หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

คุมเสี่ยเบนซ์ส่งศาล เพิ่มข้อหา ไม่ให้ตรวจ"เมา"

โพสท์โดย Exoexo

คุมเสี่ยเบนซ์ส่งศาล เพิ่มข้อหา ไม่ให้ตรวจ"เมา"
 
สั่งขัง12วันก่อนให้ประกันตัว เด้งแล้วผกก.รองผกก.เซ่นคดี ทางด่วนเปิดภาพพุ่งชนไม้กั้น
 
ตร.คุมเสี่ยเบนซ์ส่งศาลในสภาพนอนเตียงร.พ. เพิ่มข้อหาไม่ยอมให้ตรวจแอลกอฮอล์ ต่อจากขับรถประมาททำคนตาย, ทำทรัพย์สินเสียหาย ศาลสั่งขัง 12 วันก่อนทนายจะยื่นประกันตัวออกไป โดยมีเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศและยึดใบขับขี่ ผบช.ภาค 1 เด้งผกก.พระอินทร์ราชา ตั้งรองผบก.ภ.อยุธยาคุมคดีชนเก๋งย่างสด 2 ศพ "พงศพัศ"รุดสอบพยาบาล-คนเข็นเปลร.พ. ยันผู้ต้องหาไม่ยอมให้ตรวจแอลกอฮอล์ ทางด่วนเปิดภาพวงจรปิดเบนซ์ขับรถผ่าน ไม้กั้นก่อนไปก่อเหตุชนเก๋ง 1 ช.ม. 
 
 
 
เมื่อวันที่ 18 มี.ค. พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผบช.ภาค 1 มีคำสั่ง ภ.1 ลงวันที่ 18 มี.ค. ให้พ.ต.อ.พงศ์พัฒน์ สุขสวัสดิ์ ผกก.สภ.พระอินทร์ราชา จ.พระนคร ศรีอยุธยา และพ.ต.ท.สมศักดิ์ พลพันขาง รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.พระอินทร์ราชา ไปประจำ ศปก.ตร.ภ.1 เป็นเวลา 15 วัน โดยขาดจากตำแหน่งเดิม และมอบหมายพ.ต.อ.เอกราช อุ่นเจริญ ผกก.สอบสวน ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ไปรักษาราชการแทน ผกก.สภ.พระอินทร์ราชา
 
 
 
ต่อมาที่ บก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.สุทธิ และพ.ต.อ.สุรินทร์ ทับพันบุบผา รองผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้าคดีรถเบนซ์ชนรถเก๋งนักศึกษาปริญญาโทจนไฟลุกท่วมเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย พล.ต.ต.สุทธิกล่าวว่า ได้มีการโอนย้ายสำนวนคดีมาให้พนักงานสอบสวนของภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ดำเนินการ จึงได้ตั้งทีมงานสอบสวนที่มีความรู้ความสามารถจำนวน 9 นาย โดยมีพ.ต.อ.สุรินทร์ ทับพันบุบผา เป็นหัวหน้าชุด เพื่อให้สังคมเชื่อมั่นในการทำงานของพนักงานสอบสวน ยืนยันสามารถตรวจสอบได้
 
 
 
