ก้าวแรกสู่วงการบันเทิง

ก้าวแรกสู่วงการบันเทิง

หัวข้อที่ 1 ขั้นเตรียมความพร้อม “ก่อนเข้าวงการบันเทิง”

1.ทัศนคติ...การที่เราจะใช้ชีวิตอยู่ในสถานที่แห่งใดก็ตาม เราจำเป็นต้องรู้จักสถานที่นั้นๆให้ดีซะก่อน เพื่อความอยู่รอด...และถ้าคุณอยากมีความสุขอยู่ในวงการบันเทิง คุณก็ต้องมีความเคารพ รัก ศรัทธา และเข้าใจให้ได้ก่อนว่า วงการบันเทิงได้ให้ความสุขความสำเร็จกับคุณยังไง สิ่งที่ได้แน่นอนคือ “งานกับเงิน” เอาไว้เลี้ยงปากเลี้ยงท้อง แต่สิ่งที่ได้มากกว่านั้น มันคือเวทีที่ช่วยให้คุณได้ใช้ความรู้ความสามารถ ที่คุณมีอยู่จนประสบความสำเร็จและเกิดพลังศรัทธาในตัวเอง อันเปรียบเสมือนแหล่งน้ำที่ช่วยหล่อเลี้ยงชีวิตของคุณและคนอื่นๆให้เจริญเติบโตให้ชุ่มเย็นเป็นสุขอยู่ตลอดเวลา...คุณจึงสามารถแบ่งปันความสุขที่คุณมีให้กับผู้คนอีกจำนวนมาก ที่คุณอาจมองไม่เห็น ซึ่งพวกเขาเหล่านั้นต่างก็ใจจดใจจ่อรอคอยผลงานของคุณ ด้วยความรักและคิดถึง ในเมื่อมันเป็นสถานที่ที่ทำให้คุณได้เจอคนที่ๆคุณรัก และได้รักคนที่คุณเจอ คุณจึงรู้สึกขอบคุณวงการบันเทิงตั้งแต่ก้าวแรกที่คุณเข้าไปอยู่ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก มันจะเป็นตัวช่วยในการหล่อเลี้ยงกายใจของคุณ ให้อยู่เย็นเป็นสุข ไปจนวาระสุดท้ายที่คุณจะอำลาวงการบันเทิง มันคือ "ความจริง"

2.ดูแลตัวเอง...เมื่อคุณ "อยาก" เป็นดารา และเริ่มเดินทางเข้าสู่วงการบันเทิงเรียบร้อยแล้ว ก็เท่ากับว่าคุณประสบความสำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งก็อยู่ที่การดูแลตัวเอง เพราะ "ตัว" ของคุณจะเข้าตากรรมการหรือไม่ ก็อยู่ที่รูปร่าง หน้าตา และบุคลิกภาพโดยรวม เราจึงควรศึกษามูลเหตุแห่งรูปสมบัติเอาไว้บ้าง หากคุณตั้งใจที่จะใช้ชีวิตอยู่ในวงการบันเทิงให้นานที่สุด และได้อยู่ในจุดที่สูงที่สุด เท่าที่ใจของคุณจะ "อยาก"

1. มูลเหตุในอดีตชาติ...ถ้าคุณรูปร่างหน้าตาดีมาตั้งแต่เกิด ก็ให้รู้เอาไว้เถิด ว่าคุณไม่ได้ได้มันมาฟรีๆ แต่มันเกิดจาการกระทำอันดีงามของคุณ แน่นอน ผมหมายถึงการ "ทำบุญ" การทำบุญนั้นก็มีหลายประเภท แต่ทั้งนี้จะขอยกมูลเหตุที่ทำให้คนเรารูปร่าง หน้าตาดี และมีพลังงานมหาสาร อันเปรียบเสมือนยานพาหนะ นำพาคุณไปสู่ความสำเร็จ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสสอนทางมาแห่งรูปสมบัติว่า ศีล คือความบริสุทธิ์ คือต้นแบบของความเป็นมนุษย์ เพราะศีล แปลว่า “ปกติ” การรักษาศีลคือการรักษาความปกติ ปกติของมนุษย์จะไม่เบียดเบียนใคร

