หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ระเบิดนิวเคลียร์ลูกแรกที่ฮิโรชิม่าและโกหกคำโตของ ปธน.แฮร์รี ทรูแมน?

โพสท์โดย SpiderMeaw

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่รับปากเอาไว้ว่าจะเขียนเมื่อคืนที่มีคนกด Follows ครบ 3,000คนแต่ผมก็มีอะไรอย่างอื่นให้ทำตัดหน้าไปสองคืน วันนี้ถ้าไม่เริ่มเอามาลงให้อ่านก็คงผลัดไปอีกเรื่อยๆ เรื่องนี้ผมเคยเขียนไว้นานแล้วที่วีคเอ็นด์ ครั้งนี้เป็นเพียงแต่ Edit แล้วเอามาลงอีกครั้งบน FB


ที่ผมต่อเรื่องช้าไปเป็นวันไม่ใช่เพราะอู้ไม่อยากเขียนนะครับ

รูปในพิพิธภัณฑ์สันติภาพฮิโรชิม่าเป็นรูปที่เลือกยากมากชุดหนึ่งของการเขียนของผมเลย จะว่ามันเป็นรูปที่เลือกประกอบยากที่สุดในชีวิตก็ว่าได้ เพราะมันแสดงถึงความโหดร้ายจนผมไม่กล้าเอาบางรูปลง

จะเลือกรูปเบาๆลงแบบหนังเยาวชนเด็กดูได้ เนื้อเรื่องที่ผมเขียนก็ไม่ต่อเนื่องจนเรื่องราวเสียไปหมด ผมลองย้อนมาอ่านก่อนลงให้ดู เรื่องตัวปรับให้เบาลงมันจะกลายเป็นการจุดประทัดวันตรุษจีนไม่ใช่ระเบิดปรมาณูลงใส่หัวคนเป็นแสนตาย

ให้ผมเขียนเรื่องแนวของ ซาดาโกะ หรือ แอนด์แฟร้งค์ หรือค่ายนาซีที่เอ้าซ์วิตช์ ที่ผมเขียนไปน้ำตาไหลไปยังง่ายกว่าเขียนตามที่ผมเห็นรูปและอ่านป้ายใบปิดข้างตู้ในวันนั้น

รอไปก่อนครับ จะเอาแบบที่คนอเมริกันโปรประกันดาที่บอกว่าฮิโรชิม่าชิวๆ หรืออยากจะดูเรื่องจริงๆภาคของคนญี่ปุ่นที่เกิดขึ้นวันนั้นแบบโหดร้ายผมยังตัดสินใจไม่ได้ แล้วอ่านอย่ากได้แบบไหนกันล่ะ แบบซินเดอเรลล่าชิวๆของคนอเมริกันหรือแบบของผมที่เดินเรื่องตามเนื้อหาในพิพิธภัณฑ์ แต่ผมเตือนก่อนว่าเอาเรื่องและรูปตามใจผมมันโหดจนบางคนอ่านแล้วนอนไม่หลับ


ก่อนที่ผมจะพาเข้าเนื้อเรื่อง ผมอย่างเล่าเรื่องประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นให้เฟังก่อน คนที่เรียนและสนใจประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นมีไม่กี่คนจะเข้าใจถึงเส้นทางเดินของชะตากรรมของคนญี่ปุ่น แต่ระดับชาวบ้านทั่วไปไม่มีโอกาสจะได้อ่านกันหรอกครับ เอาแค่ประวัติศาสตร์ของตัวเองและเพื่อนบ้านติดกับประเทศเรายังหาคนอ่านกันยากเลย

ผมมันคนชอบอ่านประวัติศาสตร์เลยรู้สึกไม่ลำบากอะไรที่จะเล่าเรื่องญี่ปุ่นย้อนหลังไปสักสามสี่รัชกาล

ทั้งโลกได้รับรู้ถึงความโหดร้ายของระเบิดในครั้งนั้นแต่จะมีสักกี่คนที่รับรู้ถึงสาเหตุที่ประชาชนได้รับเคราะห์ที่ตัวเองไม่ได้ก่อในครั้งนี้ ความโหดร้ายคลั่งสงครามของญี่ปุ่นต้องเริ่มจากสมัยเมจิ Meiji ที่จักรพรรดิ์มัสสุฮิโต Mutsuhito ขึ้นครองราชย์ในปี 1867 การขึ้นครองบัลลังค์ของจักรพรรดิ์องค์ใหม่อายุ 15 พรรษาที่ทำให้ระบบฟิวดัลลอร์ด แบบโชกุนตระกูลโตกูกาว่าที่มีอายุ 256ปีต้องล้มลงไป



คนที่ดูหนังเรื่อง The last samurai จะเห็นภาพของการล่มสลายของระบบโชกุนจากจักรพรรดิ์หนุ่มได้ดี ทำให้ผมย้อนคิดถึงการปฎิวัติระบบราชการของพระพุทธเจ้าหลวงที่อยู่ในยุดเดียวกันสมัยเมจิของจักรพรรดิ์มัสสุฮิโต และได้ทรงลดอำนาจของตระกูลบุนนาคที่ชี้ตายชี้เป็นในราชสำนักที่มีมาตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยาลงจนสิ้น ครั้งนั้นคือต้นกำเนิดของประเทศไทยยุคใหม่ที่พัฒนาขึ้นมาจนพ้นระบบเก่า