พ.ต.อ.สุรินทร์กล่าวว่า ได้รับสำนวนมาแล้วและได้ตรวจสอบสำนวนทันที ประเด็นใดที่ยังไม่ชัดเจนได้สอบสวนเพิ่มเติม ทั้งเรื่องของการพบซองยาผู้ป่วย ความเร็วของรถเบนซ์ ซึ่งต้องใช้กระบวนการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์และผู้ชำนาญการเฉพาะ ซึ่งส่งพนักงานสอบสวนไปดำเนินการแล้ว เรื่องการตรวจวัดแอลกอฮอล์ ถึงแม้ตัวผู้ต้องหาปฏิเสธ ไม่ให้ตรวจ แต่ เจ้าหน้าที่สามารถดำเนินคดีได้ ตามมาตรา 131/1 ในเบื้องต้นได้ตั้งข้อกล่าวหาแล้ว ฐานกระทำการประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย แต่ในการสอบสวนหากพบพยานหลักฐานเพิ่ม ว่ากระทำความผิดข้อหาอื่นจะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มทันที โดยจะรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ที่พบใหม่หรือพบเพิ่มมาประกอบในสำนวนด้วย ทั้งที่ได้รับจากสื่อมวลชน หรือสังคม โซเชี่ยล ส่วนภาพจากกล้องวงจรปิดที่พบเห็นรถเบนซ์พุ่งชนแนวกั้นของทางด่วนนั้นเพิ่งได้รับข้อมูล ซึ่งได้ส่งพนักงานสอบสวนพร้อมชุดสืบสวนไปตรวจสอบแล้ว เช่นเดียวกับเรื่องของซองยาที่พบในรถเบนซ์ ก็ได้ประสาน ขอตรวจประวัติ การรักษาของผู้บาดเจ็บ
 
 
 
จากนั้น พ.ต.อ.สุรินทร์ หัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีนี้เดินทางมาที่สภ.พระอินทร์ราชา อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา จากนั้นเรียกประชุมพนักงานสอบสวนของภ.จว.พระนคร ศรีอยุธยา เพื่อตรวจสำนวน ก่อนออกไปตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุ บนถนนพหลโยธิน หลักก.ม.ที่ 52+400 ม.8 ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน พ.ต.อ.สุรินทร์กล่าวว่า ประเด็นเรื่องการตรวจวัดแอลกอฮอล์ ได้สอบถามพนักงานสอบสวนชุดเดิมแล้วยืนยันว่าได้สั่ง ให้ทางร.พ.บางปะอิน ตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้ว แต่นายเจนภพ วีรพร คนขับรถเบนซ์ปฏิเสธ ไม่ให้ตรวจ ซึ่งตามกฎหมายมาตรา 131/1 การปฏิเสธทำให้เชื่อได้ว่ามีแอลกอฮอล์อยู่ ในร่างกาย สามารถดำเนินคดีได้
 
 
 
เวลา 14.00 น. ที่ร.พ.บางปะอิน จ.พระนคร ศรีอยุธยา พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.วราวุธ ทวีชัยการ รอง ผบช.ภาค 1 พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.สุรินทร์ ทับพันบุบผา รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน เข้าตรวจสอบภายในห้องฉุกเฉินของร.พ. และสอบสวนน.ส.สุวัจนา ภักดิ์ภูมินทร์ พยาบาล, นายอดิสร จันทร์เป้า พนักงานเปล ที่ปฏิบัติหน้าที่ในวันที่นายเจนภพ คนขับรถเบนซ์ ถูกส่งมารักษาตัว โดยพยาบาลและพนักงานเปล ยืนยันตรงกันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้บอกให้เจาะตรวจเลือดด้วย แต่นายเจนภพปฏิเสธไม่ยอม พยาบาลจึงให้พนักงานเปลเข้ามาช่วยพูด แต่นายเจนภพยังยืนยันไม่ให้ตรวจ ว่ากลัวเข็ม จะให้ร.พ.สมิติเวชตรวจอย่างเดียว เจ้าหน้าที่จึงไม่ได้ตรวจ
 
 
 
พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวว่า เพื่อให้ประชาชนเกิดความสบายใจในเรื่องคดี พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผบช.ภาค 1 จึงมีคำสั่งย้ายพ.ต.อ.พงษ์พัฒน์ สุขสวัสดิ์ ผกก.สภ.พระอินทร์ราชา และพ.ต.ท.สมศักดิ์ พลพันขาง พนักงานสอบสวน ไปปฏิบัติหน้าที่ประจำ ศปก.ตร.ภาค 1 เป็นเวลา 15 วัน เพื่อไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวในคดี และตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องการทำคดีด้วย
 
