หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ประวัติความเป็นมาของ ADIDAS และ PUMA แบรนด์ระดับโลกที่ถือกำเนิดมาจาก "2 พี่น้องทะเลาะกัน"

โพสท์โดย คิดถิง คิดถึง และคิดถึง

ย้อนกลับไปเมื่อปี 1920 ซึ่งเป็นปีที่ อาดอล์ฟ ‘อาดิ’ ดาสส์เลอร์ วัย 20 ปี ลูกชายคนโตของช่างทำรองเท้าคนหนึ่ง ในเมืองเล็กๆที่ชื่อ เฮอร์โซเกเนาราช ในรัฐบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี ผลิตรองเท้าสำหรับวิ่งที่มีเดือยแหลมใต้รองเท้าคู่แรกขึ้น รองเท้าของพวกเขามีโลโก้คือ แถบสี 2 เส้น

Adolf หรือ Adi Dassler เริ่มผลิตรองเท้ากีฬาของเขาเองหลังจากกลับมาจากสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง และน้องชายของเขา Rudolf (Rudi) Dassler

ในปี 1924 ‘อาดิ’ จึงร่วมก่อตั้งบริษัทรองเท้ากีฬาในชื่อ Dassler "Dassler Schuhfabrik (Dassler Brothers Shoe Factory)" ขึ้นมา ซึ่งสามารถขายรองเท้าได้ 200,000 คู่ ต่อปีก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2

เมื่อถึงสงครามโลกครั้งที่ 2 โรงงานถูกพวก Nazis เข้าครอบครองและสั่งให้ผลิตรองเท้าบูทเพื่อทหารของเยอรมัน และRudi ถูกเรียกตัวให้ร่วมรบกับกองทัพเยอรมันด้วย และเขาก็ถูกทหารของ Allied จับในฐานะนักโทษสงคราม เขาต้องใช้ชีวิตเป็นนักโทษสงครามอยู่ในค่ายทหารถึง 1 ปี หลังสงครามจบเขาก็ได้กลับมาที่ โรงงาน แดสเลอร์ ด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว

บ้างก็ว่า Rudi โกรธเรื่องแฟนสาวของตน มีใจให้พี่ ชาย
บ้างก็ว่า เพราะพี่ชายไม่ไปเจรจาต่อรองเพื่อขอแลกนักโทษ
บ้างก็ว่า อาจเป็นเพราะบริษัทเติบโตเร็วและไปได้ดีเกินไป
จนการจัดสรรผลประโยชน์กลายเป็นข้อขัดแย้งระหว่างสองพี่น้อง

ตรงนี้มีหลายกระแส แต่แล้ว ..................

ในปี 1948 รูดอล์ฟ ดาสส์เลอร์ ตัดสินใจแยกตัวออกมาตั้งบริษัทใหม่เอง

บริษัทของ Rudi แต่เดิมเรียกว่า Ruda แต่ภายหลังเปลี่ยนเป็น Puma เพื่อให้ฟังแล้ว แข๊งแกร่ง น่าเกรงขาม และตั้งชื่อบริษัท "พูม่า อาเก รูดอล์ฟดาสส์เลอร์ สปอร์ต" ซึ่งเป็นผู้ผลิตรองเท้าและอุปกรณ์กีฬายี่ห้อพูม่า ในเวลาต่อมาในขณะที่ Adi ใช้ชื่อ Adidas โดยการรวมชื่อกับนามสกุลของเขา [Adi+Dassler=Adidas] โดยใช้ลักษณะเฉพาะของแถบ 3 แถบเป็นโลโก้ โดยเพิ่มเข้าไปอีก 1 แถบจากโลโก้เดิมของ Dassler

งความบาดหมางนี้ กลายเป็นทางแยกของพี่น้อง ตลอดกาล

ต่างคนต่างไป Rudolf ก็หันไปสร้างแบรนด์ Puma ส่วน Adolf ทำแบรนด์ Adidas ในตลาดเดียวกัน ย่อมหนีกันไม่พ้น
ทั้ง 2 บริษัทต่อสู้กันอย่างดุเดือด(ในฐานคู่แข่งธุรกิจ)
ทั้ง 2 บริษัทมีทีมฟุตบอลเป็นของตัวเอง ตามที่ได้รู้มา กลุ่มคนงานของ
ทั้ง 2 บริษัทจะดื่มเบียร์ต่างกันและ
ให้ลูกหลานเรียนกันคนละที่

