หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ผักที่ไม่ควรทานดิบ 10 ชนิด ทานแล้วเสี่ยงอันตรายถึงชีวิต

เนื้อหาโดย มีแมวมั้ยคะ

ผักที่ไม่ควรทานดิบ 10 ชนิด ทานแล้วเสี่ยงอันตรายถึงชีวิต

 

1 หน่อไม้
หน่อไม้ เนื่องจากมีสารไซยาไนด์ (Cyanide) ซึ่งหากบริโภคในปริมาณมากสารนี้จะไปจับเม็ดเลือดแดงทำให้ร่างกายขาดออกซิเจน หมดสติ และอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ แต่สารเหล่านี้กำจัดได้ด้วยความร้อนโดยการล้างให้สะอาดนำมาต้มในน้ำเดือดประมาณ 10 นาทีก่อนสามารถรับประทานได้ค่ะ

 

2 กะหล่ำปลี
กะหล่ำปลีมีสารที่ชื่อว่า กอยโตรเจน (Goitrogen) สารที่ยับยั้งการสร้างฮอร์โมนของต่อมไทรอยด์ ทำให้ร่างกายดึงไอโอดีนจากเลือดไปใช้ได้น้อยกว่าปกติ จนอาจก่อให้เกิดโรคคอหอยพอกได้โดยสารนี้จะไปยับยั้งการนำไอโอดีนไปใช้ในการสังเคราะห์ไทรอยด์ฮอร์โมน ทำให้ต่อมไทรอยด์ทำงานได้ลดลงไปอีกดังนั้นผู้ป่วยไฮโปไทรอยด์จึงไม่ควรกินกะหล่ำปลีดิบ กอยโตรเจน (Goitrogen) สามารถถูกทำลายโดยการผ่านความร้อน ฉะนั้นจึงควรบริโภคกะหล่ำปลีแบบปรุงสุกจะดีกว่านะคะ

 

3 ถั่วงอก
ถั่วงอกต้องอาศัยความชื้นในการเจริญเติบโตและมีแบคทีเรียจากการเจริญเติบโต ถั่วงอกมักจะมีการปนเปื้อนแบคทีเรียซัลโมเนลลา และอีโคไล อีกทั้งยังมีสารโซเดียมซัลไฟต์ ซึ่งเป็นสารฟอกขาวที่เหล่าพ่อค้า แม่ค้ามักจะนำมาฟอกสีให้ถั่วงอกมีสีขาวน่ารับประทาน ถ้าหากนำถั่วงอกไปปรุงสุกก็จะช่วยทำลายเชื้อแบคทีเรีย และสารฟอกขาวได้ไม่ก่อให้เกิดอันตรายได้ค่ะ

 

4 ถั่วฝักยาว
การรับประทานถั่วฝักยาวแบบดิบ ๆ ในปริมาณมาก ค้นพบว่า ถั่วฝักยาว จะมีปริมาณไกลโคโปรตีน พร้อมทั้งเลคตินสูง สารชนิดนี้จะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน และเกิดอาการท้องเสียได้ในระยะเวลา 3 ชั่วโมง
และถั่วฝักยาวเป็นพืชที่ปนเปื้อนยาฆ่าแมลงสูงหากกินถั่วฝักยาวดิบ ๆ ที่มีการปนเปื้อนสารพิษเข้าไปจะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสียได้ หากชอบกินแบบดิบ ๆ ควรล้างให้สะอาดก่อน โดยหักเป็นท่อนแล้วนำไปแช่น้ำนาน ๆ รับประทานน้อยๆหรือไม่ก็เลือกกินแบบสุกจะปลอดภัยกว่านะคะ

 

5 ผักโขม
ผักโขมเป็นผักที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมาก แต่ผักโขมดิบ ๆ มีกรดออกซาลิก (Oxalic) จะส่งผลทำให้ลำไส้ของเราระคายเคือง ที่เป็นตัวขัดขวางไม่ให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กและนำแคลเซียมไปใช้ ซึ่งในภายหลังจะส่งผลทำให้เราเป็นโรคนิ่ว ผู้ที่มีภาวะการขาดธาตุเหล็ก และแคลเซียม ไม่ควรรับประทานตอนดิบ กรดออกซาลิกตัวนี้จะหมดฤทธิ์ทันทีเมื่อเจอความร้อน แต่สำหรับคนทั่วไปที่ไม่มีภาวะดังกล่าวก็ยังสามารถทานผักโขมดิบได้ค่ะ

 

6 ดอกกะหล่ำ
ดอกกะหล่ำ คนป่วยไฮโปไทรอยด์ต้องระวังหากจะกินดิบ ๆ เพราะดอกกะหล่ำก็มีกอยโตรเจนไม่สามารถนำมารับประทานแบบดิบ ๆ ได้ และดอกกะหล่ำยังคงมีน้ำตาลชนิดหนึ่ง ที่ส่งผลกระทบต่อกลุ่มคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร ซึ่งจะไม่สามารถย่อยน้ำตาลชนิดนี้ได้ ส่งผลทำให้เกิดอาการท้องอืด และรู้สึกแน่นท้อง ถ้าหากคุณต้องการรับประทานควรนำกะหล่ำมาปรุงให้สุกจะดีกว่านะคะ