 
 
"ที่เดินทางมาที่โรงพยาบาล เพื่อมาสอบสวนพยาบาลและพนักงานเปล ถึงเหตุการณ์ในวันนั้น ว่าตรงกับที่ทางพนักงานสอบสวนแจ้งว่าได้บอกให้พยาบาลช่วยเจาะเลือดนายเจนภพแล้วแต่ถูกปฏิเสธ ได้รับข้อเท็จจริงพอสมควร จึงได้ให้พนักงานสอบสวนสอบสวนพยาบาลและเวรเปล ประกอบสำนวนคดีเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับนายเจนภพ ข้อหาขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ในส่วนของการตรวจหาสารเสพติดที่หลายคนสงสัยว่าผ่านมาหลายวันจะตรวจหาได้หรือไม่นั้น ผมเองทำงานเรื่องยาเสพติดยืนยันว่ายังสามารถตรวจได้จากเส้นผมหรือในร่างกาย สารเสพติดหรือยายังคงอยู่ในร่างกาย ขณะนี้พนักงานสอบสวนชุดใหม่อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออนุญาตศาลออกหมายขัง ทั้งนี้สำนวนคดีทั้งหมดคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 2-3 นี้" รอง ผบ.ตร.กล่าว
 
 
 
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต. ทรงพล วัธนะชัย รองโฆษก ตร. ให้สัมภาษณ์ว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.มอบหมายพล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร.ติดตามความคืบหน้าคดี พร้อมทั้งสั่งโอนคดีจากสภ.พระอินทร์ราชา ไปให้บก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยาตั้งทีมทำงานเฉพาะกิจดำเนินการ และมอบหมายพ.ต.อ.สุรินทร์ ทับพันบุบผา รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา รับผิดชอบคดีนี้ว่าขาดตกบกพร่องส่วนไหน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในการดำเนินคดี และต้องตรวจสอบตามขั้นตอน โดยเฉพาะตาม ป.วิอาญา มาตรา 131 ที่ระบุว่าให้พนักงานสอบสวนรวบรวมหลักฐานทุกชนิด เพื่อทราบข้อเท็จจริงและพฤติการณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวกับความผิดที่ถูกกล่าวหา และพิสูจน์ให้เห็นความผิดหรือความบริสุทธิ์ของผู้ต้องหา 
 
 
 
ผู้สื่อข่าวถามว่ากระแสสังคมวิพากษ์วิจารณ์ถึงการตรวจสอบแอลกอฮอล์ของนายเจนภพ ซึ่งตามกฎหมายแล้วตำรวจต้องดำเนินการอย่างไร รองโฆษกตร.กล่าวว่า ตำรวจต้องยึดหลักและดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่ง ผู้ต้องหามีสิทธิปฏิเสธไม่ตรวจวัดแอกอฮอล์ได้ แต่ในหลักกฎหมายพ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 ตามมาตรา 142 หากถูกปฏิเสธ ตำรวจสามารถแจ้งข้อกล่าวหาได้ กล่าวคือหากเมาแล้วไม่ตรวจก็สันนิษฐานว่าเมา
 
 
 
เมื่อถามว่ากรณีที่ครอบครัวส่งตัวไปรักษาที่ร.พ. พนักงานสอบสวนสามารถไปสอบปากคำแพทย์หรือพยาบาลได้หรือไม่ รองโฆษกตร.กล่าวว่า เท่าที่สอบถามคือให้พนักงานสอบสวนช่วยตรวจ ส่วนรายละเอียดจะมีผลตรวจอย่างไร พนักงานสอบสวนได้ไปตรวจสอบว่า แพทย์หรือพยาบาลได้ตรวจจริงหรือไม่ หากไม่ได้ตรวจ เป็นเพราะอะไร เป็นการบกพร่องต่อหน้าที่หรือไม่ ทั้งนี้ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอยู่แล้ว หากทำสิ่งไหนที่เคลือบแคลงสังคมสามารถตรวจสอบได้ทันที ดังนั้นพนักงานสอบสวนชุดนี้ต้องไขคดีให้เกิดความกระจ่างต่อสังคม
 
