หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

อัจฉริยะทางด้านวิศวกรรมแห่งยุคโบราณ (เกือบพันปีก่อนคริสตกาล)

โพสท์โดย neutralart

 

ยาวนิดหนึ่ง แต่น่าสนใจมาก

 

หากพูดถึงความสำเร็จในยุคโบราณอาจจะดูมืดมนและไม่น่าสนใจเท่าไหร่ แต่กลับมีสิ่งก่อสร้างบางอย่างที่มีลักษณะโครงสร้างทางวิศวกรรมที่น่าทึ่ง สร้างโดยคนสมัยโบราณโดยใช้ทักษะวิศวกรรมชั้นเยี่ยมจนเรายังต้องอาย

 

 

 

เมืองใต้พิภพโบราณ เดอรินกูยู

derinkuyu2

ที่มาภาพ budgettoursturkey

เมืองใต้พิภพเดอรินกูยู (Derinkuyu) ถูกพบเมื่อปี ค.ศ. 1960 ที่ประเทศตุรกี เหตุก็เพราะว่าบ้านสมัยใหม่บนพื้นดินทำการซ่อมแซมเลยขุดไปจ๊ะเอ๋เข้าพอดี โชคยังดีที่ตลอดทั้ง 18 ชั้นของเมืองใต้ดินนี้ถูกทิ้งร้างไว้ และไม่ได้คลาคล่ำไปด้วยฝูงชนคนใต้ดิน ว่ากันให้ง่ายก็คือไม่มีผู้อยู่อาศัยนั่นเอง

DerinkuyuUndergroundCity

ที่มาภาพ mastertourism

 

หลังจากหลบซ่อนใต้จมูกชาวตุรกีมาหลายศตวรรษ เดอรินกูยูนี้ก็คือเมืองใต้ดินที่ประกอบกันเป็นห้องต่างๆ ที่สลับซับซ้อน สร้างเมื่อ 8 ศตวรรษก่อนคริสตกาล และจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าใครเป็นคนสร้าง (สงสัยว่าจะเป็นปลวกยักษ์) เพื่อจะเข้าใจว่าทำไมมันถึงน่าทึ่งนัก ก็ลองนึกดูว่าให้เราที่มีแค่ค้อน กับสิ่ว ไปลองขุดห้องใต้ดินใหญ่ ๆ ซักห้องนึง ที่จุคนสักได้สองหมื่นคน  แถมไม่มีเครื่องมือสมัยใหม่ให้ใช้ด้วย เราจะทำได้รึเปล่า

1172870975_dee256fb0c_o

ที่มาภาพ bldgblog

 

เมืองนี้คาดว่าอาจสร้างขึ้นเพื่อเป็นหลุมหลบภัยสำหรับลี้ภัยทางสงครามหรือภัยพิบัติทางธรรมชาติ วิเคราะห์จากโครงสร้างทางสถาปัตยกรรมแล้วก็ดูเหมือนจะเป็นหลุมหลบภัยแสนสบายในวันสิ้นโลกเลยทีเดียว มีทางไปยังแหล่งน้ำไหลใสสะอาด แถมบ่อน้ำก็ยังไม่มีจุดเชื่อมออกไปบนพื้นดินอีก เผื่อไว้ว่าจะมีผู้ประสงค์ร้ายบนพื้นดินใส่ยาพิษเข้าไป  เมืองทั้งเมืองประกอบไปด้วย เขตที่พักอาศัยส่วนตัว ร้านค้า ห้องสาธารณะ (สงสัยใช้เป็นเหมือนสวนสาธารณะ) สุสาน คลังสรรพาวุธ คอกปศุสัตว์ ช่องทางหนีฉุกเฉิน อีกทั้งยังมีโรงเรียนแถมด้วยห้องหับให้นั่งเรียนกันเรียบร้อย

1172695369_4b5ac0a09f_o

ที่มาภาพ bldgblog

ที่สุดๆ ยิ่งกว่านั้นคือ ที่พูดมาทั้งหมดนี้เขายังขุดค้นกันได้ไม่ครบเลยด้วยซ้ำ ยังมีพื้นที่ๆ ยังไม่ได้สำรวจกันอีกเยอะ ขุดไปอีกหน่อยอาจจะเจอสนามกอล์ฟ กับสนามฟุตบอลก็เป็นได้

 

 