นอกจากระบบโชกุนได้ล่มลงแล้วระบบการปกครองขุนนางที่มีไดเมียวดูแลก็ล้มลงไปด้วยกลางเป็นผู้ว่าราชการแทน สิ่งที่เติบโตมาพร้อมกันคือระบบทหารสมัยใหม่แทนระบบซามูไรใต้การดูแลของโชกุนที่ล้มลงไป ระบบทหารสมัยใหม่ของญี่ปุ่นเติบโตเร็วมากและแข็งแกร่งที่สุดของภูมิภาคเลยก็ว่าได้ ในยุคเมจิได้ทำสงครามลดอำนาจของพวกล่าอนานิคมยุโรปให้ออกจากจีน ทำสงครามกับรัสเซียจนรัสเซียเสียกองเรือไปถึงสองในสามของประเทศ ทำสงครามยึดแมนจูเรียทำให้ญี่ปุ่นได้กำไรจากสงครามนำเงินจากจีนเข้าประเทศได้ถึงสามเท่าของมวลรวมทั้งประเทศ


ดังนั้นการเดินผิดทางของญี่ปุ่นจึงเริ่มขึ้น ทหารและสงครามคือทรัพยากรที่หล่อเลี้ยงญี่ปุ่นแทนที่จะเป็นอุตสาหกรรมอย่างมิตซุยและมิตซูบิชิที่กำลังเติบโต

มีสักกี่คนที่รู้ว่าเราสั่งซื้อเรือดำน้ำชุดแรกของประเทศไทยมาจากญี่ปุ่นเมื่อเกือบร้อยปีที่แล้ว บริษัทมิตซูบิชิต่อเรือชุดนี้ขายเราทั้งที่ก่อนหน้านั้นไม่กี่สิบปีเท็คโนโลยีของเรากับญี่ปุ่นไม่ได้แตกต่างกันเลย

หลังจากจักรพรรดิ์มัสสุฮิโต Mutsuhito สวรรค์คตลงในปี 1912 เป็นการเปลี่ยนยุคจากเมจิ Meiji เป็นไทโช Taisho จักรพรรดิ์องค์ใหม่ก็ขึ้นครองราชนั่นคือจักรพรรดิ์โยชิฮิโต Yoshihito เนื่องจากจักรพรรดิ์องค์นี้อ่อนแอ บัลลังค์ที่นั่งอยู่ก็โดนระบบทหารที่แข็งแกร่งบริหารงานแทนตลอดช่วงแรกของรัชกาลทำให้ระบบทหารที่แข็งแรงมาตั้งแต่สมัยเมจิยิ่งแกร่งถึงขนาดกำหนดชะตาของประเทศได้โดยตรงจักรพรรดิ์เหมือนเพียงตราประทับความชอบธรรมให้ระบบทหารเท่านั้น บทบาทของการปกครองระบบรัฐสภาขึ้นแทนระบบเก่าอย่าสิ้นเชิง การบริหารประเทศอยู่ในมือของทหารและสภาจนหมดยุคไตโฮในปี 1926 แล้วก็ต่อด้วยยุคโชวะ showa ขึ้นครองราชโดยจักรพรรดิ์ฮิโรฮิโต Hirohito


อะฮ้า.. ฮิโรฮิโต ชื่อนี้เริ่มคุ้นแล้วใช่ไหมครับ ผมเล่าแค่สามรัชกาลเอง ยังไม่ได้เล่าถึงนายพลยามาโมโตนั่งบัญชาการเป็นนายกรัฐมนตรีสามสมัยในสมัยไตโฮแล้วยัดใส้งบประมาณทหารจนทหารญี่ปุ่นมีงบประมาณสูงระดับต้นๆของโลกเลยนะเนี่ย

พอขึ้นสมัยโชวะที่นั่งบัลลังค์โดยจักรพรรดิ์ฮิโรฮิโตระบบทหารก็เข้าคุมประเทศแบบเบ็ดเสร็จ ลัทธิชาตินิยมถูกเข้ามาใช้หล่อหลอมประเทศและประชาชนจนแทบจะให้นักเรียนแต่งชุดทหารไปเรียนหนังสือกันทีเดียว ทุกวันนี้ยังทิ้งมรดกชุดนักเรียนชายสีดำอกแข็งไว้ให้ดูถึงรากเง้าของระบบชาตินิยมของสมัยนั้น

การปกครองแบบรัฐทหารได้พัฒนาขึ้นเรื่อยๆพร้อมกับลัทธิชาตินิยมแบบสุดโต่งเลือดบูชิโดเดือดพล่านในกายของนักรบทุกคน การเสริมกำลังกองทัพมีอย่างไม่สิ้นสุดจากการดูดเอาทรัพยากรของจีนมาแบบไม่อั้น เรื่องน่าอัปยศของญี่ปุ่นต่อจีนและเกาหลีส่วนมากก็เกิดในยุคนี้แหละ เมืองนานกิงกลายเป็นนรกก็ยุคนี้

คนที่เคยอ่านเรื่อง Rape of nanking คงนึกภาพออกว่าความโหดของระบบปกครองแบบทหารของญี่ปุ่นเป็นอย่างไร


