พรสวรรค์สู่การ "ทำเงิน"
พรสวรรค์สู่การ "ทำงิน"
"พรสวรรค์" คือสิ่งที่ติดตัวมาตั้งแต่ก่อนเกิด เพราะฉะนั้น การทำเงินก็อาจจะติดตัวมาตั้งแต่ก่อนเกิดด้วยเหมือนกัน
ทำ...คือความคิด คำพูดและการกระทำ ( ที่นำมาซึ่งเงิน )
เงิน...คือวัตถุสมมติที่ใช้ในการแลกเปลี่ยน
"เงิน" ก็เหมือนกับคนและสัตว์ทั่วๆไป คือชอบอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่สุขสบาย ไร้ปัญหา เงินจึงมักเดินทางไปอยู่กับคนที่มีน้ำใจ มากกว่าคนเห็นแก่ตัว เพราะคนที่เห็นแก่ตัวนั้น จะไม่แยแสผู้ใด รวมทั้งคน สัตว์ สิ่งของที่อยู่รอบตัวด้วย ดังนั้น...เราพึงศึกษาพฤติกรรมที่นำมาซึ่งเ "เงิน"
1.รักในสิ่งที่ทำ...ในเมื่อคุณจะทำเงิน คุณก็ต้อง "รักเงิน" รักด้วยความสุจริตใจ การรักเงินก็เหมือนกับการรักคน เมื่อเราได้ครอบครองบุคคลอันเป็นที่รักแล้ว เราก็อยากจะปกป้อง คุ้มครอง มอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเขา เช่นปัจจัย 4 ที่ละเอียดประณีต "เงิน" ก็เช่นเดียวกัน เงินต้องการปัจจัย 4 ที่ละเอียดประณีต ต้องการการดูแลเอาใจใส่จากผู้ที่เป็นเจ้าของ ต้องการให้เจ้าของเงินแสดงความรักความห่วงใยให้กับเงิน เมื่อเงินมีความสุขที่ได้อยู่กับคนแล้ว "เงิน" ก็จะเชิญชวน ญาติสนิทมิตสหาย สัมพันธชน มาอยู่ในกระเป๋าเงินใบเดียวกันนั้นด้วย จนกระทั่งเจ้าของเงินหากระเป๋าใหม่แทบไม่ทันเลยที่เดียว
รักเงินรักยังไง?
1.เงินสกปรก...ทำให้สะอาด
2.เงินยับ...ทำให้เรียบ
3.เงินกองระเกะระกะ...ทำให้เป็นระเบียบ
4.เงินที่ถูกพับตรงหัวมุม...กรีดให้เข้าที่
5.เงินที่ถูกม้วน...คลี่ให้ออก
6.เงินเก่าเงินใหม่...เรียงพี่เรียงน้องให้ดี
7.อย่าโยนเงิน...จงเคลื่อนย้ายเงินอย่างสุภาพนุ่มนวล
8.อย่ายัดเยียดเงินลงไปในที่ลับ ของต่ำหรือของสกปรก...เช่น กางเกงใน ถุงเท้า ร่องตูด หลืบ_ี เป็นต้น
9.หมั่นทำความสะอาด และเหยาะน้ำหอมลงไปในกระเป๋าเงิน ( บ้างก็ดี )
10.อย่านำเงินไปแลกกับสิ่งของที่ไม่ดี เพราะเท่ากับเราตีค่าว่าเงินคู่ควรกับสิ่งไม่ดี ณ จุดนี้ จึงไม่ใช่ความรัก