ดังนั้น...เมื่อคุณมีศีลที่บริสุทธิ์มากเท่าไหร่ รูปสมบัติของคุณก็จะยิ่งสมบูรณ์แบบ และมีความละเอียดประณีตมากเท่านั้น ซึ่งมันส่งผลโดยตรงกับความสวยงาม ความหล่อเหลาของคุณ และมันนี่แหละ ที่จะทำหน้าที่เป็นยานพาหนะนำพาคุณไปสู่การเป็น "ดารา" ได้ ในจุดที่สูงที่สุด เท่าที่กำลังยานพาหนะ (ของคุณ) จะพาไป มันเป็นสิ่งที่น่ายินดี เมื่อคุณมีรูปสมบัติที่ดีเช่นนี้แล้ว ก็อย่าประมาท จงเก็บรักษามันเอาไว้ให้ดีที่สุดด้วยการไม่ยัดเยียดสิ่งของที่ไม่พึงประสงค์ ลงไปในร่างกายของคุณ อันประกอบไปด้วยสะสารอันเป็นพิษ ซึ่งคุณรู้ดีว่ามันคืออะไร ในข้อนี้ คุณควรถือศีลของคุณให้บริสุทธิ์ต่อไปด้วย หากคุณไม่อยากให้รูปลักษณ์ภายนอกของคุณ อำลาคุณไปก่อนวัยอันควร และจะเป็นสาเหตุให้คุณได้รูปสมบัติที่ดีงาม เช่นนี้ต่อไปอีกเรื่อยๆสู่ภพเบื้องหน้า "ถ้าคุณเชื่อเรื่องกฏแห่งกรรม" แต่ถ้าไม่เชื่อก็แล้วไป!

2. มูลเหตุในปัจจุบัน...หากว่าคุณไม่ใช่คนที่รูปร่างหน้าตาดีมาตั้งแต่เกิด ก็ไม่เป็นไร...เพราะปัจจุบันมีพัฒนาการด้าน "ศัลยกรรม" ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี นักแสดงอีกจำนวนมากล้วนแล้วแต่ผ่านมือหมอกันมาทั้งนั้น สิ่งที่คุณจะต้องตะเตรียมก็คือ "เงิน" เมื่อมีเงินก็ต้องมีศัลยแพทย์ฝีมือดี ก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องบาปบุญคุณโทษ อีกตามเคย...ว่าแล้วก็อย่าเพิ่งหาว่าผมมาเทศนาก็แล้วกัน แต่มันคือความจริง ถ้าคุณไม่เคยมี "บุญ" ติดตัวมาสักหยดแล้วปัจจัยทั้งสองสิ่งนี้จะเกิดขึ้นมาได้ยังไง เพราะฉะนั้นคุณอาจจะมีบุญแต่บุญเดินทางมาหาคุณช้า และเดินทางมาพร้อมกับบาป ที่ทำให้คุณต้องเจ็บตัว แต่อย่างน้อยๆ มันก็เป็นใบเบิกทางของคุณ สู่การเป็นดาราได้ในที่สุด ทีนี้...เมื่อรูปร่างหน้าตาของคุณ ไม่ได้เป็นอย่างสองข้อแรก คุณอาจจะรู้สึกท้อแท้ สิ้นหวังหมดกำลังใจ ไม่เป็นไร...ไม่ต้องสิ้นหวัง ถึงแม้ตัวของคุณอาจจะไม่สามารถเป็นพระเอก นางเอก อย่างที่ใครๆต่างก็ถวิลหา แต่ถ้าคุณอยากเป็นดารา และรักในการแสดงจริงๆ วงการบันเทิงก็เปิดประตูต้อนรับคุณอยู่เสมอ โดยไม่เกี่ยงงอนว่ารูปร่างและหน้าตาของคุณนั้นมันจะอุบาทว์และชาติชั่วมาจากไหน ขอแค่คุณไม่เรื่องมากและมีความสามารถจริงๆก็พอ ลองนึกถึงนักแสดงสมทบ บทเด่น บทร้าย ดาวตลก ก็ประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียงไม่แพ้ใครเลยทีเดียว