คนจีนที่นานกิงถูกเอามาเป็นหนูตะเภาทดสอบทางวิทยาศาสตร์และอาวุธทางการทหาร ถูกฆ่าข่มขืนแบบล้างเผ่าพันธุ์จนตายไปเป็นแสนๆคน บางครั้งกรรมอันนี้แหละมั้งที่กลับมาสนองญี่ปุ่นที่ฮิโรชิม่าและนางาซากิ

ลัทธิทหารต้องการทรัพยากรมาหล่อเลี้ยงกองทัพแบบหยุดไม่ได้ดังนั้นการรุกราณเพื่อนบ้านแผ่ขยายออกไปถึงฟิลิปินส์ อินโดนีเซียและอินโดจีนมาลายูรวมถึงไทยในที่สุดเมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่สองที่ญี่ปุ่นจับมือกับเยอรมันและอิตาลีก่อสงครามโลก อาจจะพูดได้ว่าแปซิฟิกตะวันตกตั้งแต่รัสเซียตอนล่างถึงคาบสมุทรมาลายูเลยไปถึงอินโดนีเซียเป็นของญี่ปุ่นทั้งหมด


แต่ญี่ปุ่นไปพลาดแบบมหันต์ที่ไปแหย่เสือหลับแบบอเมริกาเข้าที่ เพอร์ฮาเบอร์ จนอเมริกาต้องโดดลงมาขยี้ญี่ปุ่นจนเละไปทั้งประเทศ

ผมเกลียดระบบทหารของนายพลคลั่งสงครามและจักรพรรดิ์ไม่กี่คนในโตเกียวทำให้คนญี่ปุ่นและเพื่อนร่วมภุมิภาคต้องตายไปหลายสิบล้านคน ประชาชนคนญี่ปุ่นไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรต้องมาตายด้วยแบบไร้ความปราณีจากความคลั่งของไอ้แก่อ้วนๆไม่กี่คน เด็กหนุ่มที่โดนล้างสมองจากลัทธิทหารต้องออกไปตายนอกบ้านเป็นล้านคน

ประชาชนที่ไม่รู้เรื่องบนเกาะโอกินาวาและเกาะไซปันต้องรบจนตายไปเป็นหมื่น เด็กและผู้หญิงต้องโดดหน้าผาตายเป็นพันคนเพราะระบบทหารที่ไปเป่าหูให้สู้กับอเมริกันที่บุกมายึดเกาะนี่แหละว่าอเมริกันมันจะฆ่าข่มขืนทุกคนบนเกาะ ดังนั้นประชาชนก็ต้องสู้ตามทหารเพราะไม่อยากให้ลูกเมียต้องตกอยู่ในสภาพแบบนั้น

นี่แหละความเลวของสงคราม ความเลวของระบบทหารที่ญี่ปุ่นเดินหลงทางไปแปดสิบกว่าปี


ผมเล่าตั้งแต่สมัยเมจิของจักรพรรดิ์มัสสุฮิโตที่เริ่มระบบทหารจนถึงสมัยโชวะของจักรพรรดิ์ฮิโรฮิโตคราวนี้เห็นแล้วใช่ไหมครับว่าระบบการปกครองแบบคลั่งชาติคลั่งระบบทหารถือปืนนำหน้าเป็นอย่างไร และผลที่ออกมาเป็นอย่างไร

ผมพอเท่านี้ก่อนดีกว่า ไม่อย่างนั้นผมจะเล่าเรื่องประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นไปเรื่อยจนฟังแล้วหลับไปก่อน

พรุ่งนี้ผมจะเล่าเรื่องมุมมองของอเมริกาว่าทำไมต้องทิ้งระเบิดลูกนี้


ข้อเท็จจริงบางอย่างที่อเมริกันยกเหตุผลขึ้นมาเท่าที่ผมหาได้ในขณะนั้น

ระเบิดเทียบเท่า TNT 20กิโลตันที่ทิ้งลงฮิโรชิม่ายังน้อยกว่าระเบิดทั้งหมดที่ทิ้งลงโตเกียว คนที่โตเกียวตายมากกว่าที่ฮิโรชิม่า บ้านเรือนที่โตเกียวพังเสียหายมากกว่าที่ฮิโรชิม่า ดังนั้นทิ้งระเบิดที่ฮิโรชิม่าแล้วหยุดสงครามได้ก็น่าจะทำ

ทิ้งระเบิดลูกเดียว 20กิโลตันมันไร้ความเมตตามากกว่าระเบิดสองหมื่นลูกที่โตเกียวอย่างไรกัน ถ้าสองหมื่นลูกแล้วมียังมีคนอเมริกันตายเพิ่มทุกวันอย่างนั้นทิ้งลูกเดียวแล้วจบเรื่องน่าทำกว่า

ระเบิดธรรมดาที่ทิ้งในโตเกียวทุกวันไม่มีเด็กหรือคนแก่ตายหรืออย่างไร ทำไมทิ้งระเบิดปรมาณูแล้วโดนด่าว่าโหด ทีญี่ปุ่นมันบุกนานกิงหรือเกาหลีมันก็ฆ่าไม่เลือกเด็กคนแก่เหมือนกันนั่นแหละ