 
 
ต่อข้อถามถึงกรณีนายเจนภพขับรถเบนซ์พุ่งชนไม้กั้นที่ด่านพระรามที่ 4 จนไม้กั้นเสียหายก่อนจะไปก่อเหตุครั้งนี้ 1 ช.ม.ต่อมา รองโฆษกตร.กล่าวว่า หากเป็นในคดีที่เชื่อมโยงกัน และพิสูจน์ว่าเป็นความผิดจริง ต้องมีความผิดอยู่แล้ว ฐานทำให้เสียทรัพย์ รวมถึงตรวจสอบว่ามีการจ่ายค่าทางด่วนหรือไม่ นอกจากนี้ ยังมีกรณีที่ผู้ต้องหาเคยทำความผิดลักษณะดังกล่าวมาก่อนหน้านี้ ดังนั้นชุดสืบสวนต้องตรวจสอบคดีเก่ามาใช้ในการเพิ่มโทษได้
 
 
 
วันเดียวกัน นายดำเกิง ปานขำ รองผู้ว่าการฝ่ายปฏิบัติการ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดย้อนหลังบริเวณด่านพระราม 4 จุดที่ 2 ซึ่งเป็นเส้นทางที่มุ่งหน้าไปยังดินแดง พบว่า เมื่อเวลา 10.58 น. วันที่ 13 มี.ค. รถเบนซ์ ทะเบียน 3333 ซึ่งกำลังเป็นข่าวดังขณะนี้ขับรถผ่านเข้ามาใช้ทางพิเศษในช่องทางเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติ หรืออีซี่พาส บริเวณช่องทางที่ 2 ของด่านพระราม 4 จุดที่ 2 จริง โดยรถคันดังกล่าวได้ขับเข้ามายังช่องทางด้วยความเร็ว เมื่อใกล้ถึงตู้เก็บเงินคนขับได้เปิดกระจกยกกล่องอีซี่พาสขึ้นโบกให้สัญญาณในบัตรเชื่อมต่อกับกล่องรับสัญญาณหักเงินค่าผ่านทางที่ติดตั้งที่ตู้เก็บเงิน เพื่อ ให้ไม้กั้นทางเปิด แต่เนื่องจากรถขับมาด้วยความเร็ว ทำให้บัตรและกล่องรับสัญญาณไม่เชื่อมต่อกัน ไม้กั้นจึงไม่เปิด ทำให้รถวิ่งชนฝ่าไม้กั้นออกไปด้วยความเร็ว โดยผู้ขับขี่ไม่ได้จอดรถลงมาดูเหตุการณ์แต่อย่างใด
 
 
 
รองผู้ว่าการฝ่ายปฏิบัติการ กพท. กล่าวต่อว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่าไม้กั้นที่ถูกชนไม่ได้รับความเสียหาย รวมทั้งผู้ขับขี่มีการติดตั้งเครื่องมือรับและส่งสัญญาณ อีซี่พาสและขับเข้ามาใช้ช่องทางอีซี่พาสตามปกติ ดังนั้นผู้ขับขี่จึงไม่มีความผิดอะไร และในเมื่อไม้กั้นไม่ได้รับความเสียหาย กทพ.ก็ไม่ได้แจ้งความเรียกร้องค่าเสียหายอะไร อย่างไรก็ตาม กทพ.จะต้องหักเงินค่าผ่านทางย้อนหลังกับรถคันดังกล่าวจำนวน 50 บาท เพราะในวันเกิดเหตุไม้กั้นไม่เปิดก็เท่ากับว่ายังไม่มีการเชื่อมต่อสัญญาณระหว่างบัตรอีซี่พาสกับตู้เก็บเงิน จึงยังไม่มีการหักเงินค่าผ่านทาง
 