3.ความสามารถพิเศษ...ถึงแม้ว่ารูปร่างและหน้าตาของคุณจะไม่เข้าตากรรมการตั้งแต่จุติ แรกเกิด แต่เจ้าความสามารถพิเศษนี่แหละ ที่จะทำหน้าที่เป็นยานพาหนะ นำพาคุณไปสู่วงการบันเทิง ทุกคนจะต้องอึ้ง ทึ่ง และเสียว ในความแตกต่างที่ไม่เหมือนใครของคุณ ลองนึกถึงนักร้องอ้วนๆ ดำๆ ที่ร้องเพลงไพเราะเสนาะหู ชวนให้เคริบเคลิ้ม ยิ่ง

กว่าใบหน้าอันหล่อเหลาของพระเอกละครไทยบางคนเสียอีก...นางร้ายหน้าตาดูไม่แพง แต่เล่นละครได้แบบถึงพริกถึงขิงจนได้รับรางวัล ให้เป็นนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมแห่งปี ดูสิ ความภาคภูมิใจแบบนี้แม้หน้าตาก็ยังซื้อไม่ได้ เพราะฉะนั้นทุกสิ่งทุกอย่างมันมาจากความรักและความตั้งใจจริงๆ

เอ๊าะ!...ผมลืมเขียนไปอีกข้อ ถ้าคุณอยากเป็นดาราผ่านการเป็น "นักแสดง" คุณจำเป็นต้องเรียนรู้และฝึกฝนอยู่เสมอ “จงจำใส่กมลเอาไว้ว่า” การเป็นนักร้อง นักแสดงนั้น ก็เหมือนกับการเป็นตำรวจทหาร ถึงแม้ว่าวันนี้จะยังไม่มีศึกสงคราม แต่คุณก็ต้องดูแลตัวเอง ฝึกฝนตัวเอง ใช้อาวุธ และออกกำลังกายให้ได้ประจำสม่ำเสมอ เมื่อถึงเวลาข้าศึกมาคุณก็สามารถลุยงานได้เต็มที่ เช่นเดียวกันเมื่อคุณอยากเป็นนักร้อง นักแสดง คุณอาจจะเข้าใจผิด คิดว่า คุณไม่ใช่ "ดารา" ไม่มีใครจ้างให้คุณไปเล่นละคร คุณก็คงไม่คิดที่จะเริ่มเรียนรู้...ก็ถ้าคุณไม่เริ่มตอนนี้แล้วจะเริ่มตอนไหนล่ะ ถ้าคุณอยากเป็นนักแสดงจริงคุณต้องมหาที่เรียน ทุกวันนี้มีโรงเรียนสอนการแสดงผุดขึ้นมามากมายไม่ต่างไปจากดอกเห็ด จงแบ่งเวลาไปทำในสิ่งที่คุณรักบ้าง แต่การเรียนคือการเดินทางไปหาความรู้ ( เท่านั้น ) ส่วนความสามารถนั้นอยู่ที่การฝึกฝน ดังนั้นคุณจำเป็นต้องฝึกฝนการแสดงของคุณให้ได้ในทุกๆวัน วิธีฝึกนั้นไม่ยากเลย ลองมองหาละครและนักแสดงที่คุณชื่นชอบ เอาไว้เป็นตัวอย่างดูสิ ทุกวันนี้มีบทละครขายตามแผงหนังสือทั่วๆไป ราคาก็ไม่แพงมากนัก เล่มละยี่สิบบาท ยี่สิบกว่าบาท ลองเอาบทละครของนักแสดงที่คุณชื่นชอบ มาสวมบทบาทใหม่ในเวอร์ชั่นของคุณ หัวเราะ ร้องไห้ บ้าๆบอๆ อยู่บนจอกระจกคนเดียว หากคุณได้ฝึกตรงนี้เป็นประจำซ้ำไปซ้ำมา ตรงนี้แหละที่จะเป็นปัจจัยสำคัญ ทำให้คุณได้ก้าวเข้าสู่วงการบันเทิง อ่านแล้วคุณอาจจะขำ ว่าผมนี่ก็ช่างแนะนำให้คุณทำอะไรที่มันชอบกล แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่านักแสดงเจ้าบทบาทที่อยู่ในดวงใจของคุณ อาจจะทำเรื่องบ้าบอคอแตกยิ่งกว่าที่ผมแนะนำนี้ก็ได้ เมื่อคุณตระเตรียมอาวุธ ยุทโธประการของคุณเอาไว้เรียบร้อยแล้ว วันดีคืนดีบุญหล่นทับ คุณอาจจะได้โชว์ฝีไม้ลายมือกับนักแสดงนำแม่เหล็ก ประกบกับนักแสดงสมทบ รุ่นใหญ่ปังๆ แล้วทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณได้ตระเตรียมเอาไว้ก็จะเหมาะเจาะ ลงตัวพอดี คุณก็จะได้แจ้งเกิดเป็น "ดารา" เต็มตัว ตั้งแต่ละครเรื่องแรกเลยทีเดียว นี่แหละคือผลพลอยได้จากการฝึกฝนของคุณ