เป็นเรื่องที่น่าเศร้าที่ 2 พี่น้องไม่เคยที่จะคืนดีกัน ข้อโต้แย้ง(และคำพูด)ของพวกเขาจะถูกแลกเปลี่ยนกันเฉพาะในชั้นศาลเท่านั้น มีคนลือกระทั่ง ฝ่ายน้องชายให้ทนายถามสารทุกข์สุขดิบของ ญาติคนนึง ที่อาศัยอยู่กับ อาดิ ดาสเลอร์ ผ่านทางศาล ด้วยซ้ำ

แต่ทั้ง 2 บริษัทกลับประสบความสำเร็จอย่างไม่น่าเชื่อ.....................................ในแง่ธุรกิจ
ในเวลาต่อมาต่อมาRudolf เสียชีวิต



ลูกชายสานงานต่อ แต่กิจการย่ำแย่ลง เมื่อขาดเสาหลัก นาย Bernard Tapie ก็ซื้อกิจการไป และมีการขายให้ธนาคารและเปลี่ยนมือพอสมควร จนกระทั่ง กลายเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ จากการควบรวมกิจการ กับบริษัท ผลิตเสื้อผ้าสกี และ การคิดค้นรองเท้ารุ่นใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง

แต่ทั้ง 2 ไม่เคยยอมให้กัน
PUMA ทำการตลาดครั้งใหญ่ โดยเน้นที่ "ไข่มุกดำ" เปเล่ ของบราซิล ที่เคยใส่รองเท้า พูม่า ลงในนัดชิงชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 1970 มาทำการตลาดประกาศศักดาความยิ่งใหญ่

อาดิดาส สวนกลับทันที
ให้ มาร์ค สปิตซ์ ยอดนักว่ายน้ำอะเมริกัน ถือรองเท้าอาดิดาส รุ่น Gazelles ในพิธีรับเหรียญทองโอลิมปิก ปี 1972 และทั้งคู่ ก็ยังดำเนินสงคราม ทั้งสิทธิการฟ้องร้อง การลอกเลียนแบบ ความโกรธแค้นและอื่นๆ ต่อมายาวนาน กว่า 61 ปี

ซึ่ง ความบาดหมางยาวนาน เพิ่งสิ้นสุดลงเมื่อ ปี 2009 CEO และผู้ถือหุ้น ของทั้ง 2 บริษัท




เพิ่งจะเตะบอลกระชับมิตร เพื่อฟื้นความสัมพันธ์แทน 2 พี่น้องผู้ให้กำเนิดรองเท้ามากกว่า 1,000 ล้านคู่ บนโลกใบนี้



ซีตซ์ CEO ของ อาดิดาสกล่าวกับนักข่าวว่า

"พี่น้อง 2 คนไม่ยอมคุยกันจนกระทั่งจากโลกไป และ เรื่องนี้ถือว่าโชคร้ายมาก เราเป็นบริษัทมหาชน และ เรามุ่งเน้นในธุรกิจของเราเองเป็นส่วนใหญ่ แต่ตอนนี้ไอเดียคือรวมกัน และ เล่นฟุตบอลด้วยกันในนามของสันติภาพ"

ปัจจุบัน
จากรองเท้าและอุปกรณ์กีฬา พูม่าแตกไลน์มาผลิตเสื้อผ้า และกลายเป็นยี่ห้อที่ได้รับความนิยมอย่างสูง ในแวดวงดนตรีฮิปฮอปและการทำกราฟฟิตี ทั้งในและนอกสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1970-1980 และยังคงความนิยมไม่เสื่อมคลายจนถึงทุกวันนี้

ปัจจุบันพูม่ามีพนักงานทั้งหมดประมาณ 3,910 คน และมีสินค้าวางจำหน่ายมากกว่า 80 ประเทศทั่วโลก
และยังผลิตสินค้าด้วยการว่าจ้างโรงงานใน 30 ประเทศเป็นผู้ผลิตสินค้าให้ ซึ่งในปีงบประมาณ 2004
พูม่ามีรายได้ทั้งหมด 1,530.3 ล้านยูโร

แต่เมื่อนำไปเทียบกับบริษัทผู้พี่อย่างอาดิดาส

(ซึ่งปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อเป็น อาดิดาส-ซาโลมอน เอจี หลังจากได้เข้าร่วมกิจการกับกลุ่มซาโลมอน
ซึ่งเป็นผู้นำด้านเครื่องแต่งกายกีฬาของฝรั่งเศส ตั้งแต่เมื่อปี 1997)
ก็จะเห็นถึงความแตกต่างอย่างชัดเจน เนื่องจาก ในปีงบประมาณ 2003
อาดิดาสมีพนักงานทั้งหมด 15,686 คน และมีรายได้ถึง 6,267 ล้านยูโร แถมยังเป็นผู้ผลิตรองเท้าและ
เครื่องแต่งกายกีฬาที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก เป็นรองเพียง ไนกี้ เท่านั้น