นายพลเชอร์แมนเคยพูดไว้ว่าสงครามมันโหดร้ายไม่มีใครทำให้มันบริสุทธิ์ได้หรอก ใครเป็นคนนำสงครามมาบ้านของเรา พวกเราก็มีสิทธิ์จะตอบโต้

ระเบิดปรมาณูมันไม่ได้โหดกว่าการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของนาซีหรอก คนญี่ปุ่นยังตายไม่ถึงสิบเปอร์เซ็นต์ของชาวยิวในเยอรมันเลย ถ้ามันหยุดการตายของทหารอเมริกันในอนาคตได้ทำไมถึงจะไม่ทำ

ใครต่อต้านว่าคนสั่งให้ทิ้งระเบิดมันไร้ความปราณีแสดงว่าคนนั้นไม่มีลูกชาย พี่ชาย น้องชาย หรือแม้กระทั่งพ่อ ที่ถูกส่งออกไปอยู่ในสนามรบ ถ้าระเบิดทำให้คนของเขาของเขากลับบ้านมาได้ คนพวกนี้จะต่อต้านการทิงระเบิดหรือไม่

สงครามไม่โหดร้ายไม่มีในโลกนี้ มันคือพื้นฐานของสงคราม ถ้าระเบิดลูกนั้นทำให้ญี่ปุ่นยอมแพ้แบบไม่มีเงื่อนไขได้ก็สมควรที่จะใช้มันหยุดสงครามเสีย

จักรพรรดิ์ฮิโรฮิโตคือคนเริ่มสงครามแต่ประธานาธิบดีทรูแมนคือคนทำให้มันจบ ถ้าอยากจะหาจำเลยของความตายจากระเบิดปรมาณูก็ไปไล่ความผิดที่คนเริ่มสงครามดีกว่า

ทั้งหมดนี่อเมริกาพูดนะครับไม่ใช่ผมพูด ผมคัดเอาโปรประกันดาของอเมริกันในยุคนั้นออกมาเล่าให้ฟัง


ผมอยากให้อ่านอะไรบางอย่างที่ประธานาธิบดีทรูแมนพูดออกอากาศทางวิทยุในวันที่ 9 สิงหาคม 1945 หลังจากระเบิดลูกที่สองทิ้งลงนางาซากิเรียบร้อยแล้ว

......โลกต้องบันทึกไว้ว่าระเบิดปรมาณูลูกแรกที่ทิ้งลงฐานทัพทหารที่ฮิโรชิม่า นั่นเป็นเพราะว่าเราหวังที่จะหลีกเลี่ยงการฆ่าประชาชนในการโจมตีครั้งแรกนี้อย่างที่สุด การโจมตีนี้เป็นเพียงการเตือนถึงสิ่งที่จะตามมาถ้าญี่ปุ่นยังไม่ยอมแพ้ ระเบิดจำเป็นต้องถูกทิ้งลงอีกในย่านอุตสาหกรรมสงคราม ซึ่งน่าเสียดายที่ชีวิตประชาชนนับพันจะต้องสูญสิ้นไป ข้าพเจ้าอยากแนะนำให้ประชาชนชาวญี่ปุ่นจนหนีออกจากเมืองอุตสาหกรรมโดยทันทีเพื่อรักษาชีวิตเอาไว้จากการทำลายล้าง.....

....เราได้ใช้มันทำให้สงครามที่เจ็บปวดสั้นลงเพื่อที่จะรักษาชีวิตนับพันๆของเด็กหนุ่มชาวอเมริกัน

.....เราจะใช้มันไปเรื่อยจนกว่าจะทำลายล้างญี่ปุ่นผู้ก่อสงครามจนหมดสิ้น.....

.....The world will note that the first atomic bomb was dropped on Hiroshima, a military base. That was because we wished in this first attack to avoid, insofar as possible, the killing of civilians. But that attack is only a warning of things to come. If Japan does not surrender, bombs will have to be dropped on her war industries and, unfortunately, thousands of civilian lives will be lost. I urge Japanese civilians to leave industrial cities immediately, and save themselves from destruction.....

......We have used it in order to shorten the agony of war. In order to save the lives of thousands and thousands of young Americans.........

.....We shall continue to use it until we completely destroy Japan's power to make war. nly a Japanese surrender will stop us.....

Truman delivered his speech from the White House at 10 P.M. Washington time on August 9, 1945. By this time, a second atomic bomb already had destroyed the city of Nagasaki


ผมไม่อยากใช้คำว่าตอแหลกับคนระดับประธานาธิบดีหรอกครับ แต่โกหกคนทั้งโลกมันไม่ง่ายอย่างที่คิดหรอก การโกหกคนจำนวนมากมันทำได้เพียงช่วงเวลาหนึ่ง แต่โกหกตลอดไปไม่ได้

ประการแรกเลยคือ ทรูแมนบอกว่าระเบิดที่ทิ้งลงที่ฮิโรชิม่าเป็นการทิ้งลงเป้าหมายทางการทหาร (Hiroshima, a military base) แต่ความจริงคือระเบิดทิ้งลงกลางใจเมืองที่มีประชาชนอยู่หนาแน่น อันนี้โกหกแบบคำโตเลยทีเดียว