คูหาใต้พิภพแห่ง ฮาล-ซาเฟลียนี่ แหล่งสร้างเสียงสุดน่าทึ่ง

hypogeum-malta

ที่มาภาพ themaltaexperience

ใต้ดินที่เกาะมาลทา (Malta) มีสิ่งก่อสร้างจากหินเมกาลิธ (Megalithic) ขนาดใหญ่ที่ชาวบ้านเรียกกันเท่ห์ ๆ ว่า “Hypogeum of Hal-Saflieni” (คูหาใต้ดินแห่ง ฮาล-ซาเฟลียนี่) ฟัง ๆ ดูอาจจะเหมือนชื่อหนังเรื่องใหม่ซักเรื่อง (ก็เค้าตั้งให้เท่ห์นี่) สิ่งก่อสร้างนี้ถูกพบโดยบังเอิญในปี ค.ศ.1902 เมื่อคนงานขุดหลุมลึกลงไปจนเจอเพดานของห้องเข้า และที่สยองสุดๆ ก็คือ พวกเขาเจอโครงกระดูกมนุษย์เกือบ ๆ 7,000 โครง แออัดยัดเยียดอยู่ตรงหน้าทางเข้า

แต่ก็อย่างว่า คนเราก็ใช่ว่าจะกลัวตายกันทุกคน แทนที่จะวิ่งหนีเผ่นป่าราบเหล่าคนงานตัดสินใจจะเดินสำรวจรอบ ๆ แบบไม่สังเกตสักนิดว่า กระดูก 7,000 โครงด้านหน้ามันหาทางหนีตายมาก่อน  และเป็นโชคดีที่พวกเขาได้ค้นพบข้อเท็จจริงอันน่าทึ่งอย่างหนึ่ง

Malta-Hypogeum

ที่มาภาพ themaltaexperience

 

โครงสร้างใต้ดินสามชั้นสร้างด้วยหินเมกาลิธที่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนสร้าง (เหมือนเมืองแรก)  และที่ทำให้เราทึ่งได้อีกก็คือ เสียงของผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงกลางห้องจะสามารถสะท้อนก้องได้ยินกันทั่วถึง (ไม่แน่ใจว่าทั้งสามชั้นรึเปล่า ) โดยมันจะมีผลก็ต่อเมื่อเป็นเสียงที่อยู่ในช่วงความถี่ระหว่าง 95 – 120 เฮิร์ตซ์ พูดง่าย ๆ ก็คือ จะสะท้อนได้เฉพาะเสียงผู้ชายเท่านั้น ถ้าเป็นเสียงสาวจะเล็กจะใหญ่ก็จะไม่เกิดอะไรขึ้น

hal

ที่มาภาพ malta

 

แค่นั้นยังแปลกไม่พอ ถ้าหากคุณเป็นผู้ชาย แล้วไปแผดเสียง (เน้นว่าแผด) ในความถี่ 110 เฮิร์ตซ์ เสียงที่ได้ยินทั่วถึงทั้งคูหาจะเหนี่ยวนำให้สมองรู้สึกเหมือนตกอยู่ในภวังค์ ซึ่งเขาอธิบายไว้ว่าเสียงที่เกิดขึ้นจะไปกระตุ้นสมองในส่วนความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์

พูดให้เห็นตัวอย่างง่าย ๆ ก็คือ ถ้าคุณอยู่ในคูหานี้ แล้วมีคนร้องเพลงตรงกลางห้องอยู่ คุณก็จะสามารถ “เข้าใกล้ประสบการณ์ทางศาสนาของตัวเอง” ได้มากขึ้น แหม ก็เล่นไปกระตุ้นสมองกันซะขนาดนั้นนี่ ข้อมูลก็มีเท่านี้ ยังไม่มีใครทราบว่าคนสร้างทำได้อย่างไร แต่ที่รู้อยู่อย่างคือ ความรู้ด้านเสียงคงเข้าขั้นเทพ ถึงได้ทำให้นักวิทยาศาสตร์สมัยนี้พากันงงเป็นแถบ แต่คนเราสมัยใหม่ก็ไม่น้อยหน้า ยิ่งดวดเหล้าไปเยอะ ก็ยิ่งแหกปากอย่างมีศักยภาพได้ยินก้องไปทั่วเหมือนกัน

 

 

เขื่อนโบราณมาริบที่มีอายุการใช้งานกว่าพันปี

Marib_dam

ที่มาภาพ gaiablog

เยเมน เป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องฝุ่นและความแห้งแล้ง เป็นสาเหตุให้อาณาจักรเซเบียนโบราณสร้างเขื่อนขนาดใหญ่ขึ้นเมื่อ 750 ปีก่อนคริสตกาล