 

7 บร็อคโคลี่
บร็อคโคลี่พืชตระกูลเดียวกันกับกะหล่ำปลี มีสารกอยโตรเจน (Goitrogen) ซึ่งจะทำให้ร่างกายใช้ไอโอดีนได้ไม่เต็มที่ จึงมีน้ำตาลที่ส่งโทษทำให้เกิดอาการท้องอืดได้เช่นกัน และยังมีฮอร์โมนบางชนิด ที่กระตุ้นทำให้เกิดโรคไทรอยด์ได้อีกเช่นเดียวกับกะหล่ำปลี ดังนั้นควรปรุงให้สุกก่อนรับประทานจะดีกว่านะคะ

 

8 มันฝรั่ง
มันฝรั่งห้ามรับประทานดิบเด็ดขาด เนื่องจากมีสารไซยาไนด์ชนิดเดียวกับหน่อไม้ดิบ ซึ่งหากบริโภคในปริมาณมากสารนี้จะไปจับเม็ดเลือดแดงทำให้ร่างกายขาดออกซิเจน หมดสติ และอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ และมีพิษขัดขวางการทำงานของระบบหัวใจและทางเดินโลหิต ทำให้ออกซิเจนเข้าสู่เซลล์สมองน้อยลง หรือเบาะ ๆ อาจเกิดอาการเวียนศีรษะ ปวดหัว ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน หรืออุจจาระร่วง ควรนำไปต้มในน้ำเดือดประมาณ 10 นาทีก่อนเพื่อลดปริมาณสาร หรือนำไปปอกเปลือก และทำให้สุกด้วยความร้อนจะดีกว่านะคะ

 

9 เห็ด
เห็ดส่วนประกอบสำคัญอย่างหนึ่ง ก็คือสารไคติน chitin ในผนังเซลล์ของเห็ด ซึ่งถ้านำมากินดิบๆ ก็อาจจะย่อยยาก และได้รับสารอาหารน้อย เห็ดสดที่มีเนื้อสีขาวทั่วไปมักจะตรวจพบสาร
อะการิทีน (Agaritine) ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งชนิดหนึ่ง แต่สารเหล่านั้นจะสลายไปได้เองหากเห็ดเหล่านั้นผ่านการปรุงสุกแล้วค่ะ

 

10 มันเทศ
มันเทศ รวมถึงมันหวานสีต่าง ๆ มีสารไซยาไนด์ (Cyanide) อยู่เช่นเดียวกับมันสำปะหลัง และหน่อไม้ ถึงแม้มีปริมาณน้อยกว่าแต่ก็อันตรายไม่แพ้กันนะคะ นอกจากนี้ หัวมันเทศยังมีสารออกซาเลต (Oxalates) ที่มีฤทธิ์ในการยับยั้งการดูดซึมแคลเซียม และแร่ธาตุสำคัญหลายชนิด อาจเพิ่มความเสี่ยงเกิดโรคนิ่วในไตได้ค่ะ ควรล้างทำความสะอาดก่อนนำมาผ่านความร้อนสัก15-20 นาที ไม่ควรรับประทานดิบ ๆ นะคะ

เนื้อหาโดย: มีแมวมั้ยคะ
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
มีแมวมั้ยคะ's profile


โพสท์โดย: มีแมวมั้ยคะ
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เกินไปไหม ยำหมูยอไข่แดงเค็ม 189 บาทรถกระบะเสียหลักชนรถพ่วง10ล้อ​ บาดเจ็บระนาวลิซ่าเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วนะกล้าหาญมาก เลี้ยงอีโบ้ไว้ ไม่เสียข้าวสุกเลยจริงๆป่าลึกลับแห่ชื่นชม สาวช่วยชีวิตนกน้อยหมดแรงกกต. ยื่นศาลฎีกา ชี้ขาดแจกใบดำ-ใบแดง "สมชาย เล่งหลัก" ผู้สมัคร สส.สงขลา ภูมิใจไทย ให้ลูกน้องเตรียมซื้อเสียงงูยักษ์ขวางประตูโรงเรียน! ครูผวาเกือบเป็นลมพายุฤดูร้อนพัดถล่ม รพ.อุตรดิตถ์ หนักสุดในรอบหลาย 10 ปี
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
แห่ชื่นชม สาวช่วยชีวิตนกน้อยหมดแรงงูยักษ์ขวางประตูโรงเรียน! ครูผวาเกือบเป็นลมป่าลึกลับ
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
รีวิวหนังสือ EGO IS THE ENEMY ตัวคุณคือศัตรูเจ้าจอมคนสุดท้ายรัชกาลที่ 5เงินดิจิตอล 10,000 บาท ช้อปปิ้งอะไรคุ้ม? เตรียมตัวให้พร้อมก่อนใช้Google rewards
ตั้งกระทู้ใหม่