ประการที่สอง ทรูแมนบอกว่าอาจจะมีประชาชนตายบ้างนับพันคน ( unfortunately, thousands of civilian lives will be lost) แต่ที่จริงมีประชาชนตายเป็นแสน

ประการที่สามทรูแมนบอกว่าการทิ้งระเบิดเป็นการช่วยให้สงครามปิดฉากเร็วขึ้นเด็กหนุ่มอเมริกันจะกลับบ้านอย่างปลอดภัย แต่นโยบายของอเมริกันต้องการเพียงชัยชนะ สหรัฐไม่สนใจหรอกไม่ว่าจะเป็นการส่งเด็กหนุ่มอเมริกันไปตายวันเดียวเป็นเป็นพันเป็นหมื่นหมื่นคนจากการยกพลขึ้นบกที่หาดนอร์มังดี ยกพลขึ้นยกที่อิโวจิม่า ยกพลขึ้นบกที่เลเต้ ฟิลิปินส์ และ

ยกพลขึ้นบกที่ไซปัน ทุกสมรภูมิมีเด็กหนุ่มอเมริกันตายเกลื่อนหาดจนน้ำทะเลแดงไปด้วยเลือด


การตัดสินใจทิ้งระเบิดปรมาณูของประธานาธิบดีทรูแมนมีเอกสารน่าอ่านและศึกษามากจนผมไม่สามารถนำมาลงได้ทั้งหมด ถ้าสนใจศึกษาประวัติศาสตร์ให้ไปที่ลิงค์นี้ครับ ที่นี่คือเว็บห้องสมุดของประธานาธิบดีทรูแมน
http://www.trumanlibrary.org/whistlestop/study_collections/bomb/large/index.php

ผมอ่านหมดแล้วทุกฉบับ ดังนั้นข้อมูลข้างบนนี้ไม่มีพลาดว่ารัฐสภาและประธานาธิบดีกำลังคิดอะไรอยู่ในขณะนั้น

แต่เวลานั้นใช่ว่าจะไม่มีคนฉลาดรู้ทันทรูแมนว่าคิดอะไรอยู่ และที่ทรูแมนพูดออกมานี่มันตอแหลคำโตกลางอากาศเลย มีทั้งวุฒิสมาชิกสภาอเมริกันและองค์การศาสนารวมถึงผู้นำองค์กรออกมาประนามการโกหกของทรูแมน ลองอ่านตัวอย่างได้สักสองฉบับแล้วจะเข้าใจการตอแหลของทรูแมน


เอาตัวอย่างความคิดสตอเบอรี่รายวันของทรูแมนสักอันก็ได้ที่ตอบกลับ ท่าน สว.ริชชาร์ด รัสเซล ของจอร์เจีย ที่ออกมาต่อต้านการฆ่าประชาชนของทรรูแมน

ทรูแมนตอบทางโทรเลขว่า

.....ข้าพเจ้ารู้ว่าญี่ปุ่นนั้นสุดแสนจะโหดร้ายและเป็นชาติไร้ความศิวิลัยในการสงคราม ข้าพเจ้าทำให้ตัวเองเชื่อคล้อยตามที่ท่านบอกมาไม่ได้เพราะญี่ปุ่นคือสัตว์ร้าย เราต้องใช้วิธีการการตอบโต้ในแบบเดียวกัน

ในทางส่วนตัวข้าพเจ้าเสียใจที่ต้องขจัดประชากรทั้งหมดออกไปเสียเพราะว่าพวกเขามีผู้นำประเทศที่โง่เง่าเต่าตุ่น ข้าพเจ้าอยากให้ท่านได้ทราบว่าข้าพเจ้าจะไม่ทำเช่นนี้นอกจากจะมีความจำเป็นอย่างที่สุดแล้ว.....

จุดประสงค์ของข้าพเจ้าคือการรักษาชีวิตของคนอเมริกันเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่อย่างไรก็ตามข้าพเจ้ายังมีความรู้สึกของมนุษย์ที่มีต่อผู้หญิงและเด็กในประเทศญี่ปุ่น......

นี่ไงที่ผมบอกว่าทรูแมนคิดอะไรอยู่ วันเดียวพูดสองอย่างในเรื่องเดียวกัน ตอนออกอากาศวิทยุบอกว่าจะให้ประชาชนตายน้อยที่สุด แต่โทรเลขฉบับนี้บอกกับ สว. ในสภาว่าต้องฆ่าประชาชนให้หมดเพราะเพียงแต่พวกเขามีผู้นำที่ไม่ได้เรื่องเท่านั้น

ดูโทรเลขฉบับจริง สะใจมากที่ยอมรับออกมาว่าต้องฆ่าประชาชนให้หมด ( I certainly regret the necessity of wiping out whole population) แต่ตอนออกอากาศทางวิทยุพูดเสียสวยหรู (we wished in this first attack to avoid, insofar as possible, the killing of civilians)

โอเค..ไหมครับว่าทรูแมนสตอเบอรี่ เรื่องเดียวกันแต่พูดสองอย่างที่ตรงกันข้ามในวันเดียวกัน