เขื่อนนี้เกือบถูกขนานนามว่าเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งอัศจรรย์ของโลกอย่างเป็นทางการแล้ว (แต่ในที่สุดก็ไม่ได้เป็น) เป็นที่ยอมรับในด้านความสามารถทางวิศวกรรมที่เยี่ยมยอดในช่วงก่อนยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม การสร้างเขื่อนใช่ว่าจะแค่โยน ๆ หินให้เป็นรูปครึ่งวงกลม (คนนะไม่ใช่บีเวอร์) แต่ต้องคำนึงถึงการสร้างคลองเพื่อส่งต่อน้ำ ประตูน้ำ ทางระบายน้ำล้น แหล่งกักเก็บน้ำ แค่นี้ยังยากไม่พอต้องคิดด้วยว่าทั้งหมดนี่ต้องกันน้ำด้วย ไม่งั้นคนที่อยู่ริมน้ำคงได้จมหายไปตอนเช้ากันหมด

6a00d83451c56869e200e54f55e65c8834-640wi

ที่มาภาพ patentpending

ชาวเซเบียนคิดเรื่องพวกนี้ได้ก่อนจะมีการคิดค้นคอนกรีตขึ้นมาเสียอีก แถมเขื่อนนี้ยังมีอายุการใช้งานมากกว่าพันปีด้วย จะเปรียบเทียบให้ว่าเขื่อนสมัยใหม่ยุคเราจะมีอายุการใช้งานอยู่ที่แค่ 50 ปีเท่านั้นเอง หรือถ้าเป็นตัวเก๋าจริง ๆ ก็มีอายุถึงแค่ 100 ปี

เขื่อนใหญ่มาริบมีความยาวประมาณ 2,000 ฟุต (หรือประมาณ 600 เมตร ประมาณเขื่อนศรีนครินทร์บ้านเรา) ในช่วงที่มันใช้งานได้ เขื่อนนี้ได้เปลี่ยนเยเมนโบราณให้กลายเป็นโอเอซิสอันอุดมสมบูรณ์ ที่รู้จักกันดีในนามอาณาจักร “ชีบา” (ของราชินีชีบาผู้โด่งดัง) แต่ก็เป็นธรรมดา ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมดับสูญตามกาลเวลา ในที่สุดเขื่อนยักษ์องอาจแห่งนี้ก็แตกเมื่อประมาณปีคริสตศักราชที่ 600 เป็นเหตุล่มสลายของระบบเกษตรกรรม และเปลี่ยนพื้นที่นี้ให้กลายเป็นทะเลทรายจนถึงทุกวันนี้

1391550

ที่มาภาพ panoramio

 

 

เมืองพูมาพุนกุ สิ่งก่อสร้างจากโครงสร้างหินประสานที่ซับซ้อน

Pumapunku2

ที่มาภาพ flickr , paleocontact

พูมาพุนกุ (Puma Punku) เป็นเมืองที่สร้างโดยชาว ธิวานากุ (Tiwanaku) ซึ่งเป็นชนเผ่าโบราณในประเทศโบลิเวีย สิ่งที่ทำให้เมืองนี้แตกต่างจากเมืองโบราณอื่นก็คือ งานสถาปัตยกรรมอันวิจิตรพิศดารที่สร้างจากหิน ซึ่งช่างหินสมัยนี้ยังต้องอิจฉา อ่านดูจะหาว่าเวอร์ ต้องไปดูรูปภาพประกอบ

pumapunku_image004

pumapunku_image002

ที่มาภาพ paleocontact

ด้วยเทคโนโลยีที่ล้าหลัง พวกเขาเริ่มสร้างงานด้วยหินขนาดใหญ่หลายพันก้อน มาต่อกันเป็นบล็อคเพื่อสร้างสิ่งก่อสร้าง จะว่าไปก็ฟังดูเหมือนเราไปต่อบ้านด้วยเลโก้นั่นแหละ เราทำสิ่งเหล่านี้ได้โดยใช้เครื่องตัดเลเซอร์ ซึ่งเป็นเครื่องมือตัดที่มีศักยภาพในการตัดเป็นเส้นตรงและมีความแม่นยำสูง แต่คนโบราณเขาใช้แค่ไม้บรรทัดกับสิ่วเท่านั้น

Pumapunku

ที่มาภาพ world-mysteries

 

เพื่อจะทำให้สิ่งก่อสร้างมีพื้นฐานที่มั่นคง เหล่านักก่อสร้างโบราณใช้เหล็กยึดที่มีลักษณะเหมือนตัว I ไม่ให้หินแยกจากกันในกรณีเกิดแผ่นดินไหว