 
 
"ปกติเราให้ผู้ที่ใช้อีซี่พาสต้องนำกล่องสัญญาณติดไว้ที่หน้ารถ แต่บางคนไม่ติดใช้เปิดกระจกแล้วยกบัตรขึ้นโบกเพื่อให้แตะกับสัญญาณที่ตู้เก็บเงิน ซึ่งวิธีนี้ถ้าขับรถเร็วบางทีสัญญาณก็เชื่อมต่อไม่ทัน ทำให้ไม้กั้นไม่เปิด เหมือนกับกรณีที่เกิดขึ้น แต่ส่วนใหญ่คนขับจะหยุดรถลงมาดูและสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น แต่กรณีนี้ขับผ่านไปเลย" รองผู้ว่าการฝ่ายปฏิบัติการ กพท. กล่าวและว่า ส่วนกรณีความผิดเรื่องการขับรถเร็วบนทางด่วนนั้น จะต้องตรวจสอบกับตำรวจทางด่วนว่าจะมีการดำเนินคดีหรือไม่ อย่างไรก็ตามปัจจุบันนี้ตำรวจทางด่วนติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้บนทางด่วนจำนวนมากอยู่แล้ว
 
 
 
ขณะที่นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า กรณีรถเบนซ์ทะเบียน ษง 3333 กทม. ก่อเหตุขับรถพุ่งชนรถฟอร์ด เฟียสต้า นั้น เป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของสังคมและเป็นคดีร้ายแรงที่มีผู้เสียชีวิตถึง 2 ราย ขณะนี้ขบ.อยู่ระหว่างเก็บรวบรวมหลักฐานจากตำรวจ เพื่อนำมาพิจารณาฐานความผิดของผู้ขับขี่ ตามพ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 โดยขณะนี้ทราบว่า ตำรวจได้แจ้งข้อหากับผู้ขับขี่รถคันดังกล่าว ตามพ.ร.บ.จราจร แล้ว และอยู่ระหว่างการดำเนินคดี
 
 
 
"ขณะนี้รถได้ถูกตำรวจยึดไว้เป็นของกลาง ส่วนตัวผู้ขับขี่นอนอยู่โรงพยายาบาล ดังนั้นกรมจะรอให้ตำรวจสอบปากคำผู้ขับขี่ให้เสร็จสิ้นก่อน จากนั้นจะขอคัดสำเนาปากคำ ผู้ขับขี่มาใช้ในการพิจารณาความผิด หากตำรวจชี้ว่าคนขับประมาทและถูกลงโทษตามความผิดเกี่ยวกับการพ.ร.บ.จราจร กรมจะดำเนินการเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่เป็นเวลา 1 ปีทันที" อธิบดีกรมการขนส่งทางบกกล่าว
 
 
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวนายเจนภพ วีรพร ผู้ต้องหาคดีขับรถยนต์โดยประมาท ทำให้ทรัพย์สินเสียหาย และผู้อื่นถึงแก่ความตาย เดินทางด้วยรถพยาบาลจากร.พ.สมิติเวชมายังศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยรถพยาบาลเข้าจอดด้านหลังศาล นายเจนภพนอนอยู่บนเตียงยังให้น้ำเกลืออยู่ เจ้าหน้าที่ได้เข็นเตียงเข้าไปยังศาลใช้เวลาในการฝากขังประมาณ 50 นาที จากนั้นนำนายเจนภพกลับไปรักษาตัวต่อที่ร.พ.
 