2.เพียรพยายามในสิ่งที่ทำ...แค่การรักเงินอย่างเดียว ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะมีเงินเข้ามาอยู่ในกระเป๋าเลยทันที ณ จุดนี้ "คุณ" ต้องพิสูจน์ตัวเอง และแสดงให้เงินได้เห็นว่า คุณรักและอยากใช้ชีวิตอยู่กับเงินมากเพียงใด ในขั้นตอนนี้คุณอาจต้องแลกกับทรัพย์สมบัติอันล้ำค่าบางอย่าง เพื่อให้ได้มาซึ่งเงิน...อุปมาเหมือนกับการสู่ขอหญิงสาวมาเป็นลูกสะใภ้นั่นแหละ ก็ต้องแลกเปลี่ยนกับเงินทองของมีค่า และบุตรชายอันเป็นที่รักดั่งแก้วตาดวงใจ แต่ในเมื่อคุณเห็นคุณค่าของหญิงสาวผู้นั้น คุณจึงพิสูจน์ให้ฝ่ายตรงข้ามเห็นว่า คุณรักและเอ็นดูบุตรีของเขาไม่น้อยไปกว่าบุตรชายของตัวเอง
ซึ่งขั้นตอนการพิสูจน์ตัวเองนี้...จะเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า หรือว่าสุขสบาย ก็ขึ้นอยู่กับวิบากกรรมของแต่ละคน แต่สุดท้ายก็จะจบลงด้วยความปรีดี ( แฮปปี้ )
3.มีเป้าหมายที่ชัดเจน...ในขั้นตอนนี้ ถ้าคุณรักเงิน อยากได้เงินและอยากใช้เงิน คุณก็ต้องเอาใจใส่เงินมากเป็นพิเศษ คือมีจิตจดจ่ออยู่ที่ตัวเงินนั่นเอง...แม้ว่าตอนนี้คุณจะได้เงินหรือไม่ได้เงินก็ตาม จงมองไปที่ภาพสำเร็จ ทำความรู้สึกประหนึ่งว่า "คุณ" มีเงินอยู่ในครอบครองแล้ว จงทำจิตใจให้ผ่องใส เบิกบาน ราวกับเป็นผู้ที่ครอบครองทรัพย์สมบัติมหาศาล เมื่อคุณมีจิตจดจ่ออยู่ที่เงิน ก็จะไม่มีสิ่งอื่นใด โน้มเอียงจิตใจของคุณได้ในระหว่างที่คุณกำลังทำเงิน หรือเดินทางไปหาตัวเงินอยู่ แล้วเมื่อนั้นคุณก็จะได้ครอบครอบ "เงิน" สมใจปรารถนา
4.เข้าใจในสิ่งที่ทำ...เมื่อคุณคิดจะทำเงิน คุณก็ต้องเข้าใจให้ได้ด้วยว่า คุณทำเงินไปเพื่ออะไร เพราะถ้าเกิดว่าคุณไม่เข้าใจผลลัพธ์หรือเป้าหมายของการทำเงิน คุณอาจจะเบื่อหน่าย เกียจคร้านที่จะทำเงินได้ในที่สุด แล้วคุณก็อาจจะหันกลับไปทำงานเหมือนเดิม ซึ่งมันเป็นขั้นตอนที่ละเอียด ลึกซึ้ง
เมื่อคุณได้ศึกษาแล้วว่าการทำงานกับการทำเงินนั้น แตกต่างกันยังไง คุณย่อมรู้ดีอยู่แล้วว่า แม้คุณจะทำอะไรก็ตาม สิ่งที่คุณทำลงไปก็เพื่อให้ได้มาซึ่ง "เงิน" แล้วหลังจากนั้น คุณก็สามารถนำเงินที่คุณหามาได้ ไปแลกเปลี่ยนกับคน สัตว์ สิ่งของที่คุณอยากได้ แต่กระบวนการทำเงินนั้น จะเป็นเสมือนเส้นทางลัด ที่ทำให้คุณไม่ต้องสิ้นเปลืองเรี่ยวแรง หรือหยาดเหงื่อแรงงานมากไปกว่าการทำงานทั่วๆไป
ดังนั้น...การทำเงิน จึงเป็นเป้าหมายที่สูงสุดในชีวิตประจำวันของคน ที่ยังต้องเวียนว่ายตายเกิดอยู่กับการ "กิน ขี้ ปี้ นอน" หรือแม้แต่คน สัตว์ สิ่งของอันเป็นที่รัก...ไม่มีสิ่งใดที่จะให้สิ่งที่รักได้ดีเท่ากับการ "ทำเงิน" อีกแล้ว ไม่มี!!!
https://thestupidarticles.blogspot.com/
https://www.facebook.com/khonsarapadkee