เอาที่ทรูแมนตอบอีกฉบับไหมครับ คราวนี้ตอบไปยังสมาพันธ์คริสต์จักรของอเมริกาที่โทรเลขมาด่าทรูแมนเสียยับเยินเรื่องการถล่มประชาชนที่ไม่ใช่ทหาร

ทรูแมนตอบว่า

.....ไม่มีใครจะต้องรบกวนใจในการใช้ระเบิดปรมาณูไปมากกว่าข้าพเจ้าหรอก แต่เรื่องที่รบกวนใจมากกว่าคือญี่ปุ่นบุกเพิลฮาเบอร์แบบไม่ประกาศสงครามก่อนและการเข่นฆ่าเชลยศึก ภาษาเดียวที่เราจะสื่อสารให้เขาเข้าใจได้คือการใช้วิธีทิ้งระเบิดคนพวกนี้

เมื่อไรก็ตามที่ต้องไปยุ่งกับพวกสัตว์ป่าเถื่อน เราต้องทำกับมันเหมือนกับสัตว์ มันเป็นเรื่องน่าเศร้าแต่มันก็เป็นเรื่องที่เป็นจริงที่สุด....

คราวนี้ทรูแมนตอบพระแบบนิ่มๆ แต่ก็บอกอะไรในใจได้ดีว่าไอ้ที่พูดทางวิทยุนี่มันหนังคนละม้วนเลยกับเรื่องจริงที่วางแผนมาก่อน และคำตอบแบบนี้มันแสดงออกถึงสิ่งที่ทรูแมนคิดในใจ


คืนนี้ผมค้นจดหมายเหตุในห้องสมุดรัฐสภาอเมริกันและห้องสมุดต่างๆ อ่านจดหมายเหตุไปเป็นหลายสิบฉบับเพื่อประมวลเหตุผลและจับโกหกบางประการของทรูแมนในการทิ้งระเบิดลงที่ฮิโรชิม่า

แปลจดหมายและคำปราศัยของทรูแมนออกมาให้อ่านกันว่า ไอ้ที่เอ็งพูดกับที่เอ็งคิดมันคนละเรื่องเลยฟ่ะ

อด็อฟฮิตเลอร์เคยพูดไว้ว่า ฝูงชนจำนวนมากนั้นง่ายต่อการตกเป็นเหยื่อของการโกหกคำโตมากกว่าเรื่องโกหกระดับจิ๊บจ๊อย

‘The great masses of people will more easily fall victims to a big lie than to a small one.’
Adolf Hitler, 1939.

อ่านที่ผมเขียนมาทั้งหมดแล้วลองคิดดูเองครับ แล้วจะเห็นภาพว่าอเมริกาและญี่ปุ่นนั้น เหมือนผัวร้ายเมียเลวตีกัน ทั้งสองฝ่ายไม่มีใครดีกว่าใครหรอกครับ ดังนั้นอย่าไปอินกับผัวร้ายเมียเลวคู่นี้ทะเลาะกัน

แต่ที่รู้ๆคือเด็กหนุ่มอเมริกันและญี่ปุ่นตายในสงครามรวมกันเป็นสิบล้านคน และประชาชนที่ไม่รู้เรื่องราวต้องตายไปหลายแสนคนจากระเบิดปรมาณูโดยการตัดสินใจห่วยแตกของไอ้แก่อ้วนๆทั้งที่นั่งอยู่ที่โตเกียวและวอชิงตันไม่กี่คน


คืนนี้ต้องพอก่อนแล้วครับ อ่านจนปวดตาแล้ว


แล้วมันจำเป็นอย่างที่สุดที่ต้องทิ้งระเบิดปรมาณูอย่างที่ทรูแมนกล่าวอ้างหรือไม่ลองมาพิจรณาด้วยเหตุผลและหลักฐานดู

ญี่ปุ่นโดนตีถอยร่นออกจากพื้นที่หมู่เกาะมารินาสที่ประกอบด้วย โอกินาวา ไซปัน และกวม อย่างเด็ดขาด และกองกำลังของญี่ปุ่นได้ถูกไล่ออกจากฟิลิปปินส์และอินโดจีนและมาลายูเกือบเด็ดขาดแล้วในเวลานั้น

ในคืนวันที่ 10มีนาคม ฝูงบิน B29 334ลำจากหมู่เกาะมารินาสได้ถล่มญี่ปุ่นอย่างหนักที่สุดครั้งหนึ่งพื้นที่ 16 ตรางไมล์ของโตเกียวต้องราบเป็นหน้ากลองและ 25%ของโตเกียวตกในเปลวไฟกลายเป็ยขี้เถ้า ประชาชนชาวโตเกียวประมาณแปดหมื่นสี่พันคนตายในการทิ้งระเบิดครั้งนี้ ในสัปดาห์ต่อมาในการโจมตีอีกครั้งผลออกมาก็แตกต่างกับครั้งแรกแต่เป้าหมายคือเมืองบริวารโดยรอบเช่น นาโกย่า โอซาก้า และโกเบ