 
 
พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัว ผู้ต้องหามาฝากขังผัดแรก โดยศาลสั่งขัง ผู้ต้องหาเป็นเวลา 12 วัน ทางทนายความยื่นเงินสด 200,000 บาทประกันตัว เพื่อนำ ผู้ต้องหาไปรักษาตัว ศาลได้อนุมัติ โดยศาลสั่งห้ามออกนอกประเทศ และให้เจ้าหน้าที่ยึดใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ และต้องมารายงานตัวต่อศาลตามที่ศาลสั่งในช่วงระยะเวลา 12 วัน จากนี้พนักงานสอบสวนจะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อแจ้งข้อหาเพิ่มเติม
 
 
 
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนขออำนาจศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยาฝากขังผัดแรก 12 วัน ข้อหาเมาแล้วขับจนทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ขับรถโดยประมาท และขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ โดยพนักงานสอบสวนให้เหตุผลว่า การสอบสวนคดียังไม่แล้วเสร็จ อีกทั้งยัง ต้องรอผลตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์จาก ผู้เชี่ยวชาญ จึงจำเป็นต้องขออำนาจศาลฝากขัง ขณะที่นายเจนภพปฏิเสธตอบคำถามกับสื่อมวลชน
 
 
 
สำหรับเงื่อนไขที่ศาลให้ประกันตัวคือ ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ, ห้ามขับขี่รถทุกประเภท, ให้ยึดใบอนุญาตใบขับขี่ และต้องมารายงานตัวต่อศาลทุกครั้งเมื่อมีหมายศาล
 
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
Exoexo's profile


โพสท์โดย: Exoexo
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
36 VOTES (4/5 จาก 9 คน)
VOTED: Keroppi, sexevil, สามีชื่อจางกึนซอก, เพ้ยเพ้ย, เด็กโข่ง, โยนี หมีระบม, Tabebuia, ปุ้ม, เจ๊มด ณ โพสท์จัง
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เท้าอยู่ไม่สุข เลยเจอ " ห้ามแข่งตลอดชีวิต "นี่คือวงเวียนในเขมร ที่ใช้งบประมาณไปกว่า 70 ล้านบาทในการก่อสร้าง!ข้าวเหนียวมะม่วงของไทย คว้าอันดับ 2 ขนมหวานประเภทมีข้าวเป็นส่วนประกอบที่ดีที่สุดของโลกผู้สูงอายุ ที่แท้จริง อายุเริ่มต้นที่เท่าไหร่?แมคโดนัลด์เป็นอะไร..ทำไมถึงมีโลโก้กลับหัวสิ่งที่คุณไม่ควรทำเด็ดขาดเมื่อมาท่องเที่ยวประเทศเกาหลีใต้!ชาวญี่ปุ่นออกตามล่าหาลิงแปลก ในป่าลึก"ยุน โบ มี" กำลังเดทกับโปรดิวเซอร์ดังนักมวย MMA อิหร่านเตะก้นสาวริงเกิร์ลบนเวที..โดยอ้างว่าเธอแต่งตัวไม่สุภาพ
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
มีผู้เสียชีวิต 7 ราย ในโรงงานปูนซีเมนต์ ของเวียดนาม😆 ชวนเข้ามาดูภาพถ่ายอันน่าทึ่ง พิสูจน์ว่าไม่มีใครสามารถรู้ทุกอย่าง เกี่ยวกับโลกได้ 😉อวัยวะร่างกายกลัวอะไรเท้าอยู่ไม่สุข เลยเจอ " ห้ามแข่งตลอดชีวิต "สร้างรายได้ Passive Income มนุษย์เงินเดือนอย่างเราก็ทำได้
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
นักมวย MMA อิหร่านเตะก้นสาวริงเกิร์ลบนเวที..โดยอ้างว่าเธอแต่งตัวไม่สุภาพผู้สูงอายุ ที่แท้จริง อายุเริ่มต้นที่เท่าไหร่?ชาวญี่ปุ่นออกตามล่าหาลิงแปลก ในป่าลึกมีผู้เสียชีวิต 7 ราย ในโรงงานปูนซีเมนต์ ของเวียดนาม
ตั้งกระทู้ใหม่