แต่จงหุบยิ้ม แล้วอ่านมันต่อไปให้จบ!!!

ในทางกลับกันถึงแม้รูปร่างหน้าตาของคุณจะพร้อมขาย แต่ถ้าคุณขาดทักษะ ความสามารถด้านการแสดง คุณอาจจะตกม้าตาย หมดความประทับใจตั้งแต่ละครเรื่องแรกที่คุณรับเล่นด้วยเหมือนกัน อย่าลืมว่าคุณไม่ได้ทำงานอยู่คนเดียว ยังมีทีมงานนักแสดง เบื้องหน้าเบื้องหลังอีกมากมายที่ทำงานไปพร้อมกับคุณ และละครที่คุณเล่น ก็เล่นออกมาให้คนดู ถ้าคนดูไม่ประทับใจในฝีมือของคุณ อะไรจะเกิดขึ้น?...สื่อต่างๆในโลกโซเชียลก็จะพร้อมใจกันถล่มทลายใบหน้าของคุณ ราวกับถูกสาดด้วยน้ำกรด หมดอนาคตในที่สุด ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเสียดาย ถึงแม้ว่าคุณจะเป็นพระเอกนางเอกที่หน้าตาสวยหล่อมาจากไหนก็ตาม มันก็หนีไม่พ้นคำครหาอยู่ดี นี่คือ "สัจธรรม"

ถ้าไม่อยากให้เหตุ "ดราม่า" แบบนี้เกิดขึ้นกับละครเรื่องแรกของคุณ จงวกกับไปทวนหัวข้อข้างต้นที่ผมได้กล่าวเอาไว้อีกทีด้วย และจำใส่กมลเอาไว้เสมอว่า แม้แต่นักแสดงมืออาชีพหลายๆท่าน ที่ผ่านงานละครมาเป็นสิบๆปี ก็ยังถูกวิพากษ์วิจารณ์ได้เลย แล้วคุณจะไปเหลืออะไร คิดจะเป็น "ดารา" ก็ต้องหัดทำตัวเป็นซากศพให้ "อีแร้ง" มันจิกกัดได้ทุกเมื่อเชื่อวันด้วย

หัวข้อที่ 2 เส้นทางสู่วงการ "บันเทิง"

1.นักดาราศาสตร์และเจ้าแมวเหมียว...หากว่าคุณไม่เคยมีสายสัมพันธ์กับบุคคลที่อยู่ในวงการบันเทิงมาก่อนเลย คุณจำเป็นต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญด้านนี้เป็นพิเศษ ซึ่งนั่นก็คือ "นักดาราศาสตร์" ...นักดาราศาสตร์จะทำหน้าที่เสมือนพี่เลี้ยงนางงาม เขาจะคอยชุปเลี้ยงคุณ ออกทุน ให้คุณไปทำศัลยกรรม ในกรณีที่ใบหน้าของคุณไม่ผ่านการพิจารณา ให้ข้าว ให้น้ำ ให้ที่อยู่อาศัย ในกรณีที่คุณไปตัวเปล่า และจ่ายค่าคร์อสเรียนการแสดงให้กับคุณ ในกรณีที่คุณยังใหม่กับวงการ แต่ทั้งหมดที่ผมพูดมา...เขาไม่ได้ให้คุณฟรีๆหรอกนะ อีกหน่อยเมื่อคุณดังเป็นคุถังกะละมังแตก นักดาราศาสตร์เหล่านั้นก็จะเรียกค่าเสียหายคืนจากคุณแบบถึงพริกถึงขิงเลยทีเดียว อันนี้ก็แล้วแต่คน แต่ผมไม่รู้ด้วยนะ และไม่ต้องมาถามด้วย เพราะผมไม่เคยรู้จักมักจี๋กับใครเลยซักคน เอาแค่ประตูวงการบันเทิงก็ยังไม่เคยเดินผ่าน แล้วผมจะไปรู้อะไร รายต่อไปคือ เจ้าแมวเหมียว...ไม่รู้ว่าสมัยนี้ยังมีอยู่หรือเปล่า แมวเหมียวจะทำหน้าที่เมียงมองเหล่าสรรพสัตว์ที่อยู่รอบด้าน คุณสมบัติพิเศษก็คือมีสายตาที่เฉียบคม ทั้งระยะใกล้และระยะไกล