เหล็กยึดที่ว่านี้ไม่ได้ใช้แค่กับหินขนาดเล็กเท่านั้น แต่ใช้ในหินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่วัดได้มีขนาดยาว 25 ฟุต กว้าง 17 ฟุต (เกือบ 40 ลูกบาศก์เมตร ประมาณบ้านหลังย่อม ๆ) ซึ่งคาดว่าน่าจะหนักประมาณ 130 ตันด้วย คนเราสมัยก่อนก็แปลก วิวัตนาการด้านล้อก็ไม่มี เครนเอยก็ยังไม่ได้สร้าง ขนาดตัวหนังสือซักตัวยังไม่ได้คิดค้นกันขึ้นมาเลย แต่กลับเคลื่อนย้ายหินขนาดใหญ่เหล่านี้ไปยังพูมาพุนกุได้ ก่อนจะค่อยๆ ตัดให้เป็นรูปร่างที่ต้องการแบบเท่ากับเป๊ะๆ ทุกก้อน

แต่ในที่สุดแล้ว ชนชาวธิวานากุนี้ก็เหมือนกลุ่มชนลี้ลับอื่น ๆ ที่หายสาบสูญไปจากประวัติศาสตร์เสียเฉยๆ แต่งานสถาปัตยกรรมของพวกเขาก็ยังคงสร้างความตื่นตาติ่นใจให้กับอาณาจักรที่มาอยู่ต่อ ซึ่งก็คือชาวอินคานั่นเอง ซึ่งพอมาเห็นเมืองนี้ก็คิดว่าเข้าใจว่านี่คือผลงานของพระเจ้า และคิดว่าพูมาพุนกุนี้เป็นศูนย์กลางของโลกซะอย่างนั้น

 

 

โกเบคลี เทเป สิ่งก่อสร้างที่สร้างขึ้นก่อนมนุษย์จะคิดค้นเกษตรกรรม

Gobekliphoto

ที่มาภาพ maxlab

ย้อนกลับไปที่สมัย ค.ศ. 1960 นักสำรวจในตุรกีค้นพบสิ่งก่อสร้างที่ฝังอยู่ใต้ดิน ประกอบไปด้วยเสาหินขนาดใหญ่เรียงตัวเป็นวงกลมคล้ายสโตนเฮนจ์ (Stonehenge) เสาบางต้นสูง 30 ฟุต (9 เมตรกว่า) แต่ที่ทำให้พากันช็อคตาแทบถลนก็คือ สิ่งก่อสร้างนี้มีอายุเก่าแก่กว่าสโตนเฮนจ์ร่วม 6,000 ปีได้

สิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่จากหินปูนที่มีความประณีตนี้ได้รับการสลักจากหินก้อนใหญ่ในเหมืองใกล้ ๆ กันด้วยหินเหล็กไฟกับมือเปล่า  มีการสำรวจอายุของสิ่งก่อสร้างนี้ว่ามีอายุร่วม 9,000 ปีก่อนคริสตกาล โกเบคลี เทเป (Gobekli Tepe) จึงได้รับการขนานนามว่าเป็นสิ่งก่อสร้างโดยมนุษย์ที่เก่าแก่ที่สุด ซึ่งเก่ากว่าเหล่าสิ่งก่อสร้างในอดีตที่เราเคยเรียนกันอยู่นานโข  พ่วงกับข้อเท็จจริงที่ว่ามันปรากฏในยุคหิน ซึ่งเราคิดว่าถ้ามนุษย์ยุคนั้นจะสร้างอะไรขึ้นมาได้มันคงป่นเป็นเถ้าธุลี ไม่เหลือให้คนยุคเราได้เห็นอีกแล้ว

gobekli-tepe

ที่มาภาพ all photography blog

 

ก็อย่างที่บอกว่าสิ่งก่อสร้างนี้มีอายุเก่าแก่ มันเก่าขนาดเกิดขึ้นมาก่อนที่มนุษย์จะคิดค้นการทำเกษตรกรรมขึ้นมาเสียอีก ว่ากันง่าย ๆ ก็คือคนในยุคนั้นยังวิ่งไล่แมมมอธแทนที่จะปลูกพืชกันอยู่เลย การค้นพบครั้งนี้ National Geographic ถึงขั้นขนานนามว่า “เหมือนไปเจอว่ามีคนสร้างเครื่องบิน 747 ในชั้นใต้ดินด้วยมีด”

