กชายเข้ามาที่พักจากนั้นก็ฆ่า ศึ่งเขาได้เพลินเพลินกับความโหดร้ายนั้น จนกระทั่งพวกเขาถูกจับได้ฮาร์มานน์ ถูกตัดสินประหารชีวิต ส่วนเด็กหนุ่มมีโทษแค่จำคุก ไป 12 ปี และเสียชีวิตในปี 1975

หวาง ยง เป็นของจีนเกิดในมณฑลเหอหนานเมื่อปี 1947 เขาถูกตัดสินโทษจากข้อหาสังหารชายหนุ่มอย่างน้อย 7 ราย (แต่เชื่อว่าเขาอาจฆ่ามากถึง 25 คน) ในช่วงปี 2001 และ 2003 เขามักจะล่อพวกคึนหนุ่มจากสถานที่อินเทอร์เน็ตคาเฟ่หรือร้านค้าวีดีโอมาที่บ้านของเขา วางยา และข่มขืน และบีบอคอด้วยเชือก จากนั้นก็เกด็บเข็มขัดของเหยื่อเป็นที่ระลึก ฝังศพตามที่ต่างๆ ที่เป็นตามพื้นที่ต่างๆ แต่ต่อมาเหยื่อคนหนึ่งหนีรอดได้และเรียกตำรวจมาจับ หวาง ยงเลยสารภาพอาชญากรรมที่เขาก่อว่า ผมฆ่าคนอย่างน้อย 25 คน) โดยเขาอธิบายแรงจูงใจสำหรับการก่ออาชญากรรมของเขาว่า ผมอยากฆ่าคนตั้งแต่ผมยังเป็นเด็ก แต่ผมไม่มีโอกาส สุดท้ายเขาถูกประหารชีวิตด้วยการยิงเป้าเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2003