เอาละครับ จบเพียงเท่านี้
ถ้าเทียบกับภาษิตไทย ก็คงเรียกได้ว่า ทั้ง 2 คน บาดหมางกันแบบว่า "ไม่เผาผีกันเลย" ทีเดียว
ซึ่ง แรงแค้นระหว่างพี่น้องนี้ กลับเป็นตัวพลักดัน ให้เกิดการแข่งขัน บนพื้นฐาน การสร้าง "รองเท้า"
ที่ดีที่สุด ฮิตที่สุด โดยมีเป้าหมายเดียวกันในใจของผู้สร้างทั้ง 2
"ชั้นไม่ยอมแพ้แกหรอก"

ซึ่งผลกระทบจากการโกรธกันของคู่นี้ ทำให้โลกได้พบกับ รองเท้ามากมายหลายรุ่น ที่มีจุดกำเนิดภายใต้
นโยบายและวิสัยทัศน์จาก พี่น้องทั้ง 2 มาจนปัจจุบันนี้

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
20 VOTES (4/5 จาก 5 คน)
VOTED: Tä Köhler, * »`Mک. PØR ✖, comen
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ช็อกวงการมวย! “ตะวันฉาย” ขาหักหลังพ่าย TKO ยกแรกทหารกัมพูชา ใช้สไนเปอร์ หวังลอบยิง ผบ.ทหารเรือค้นพบแหล่งทองคำกว่า 500 ตัน มูลค่าสูงถึง 600,000 ล้านหยวนไทย ชวดเหรียญทอง ปันจักสีลัต ทั้งที่กำลังจะขึ้นรับเหรียญถล่มอุโมงค์ลับ เนิน 350 ทัพฟ้าส่ง F-16 เสิร์ฟไข่ 6 รอบติดเครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจคลังเขมรเกลี้ยง ฮุนเซน ขอเงินเดือนเอกชน 5% อ้างช่วยชาติทึ่งทั่วโลก : หุบเขาเทวดาวั้งเซียนกู่" หมู่บ้านที่สร้างอยู่ริมหน้าผา สถานที่ท่องเที่ยวแสนน่าทึ่งของประเทศจีนวินาทีชีวิต! ภาพไวรัล "หนูนา" หน้าตาสุดอ้อนวอน ในกรงเล็บนกเหยี่ยวเขมรมาแปลก! อ้าง "ทหารไทย" ใช้หมาบ้ามาโจมตีทหาร หวั่นมีเชื้อพิษสุนัขบ้าสถานีรถไฟเกือบเจ๊ง แต่รอดเพราะแมวตัวเดียว ตำนาน ทามะนายสถานีขนฟูแห่งญี่ปุ่นมหัศจรรย์ "หมอกสีชมพู" เปลี่ยนอังกฤษให้เป็นดินแดนแห่งฝัน วิทยาศาสตร์เบื้องหลังความงามสุดแปลกตา
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ไรเดอร์หื่นแอบจับก้นสาวสวยขณะวิ่งออกกำลัง..อ้างทำไปเพื่อประชดแฟนช็อกวงการมวย! “ตะวันฉาย” ขาหักหลังพ่าย TKO ยกแรกF-16 ไทยถล่มสะพานอูจีก ตัดเส้นทางลำเลียง ของเขมรเห็ดพิษใกล้ตัว รู้ทันก่อนเสี่ยงตายมหัศจรรย์ "หมอกสีชมพู" เปลี่ยนอังกฤษให้เป็นดินแดนแห่งฝัน วิทยาศาสตร์เบื้องหลังความงามสุดแปลกตาวินาทีชีวิต! ภาพไวรัล "หนูนา" หน้าตาสุดอ้อนวอน ในกรงเล็บนกเหยี่ยว
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
เด็กสาวคอโค้ง 90 องศา จากปากีสถาน สู่รอยยิ้มครั้งใหม่หลังการผ่าตัดในอินเดียภาพวาดดินสอดำของเด็กอนุบาล เสียงตะโกนเงียบ ๆ ที่ผู้ใหญ่ต้องฟังให้ได้เพื่อนชิ่งบิล 1,262 หยวน ทิ้งให้ “นายจาง” จ่ายคนเดียว เรื่องจริงที่สอนว่า กินข้าวต้องมีสติ ไม่ใช่แค่สั่งเมนูมารู้จักหน่วย BHQ หน่วยองครักษ์ พิทักษ์ฮุนเซน
ตั้งกระทู้ใหม่