ในเดือนเมษาการทำลายล้างยังคงมีต่อไปในเมืองอุตสาหกรรมโดยรอบโตเกียว เช่นนาโกย่า โอซาก้า คาวาซากิ โกเบ และโยโกฮาม่าได้กลายเป็นขี้เถ้าไม่แพ้ตัวเมืองหลวงโตเกียว หลังจากนั้นเมืองเล็กที่รองลงมาอีก 58 เมืองได้ถูกโจมตีจนกลายเป็นขี้เถ้าไปตามกัน หลังจากการโจมตีใหญ่ในสองเดือนโรงงานอุตสาหกรรมทางทหารที่มีการผลิตเครื่องยนต์เครื่องบินและอาวุธของญี่ปุ่นได้สิ้นสุดลงอย่างสิ้นเชิง

จะบอกว่าญี่ปุ่นเป็นง่อยไปแล้วตั้งแต่เดือนเมษาก็ได้เพราะหลังจากนั้นญี่ปุ่นผลิตอาวุธเพิ่มเติมอีกไม่ได้เลย และประชาชนในเมืองใหญ่ก็ล้มตายไปเป็นจำนวนมาก ในวันโจมตีใหญ่โตเกียวประชาชนตายไม่น้อยกว่าจำนวนคนตายโดยระเบิดปรมาณูที่ฮิโรชิม่าเสียด้วยซ้ำ

ในรูปคือสภาพเมือโตเกียวในวันนั้น ทั้งเมืองคือนรกในเปลวไฟ ถ้าญี่ปุ่นยังมีกำลังรบอยู่คงไม่ปล่อยให้เมืองหลวงของตัวเองเป็นนรกแบบนี้หรอก เหมือนนั่งดูมวยโหดถลุงครึ่งหมัดเลี้ยงคู่ต่อสู้ไว้น็อกยกสุดท้าย พี่เลี้ยงก็จอมโหดไม่ยอมโยนผ้ายอมแพ้

ถ้าจะดูจากเหตุนี้ ห้าเดือนที่ทหารญี่ปุ่นไม่มีอาวุธเพิ่มอีกเลยสภาพทหารญี่ปุ่นตอนนั้นเหลือแต่ตัวเปล่า

กองทัพเรือของญี่ปุ่นสลายไปตั้งแต่แพ้ที่มิดเวย์แล้ว กองทัพอากาศก็เกือบไม่เหลือขึ้นบินมาป้องกันประเทศของตัวเองให้รอดจากเป็นขี้เถ้าจากระเบิด กองทัพบกก็ตกค้างตามประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในสภาพในชุดเครื่องแบบผ้าขี้ริ้วสู้แบบฆ่าตัวตายไปวันๆ

แล้วมันสมควรหรือเปล่ากับเหตุผลของทรูแมนที่ทิ้งระเบิดปรมาณูที่ฮิโรชิม่าและนางาซากิ คราวนี้เข้าใจหรือยังว่าเรื่องบลูชิดที่ทรูแมนอ้างมันไม่สมเหตุผลเลย

อย่างที่ฮิตเลอร์พูดไว้นั่นแหละว่า
ฝูงชนจำนวนมากนั้นง่ายต่อการตกเป็นเหยื่อของการโกหกคำโตมากกว่าเรื่องโกหกระดับจิ๊บจ๊อย
‘The great masses of people will more easily fall victims to a big lie than to a small one.’
Adolf Hitler, 1939.

ในรูปคือสภาพโตเกียวก่อนและหลังโดนถล่ม


ผมแถมให้พิเศษอีกเรื่อง หลายคนดูคู่กรรมมาหลายรอบมีใครรู้บ้างว่าโกโบริตายวันไหน ในหนังสือคู่กรรมไม่มีบอกหรอกเพราะทมยันตีก็ไม่รู้ว่าเจ้าโกมันตายวันไหนเพราะทมยันตีเขียนไปฝันไป

ถ้าจะเอาตามประวัติศาสตร์จริงๆโกโบริตายวันที่ 5มิถุนายนปี 1944 เพราะวันนั้นคือการทิ้งระเปิดเที่ยวแรกของเครื่อง B29 ที่บินออกมาจากฐานทัพจีนมาทิ้งระเบิดสถานีรถไฟธนบุรีและคลังสินค้าที่กรุงเทพ นับว่าเป็นเที่ยวบินเที่ยวแรกของ B29 เลยก็ได้ ปรากฎว่าวันนั้นท้องฟ้าปิดมีเมฆมากและเครื่องยนต์ดับทำให้มีระเบิดเพียง 18ลูกเท่านั้นที่โดนเป้าหมาย สถานีรถไฟธนบุรีและคลังสินค้า

โกโบริซวยจัดโดนไปเต็มๆแต่เจ๊แดงช่องเจ็ดสียังทำละครให้นอนคุยกับอังสุมารินได้สามอาทิตย์ก่อนสำลักเลือดตาย

ผมคิดว่าผมคือคนแรกที่กำหนดวันตายของโกโบริแบบมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์นับจากวันที่ทมยันตีแต่งเรื่องคู่กรรมมาสามสิบกว่าปี

เพราะลองหาในอากู๋เกิล ข้อความในอากู๋ไม่มีเลยที่จะกำหนดวันตายของโกโบริแบบอิงหลักฐานทางประวัติศาสตร์ แต่วันนี้น่าจะมีแล้วจากที่ผมเคยเขียนไว้

ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ผมเคยคุยกับคุณทมยันตีครั้งหนึ่งเรื่องวันตายของโกโบริ แล้วผมก็บอกถึงหลักฐานทางประวัติศาสตร์จริงทับเข้ากับไทม์ไลด์ของตัวละครในหนังสือ คุณทมยันตีบอกว่านี่คือครั้งแรกที่คนเขียนรู้ถึงวันเวลาตายที่แท้จริงของตัวละคร

ผมกำหนดวันตายของโกโบริไว้ที่เช้าตรู่ 5 มิถุนายน 1944 ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์จริงๆ

ส่วนโกโริจะนอนคร่ำครวญบนตักอังศุมาลินอีกสามสัปดาห์สลับโฆษณาบ้าเลือดเหมือนในละครหรือเปล่าประวัติศาสตร์ไม่ได้บอกไว้


ก่อนรุ่งสางของวันที่ 6สิงหาคม 1945 เครื่องบิน B29 ซูเปอร์ฟอร์เทส ได้เท็คอ็อฟออกจากสนามบินในหมู่เกาะมารินัส ลำนั้นมีชื่อว่าอีโนล่าเกย์ ได้บินเป็นเวลาหกชั่วโมงครึ่งก็อยู่เหนือเมือฮิโรชิม่าในยามเช้า สะพานอาโออิรูปตัวT ใจกลางเมืองฮิโรชิมาปรากฎขึ้นในกล้องเล็งระเบิด

ขณะนั้นเป็นเวลา 8.15 เครื่องบิน B29ลำนั้นได้ทิ้งระเบิดปรมาณูลูกแรกที่ใช้งานจริงในประวัติศาสตร์โลกในระดับความสูง 3100 ฟิต หลังจากนั้นอีกอีกสี่สิบสามวินาทีระเบิดถูกจุดขึ้นที่ความสูง 1890ฟิต ทำลายล้างเมืองฮิโรชิม่าทั้งเมืองกลายเป็นเถ้าถ่านชั่วพริบตา

เครื่องบินได้บินวนหนีแรงระเบิดออกไปที่ทิศทางเดิมที่บินเข้ามาด้วยความเร็วสูงสูดตัวเท่าที่จะหนีได้ที่ ลูกเรือได้รายงานว่าเปลวไฟรูปดอกเห็ดยักษ์สีม่วงสูง 4500ฟิต และขยายตัวสูงขึ้นไปเรื่อยๆสูงกว่าระดับเพดานบินของเครื่องบินถึงสามไมล์ เครื่องบินได้รับความร้อนจากเปลวระเบิดจนเหมือนอยู่ในหม้อต้ม พลปืนหลังของเครื่องบินรายงานว่าเป็นภาพที่น่ากลัวที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาในชีวิต

ผู้พันพอล ทิบเบ็ต นักบินผู้ควบคุมเครื่องและผู้บังคับการภาระกิจถึงกับอุทานว่า โอ้..พระเจ้า พวกเราทำอะไรลงไปนี่

วันนี้เอาเท่านี้ก่อน ครั้งหน้าผมจะพาเดินเข้าไปดูในพิพิธภัณฑ์ระเบิดปรมณูของฮิโรชิม่า

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
SpiderMeaw's profile


โพสท์โดย: SpiderMeaw
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
20 VOTES (4/5 จาก 5 คน)
VOTED: thanatan, bgs, เทียร์, Dante Inferno
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เลขเด็ด เลขมาเเรง เลขดัง "รวมหวยเด็ดสำนักดัง vol.1" งวดวันที่ 1 ตุลาคม 2567[9] สิ่งที่อย่าเขียนลงใน Resumes ถ้าไม่อยากโดนไล่ออก!คุมตัวเจ้าอาวาส สอบปมชำเราเด็กต่ำกว่า 15 ชาวบ้านเชื่อถูกใส่ร้าย เพราะให้หวยแม่นปิดตำนาน เจ้าของบทเพลงดังอันลือลั่น #ผู้ใหญ่ลีคนอินเดียแห่แชร์ประสบการณ์ ถูกเหยียดในเกาหลีใต้ จนหลายคนเลิกตามกระแส K-popใจละลาย “เนมุเนมุ” ฮิปโปแคระ โอซาก้า น่ารักไม่แพ้ “หมูเด้ง”ชาวบ้านอาหารเป็นพิษนับร้อย หลังกินอาหารบริจาคช่วยน้ำท่วม ที่เมียนมา
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
คนอินเดียแห่แชร์ประสบการณ์ ถูกเหยียดในเกาหลีใต้ จนหลายคนเลิกตามกระแส K-popประโยชน์ว่านหางจระเข้ บำรุงผิวพรรณเด็กญี่ปุ่นในจีนถูกแทงดับ ระหว่างเดินทางไปโรงเรียนเด็กชายแบกร่างไร้วิญญาณของน้อง เรื่องสุดเศร้า ใน นางาซากิ
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
เมืองที่มีระบบขนส่งสาธารณะที่ดีที่สุดในโลกพระเจ้าชาลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักรทรงดำรงตำแหน่งประมุขของรัฐในหลายดินแดนทั่วโลกซุ้มประตูหยุนไถ ในสมัยราชวงศ์หยวน อายุกว่า 700 ปี“จงเป็นเธอในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุด”
ตั้งกระทู้ใหม่