แมวเหมียวคือสัตว์ที่มองเห็นแววความเป็นดาราในตัวของคุณ ทั้งรูปร่าง หน้าตา ผิวพรรณ และความสามารถ เขาจะทำหน้าที่พาคุณไปหานักดาราศาสตร์ หากคุณเข้าตากรรมการเข้าอย่างจังแล้วล่ะก็ เจ้าแมวเหมียวก็จะได้ค่าตอบแทนจนกว่าจะพอใจ คล้ายๆกับคนพาเด็กไปหามาม่าซังนั่นแหละ แต่ถ้าหน้าตาของคุณไม่ดีพอ หรือพอดี แมวเหมียวก็จะลากคอคุณเดินสาย ตะเวนไปหานักดาราศาตร์คนอื่น ไม่ต่างไปจากการตะเวนชายแดน จนแข้งขาของคุณแทบจะฉีกขาดเลยทีเดียว แต่ถ้าจนแล้วจนรอด ก็ยังไม่มีนักดาราศาสตร์ท่านใด ให้ความสนใจในตัวของคุณเลย เนื่องจากว่าใบหน้าของคุณมันดู "ไม่แพง ไม่มีราคา ไม่น่าลงทุน” เจ้าแมวเหมียวอาจจะตัดสินใจลากตัวคุณเข้าไปเก็บไว้ในซ่องเลยก็ได้ อันนี้ต้องระวังตัวให้ดี ผมเคยเห็นในละคร

2.เข้าสู่เวทีการประกวด...วิธีนี้เป็นวิธีการที่ใครๆต่างก็นิยมกัน นักแสดงหลายๆคนเกือบครึ่งค่อนวงการก็ก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงด้วยเวทีต่างๆนี่แหละ เริ่มตั้งแต่เวทีประกวดนางทราม อุ้ย...นางงาม พูดผิด ขออภัย คนหานางแบบ นายแบบ นักร้อง นักแสดง และอีกมากมาย รวมถึงเกมโชว์ต่างๆด้วย โดยเฉพาะในยุคทีวีดิจิตอลแบบนี้ เวทีต่างๆก็ยิ่งผุดขึ้นไม่ต่างไปจากดอกเห็ดที่ผุดขึ้นตามทุ่งนาป่าเขา ขึ้นอยู่กับว่าคุณ จะขยันเดินสาย โชว์ตัวมากน้อยแค่ไหน และยิ่งถ้าคุณมีความสามารถ ผ่านเข้ามาในรอบที่ลึกที่สุด ชัยชนะของการก้าวเข้าสู่วงการบันเทิง ก็อยู่แค่่ปลายซิลิโคน อุ๊ป ซอรี่ อยู่แค่ปลายจมูกของคุณดีๆนี่เอง

3.เน็ตไอเด้า...หากคุณไม่มีปัจจัยเพียงพอที่จะก้าวเข้าสู่วงการบันเทิง ด้วยมูลเหตุในสองข้อแรก การเป็นเน็ตไอดอลก็เป็นอีกทางเลือกที่ดีมาก เพราะในยุคนี้มีสื่อโซลเชียลต่างๆมากมาย ที่พร้อมจะทำให้ตัวของคุณเป็นที่พูดถึง เช่นยูทูป เฟชบุ๊ค เป็นต้น เพียงแค่คุณอับคลิปวีดีโอของคุณ แล้วโชว์ความสามารถพิเศษต่างๆที่คุณมี ถ้ายอดวิวขึ้นสูง บันไดสู่การเป็นดาราของคุณก็สูงตาม คุณอาจจะถูกติดต่อให้ไปเป็นแดนซ์เซอร์ เล่นหนัง เล่นละคร หรือถูกเชื้อเชิญให้เข้าไปพูดคุยในรายการต่างๆอีกมากมาย ซึ่งจะทำให้คุณมีรายได้เข้ามาโดยไม่ทันได้ตั้งตัวอีกด้วย

...แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเน็ตไอเด้าส่วนใหญ่ เกิดขึ้นจากการโชว์ความเป็นตัวของตัวเอง มันอาจจะกลายเป็นดาบสองคมที่ทำให้คุณเกิดและดับได้ในเวลาเดียวกัน หากคุณทำอะไรที่มันไม่เข้าตากรรมการ ยอดวิวหลักแสนล้านก็อาจจะช่วยอะไรคุณไม่ได้ พวกเขาจะหยิบยกคุณเอาไว้บนหิ้ง ให้ดูเอาไว้เป็นเยี่ยงแต่อย่าเอาเป็นอย่าง และเมื่อนั่นประตูสู่วงการบันเทิงก็จะปิดสนิท ผู้เขียนเองก็เชื่อมั่นว่า...เน็ตไอเด้าส่วนใหญ่ก็มีความฝันอยากเป็นดาราเหมือนกัน แต่อาจจะไม่มีปัจจัยเพียงพอที่จะก้าวเข้าสู่วงการบันเทิง ทั้งปัจจัยภายนอกและปัจจัยภายใน เนื่องจากการเป็น "ดารา" ไม่ได้มีตำราสอนเอาไว้ในบทเรียน เน็ตไอเด้าจึงมักจะมีคลิป มีพฤติกรรมที่แปลกประหลาด ด้วยหวังว่าความแปลกประหลาดนั้นจะนำพาตัวเขาไปสู่เป้าหมาย ทั้งที่ความจริงใบหน้าของพวกเขาสามารถก้าวไปสู่การเป็นพระเอก เป็นนางเอกได้ แต่ด้วยพฤติกรรมที่แปลกประหลาดพวกเขาเลยหมดสิทธิ์ที่จะเป็นพระเอกนางเอกในที่สุด ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเสียดาย อันนี้คุณต้องคิดให้ดี ว่าคุณจะนำเสนอตัวตนที่แท้จริงของคุณในมุมใดหาก คุณเลือกที่จะเป็นเน็ตไอเด้า

4.เส้นสาย...เส้นสายมีความสำคัญกับทุกวงการ หากคุณมีญาติสนิท มิตรสหาย สัมพันธชน ก็ไม่น่าเป็นห่วง ไม่ว่าจะเป็นทีมงานเบื้องหน้า เบื้องหลัง ช่างแต่งหน้า คนเดินไฟ โอกาสที่พวกเขาจะพาตัวคุณไปนำเสนอให้กับผู้จัดการละครก็เป็นเรื่องง่าย หากคุณสนใจที่จะเป็นนักแสดงจริงๆ เขาอาจจะเขียนบัตรเชิญให้คุณไปเล่นเป็นตัวประกอบก่อน และถ้าหากว่าคุณทำหน้าที่เป็นตัวประกอบนั้นเป็นอย่างดี มีความโดดเด่น เชื่อได้เลยว่า เขาต้องเรียกใช้บริการคุณอีกแน่นอน และถ้าหากว่าคุณมีรูปพรรณสันฐานที่ดูดีอยู่แล้ว เมื่อคุณฝึกงานเป็นตัวประกอบไปอีกสักระยะหนึ่ง เขานี่แหล่ะที่จะช่วยผลักดันให้คุณก้าวไปสู่การเป็นพระเอกนางเอกได้ในที่สุด เห็นไหมล่ะ ว่ามันง่ายมากขนาดไหน ส่วนจะง่ายแค่ไหนก็ไปสัมผัสกันเอาเอง

ตามติดและติดตามบทความเพิ่มเติมได้ที่

บล็อก บทความ ข้อคิด ชีวิต ธรรมะ https://thestupidarticles.blogspot.com/

และ https://www.facebook.com/khonsarapadkee