Gobekli

ที่มาภาพ wikipedia1 , wikipedia2

 

การค้นพบนี้เป็นสิ่งที่ไม่สมเหตุสมผลเลยสักนิด เพราะที่เรารู้ๆ กันมาก็คือ มนุษยชาติเริ่มสร้างสิ่งก่อสร้างขึ้นหลังจากเรียนรู้วิธีการทำเกษตรกรรมกันแล้ว เหตุก็เนื่องมาจากว่า เมื่อปลูกอาหารได้เองแล้ว คนก็เริ่มมีว่างพอที่จะเอามาสร้างสิ่งก่อสร้างกัน

หลังจากนั้น ก็มีการขุดไปเจอโครงกระดูกจำนวนมากซึ่งคาดว่าน่าจะมาจากการใช้สัตว์ในการสังเวย เหล่านักโบราณคดีเชื่อว่าสิ่งก่อสร้างนี้อาจเป็นสิ่งก่อสร้างทางศาสนา ที่เขาวิเคราะห์กันว่า ด้วยความเชื่อทางศาสนาอันแรงกล้าจึงเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนสร้างสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ขึ้นมา ประมาณว่าทำเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ แถมตอนนั้นก็ยังไม่มีเครื่องมือที่ทำจากโลหะเสียด้วยซ้ำ คาดว่าเทพเจ้าของพวกเขาคงน่ากลัวไม่หยอก ถึงทำได้ขนาดนี้ ก็ได้แต่หวังแหละว่าคงไม่มีนักโบราณคดีคนไหนไปร่ายคาถาโบราณเพื่อปลุกเทพเจ้าของพวกนี้ขึ้นมา

 

 

 

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
neutralart's profile


โพสท์โดย: neutralart
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
น้องเต้าหู้แจกไข่ให้ชาวบ้าน แต่กลับเจอมนุษย์ป้ารุมเข้ามาจัดการ ทำเอาน้องอึ้งจนพูดไม่ออก เห็นแล้วรู้สึกอายแทนจริงๆเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 มาแน่! คนทั่วไปรับผ่านดิจิทัลวอลเล็ต กระตุ้นเศรษฐกิจปี 2568โรเซ่ในลุค number one girl ของไต้หวันเลขเด็ด เลขมาเเรง เลขดัง "รวมหวยเด็ดสำนักดัง vol.14" งวดวันที่ 2 มกราคม 2568เพลง “ไก่” จากเป้ อารักษ์ เพลงเก่าสุดยูนีค ที่กำลังเป็นไวรัลอีกครั้งรีวิวหนังดัง SAVAGES คนเดือดท้าชนคนเถื่อนเพชรปากปลาร้าหน้าเป๊ะ ลองทาลิปสติกบนปาก ทำเอาทัวร์ลงสนั่น ร้านค้ารับเรื่อง สั่งให้โละยกแผงเลย!มะกล่ำตาหนูคนไหนดี Sold out ไปทีละคนๆ แก๊งพระเอก แก๊งคนดีที่ไหน แต่งงานไปแล้ว2 มีแฟนรักแฟนมากไปอีก2 เหลือหนึ่งเดียวคนนี้คือพี่เกรท วรินทร50 ข้อแนะนำ!! เพื่อชีวิต "ราบรื่น" ในปี 2025จินโทนิก จากยารักษาโรคภัยในอดีต สู่ยารักษาโรคใจ ค็อกเทลฮิตติดอันดับโลกหนุ่มจีนหน้าเหลี่ยมเพราะ "เคี้ยวหมากฝรั่ง" หนักมาก เผยภายใน 8 ปี เสียค่าหมากฝรั่งไปกว่า 2 ล้านบาท
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
เพชรปากปลาร้าหน้าเป๊ะ ลองทาลิปสติกบนปาก ทำเอาทัวร์ลงสนั่น ร้านค้ารับเรื่อง สั่งให้โละยกแผงเลย!Labubu คอลเลคชั่นใหม่ เปิดขายไทย แต่คนจีนเหมาเกลี้ยง!โรเซ่ในลุค number one girl ของไต้หวันรีวิวหนังดัง SAVAGES คนเดือดท้าชนคนเถื่อนคนไหนดี Sold out ไปทีละคนๆ แก๊งพระเอก แก๊งคนดีที่ไหน แต่งงานไปแล้ว2 มีแฟนรักแฟนมากไปอีก2 เหลือหนึ่งเดียวคนนี้คือพี่เกรท วรินทร
ตั้งกระทู้ใหม่