10 อันดับหนังดังจาก Leonardo Dicaprio

10. What’s Eating Gilbert Grape (1993)

Cr. http://ecx.images-amazon.com/images/I/91e1Q2-hzAL._SL1500_.jpg

กำกับภาพยนตร์: Martin Scorsese
นักแสดงนำ
- Leonardo Dicaprio
- Johnny Depp

แม้จะเป็นสาขาเดียวของเรื่องที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล OSCAR อย่างรางวัลสมทบนักแสดงชายยอดเยี่ยม “ลิโอนาร์โด ดิคาปริโอ” ก็ยังไม่สามารถคว้ารางวัลนี้มาครอบครองได้ แสดงประกบคู่อย่าง จอร์นนี่ เดปป์ กับบทบาทตัวละครที่มีสติไม่ค่อยสมประกอบของอาร์นี่ (ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ) ที่ได้รับการดูแลจากกิลเบิร์ต (จอร์นนี่ เดปป์) ครวบครัวพี่น้องที่ขาดเสาหลักของบ้าน ทำให้แม่อยู่ในสภาวะซึมเศร้า และพี่คนโตกลับแยกหนีออกไป ภาระครอบครัวจึงตกมาอยู่กับบรรดาพี่น้องที่ยังเหลืออยู่ เป็นจังหวะชีวิตหนึ่งของมนุษย์ แม้ชีวิตจะย่ำแย่ แต่ก็ยังมีอะไรที่งดงามอยู่เหมือนกัน

9. The Wolf of Wall Street (2013)

Cr. http://assets.fontsinuse.com/static/use-media-items/18/17048/full-1400x2073/56702e13/wolf_of_wall_street_ver3_xxlg.jpeg?resolution=0

กำกับภาพยนตร์: Lasse Hallstrom
นักแสดงนำ
- Leonardo Dicaprio
- Jonah Hill
- Margot Robbie

ไม่รู้เป็นเพราะความบังเอิญหรืออย่างไรที่ลิโอนาร์โดมักจะได้รับเลือกให้ได้รับบทแสดงที่อ้างอิงจากเรื่องจริง ซึ่งเรื่อง “The Wolf of Wall Street” ก็เป็นอีกหนึ่งผลงานที่ได้ถ่ายทอดเรื่องราวของ จอร์แดน เบลฟอร์ (ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ) โบรกเกอร์ชาวนิวยอร์กที่ปฏิเสธการเข้าร่วมแผนฉ้อโกงครั้งใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับบริษัท Wall Street ธนาคารแห่งใหญ่ของโลกที่มีเครือข่ายทั่วทุกพื้นที่ ซึ่งตลอดเรื่องได้เล่าเรื่องราวตั้งแต่จุดสูงสุดไปจนถึงจุดต่ำสุดของเขา รวมถึงการบริหารการเงินและไลฟ์สไตล์ส่วนตัวที่แสนจะวุ่นวายว่าอะไรที่ทำให้เขาได้ว่าสู่จุด ๆ นี้

8. Django Unchained (2012)

Cr. http://afistfulofculture.com/wp-content/uploads/2013/01/Django-Unchained-Poster-Artwork.jpg

กำกับภาพยนตร์: Quentin Tarantino
นักแสดงนำ
- Leonardo Dicaprio
- Jamie Foxx
- Christph Waltz

ภาพยนตร์เรต 18+ ที่ได้รางวัล OSCAR ถึง 2 รางวัล ซึ่งผลงานชิ้นนี้ลิโอนาร์โดได้ทำให้ผู้ชมอินกับคาแร็กเตอร์แบบที่เรียกว่า “เกลียด” ตัวละครนี้กันไปเลย กับบทตัวร้ายระดับสูงที่แสดงได้อย่างร้ายกาจและยอดเยี่ยม เรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนสงครามกลางเมืองทางตอนใต้ของอเมริกา แจงโก้ (เจมี่ ฟอกซ์) ทาสที่ได้พบกับนักล่าค่าหัว ดร.คิง ชุลซ์ (คริสตอฟ วอลซ์) และได้ร่วมมือเพื่อตามหา บรูมฮิลด้า (เครี่ วอชิงตัน) ซึ่งเป็นภรรยาของแจงโก้ แต่กลับพบว่าเธอได้ตกเป็นทาสของ แคลวิน แคนดี้ (ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ) เจ้าของไร่ที่โด่งดังเรื่องความเหี้ยมโหดและซาดิส ทั้งสองจะทำอย่างไรจึงจะสามารถพาเธอออกจากไปจากที่นี่ได้ และหนทางใดที่จะชี้เป็นชี้ตายของพวกเขา

7. The Aviator (2004)

Cr. http://4youthmagazine.com/article/?postid=239

กำกับภาพยนตร์: Martin Scorsese
นักแสดงนำ
- Leonardo Dicaprio
- Cate Blanchett
- Kate Beckinsale

การันตีคุณภาพหนังด้วยรางวัล OSCAR ถึง 5 รางวัล จากการถูกเสนอชื่อเข้าชิงถึง 11 สาขา ซึ่งแน่นอนว่า “ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ” ก็ยังไม่สามารถเอาชนะรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมแห่งปีมาได้ กับเรื่องราวชีวิตจริงของ โฮเวิร์ด ฮิวส์ (ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ) ชายหนุ่มรูปงามและชาญฉลาด ทั้งยังเป็นมหาเศรษฐีพันล้าน เจ้าของอุตสาหกรรมน้ำมันและบ่อคาสิโนที่หลงใหลคลั่งไคล้เครื่องบิน แถมยังเป็นเสือผู้หญิงอีกด้วย การต่อสู้ของชายหนุ่มผู้เต็มเปี่ยมไปด้วยความฝันที่ต้องประสบกับโชคชะตาที่พลิกผัน ทำให้พบอุปสรรคทางร่างกายและความหวาดกลัว จนที่สุดกลับก่อตัวเป็นอารมณ์ที่แปรปรวนและพฤติกรรมที่แปลกแยกที่นำพาให้เขาปลีกตัวจากทุกคนที่อยู่รอบตัว

6. Catch Me If You Can (2002)

Cr. http://www.joblo.com/movie-posters/2002/catch-me-if-you-can#image-15533

กำกับภาพยนตร์: Steven Spielberg
นักแสดงนำ
- Leonardo Dicaprio
- Tom Hanks

ขนาด Frank Agbanale ตัวจริงยังบอกว่าลิโอนาร์โดเล่นได้สมบทบาทมาก ๆ ซึ่งแน่นอนว่าขวัญใจของใครหลาย ๆ คนกับผลงานชิ้นเอกคงไม่พ้นภาพยนตร์เรื่อง “Catch Me If You Can” ที่ได้แสดงคู่กับ Tom Hanks ด้วย กับเรื่องจริงที่เกิดขึ้นของ แฟรงค์ อบาเนล (ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ) ที่ทำงานเป็นทั้งหมอ ทนายความ และนักบิน โดยแฝงตัวเป็นโจรหัวใสที่หลอกปั่น FBI จนหัวหมุนโดยการปลอมแปลงเช็คไปทั่วอเมริกา จึงทำให้นักสืบ คาร์ล ฮันแร็ทตี้ (ทอม แฮงค์) มุ่งมั่นและอดทนกับภารกิจที่สำคัญในการจับกุมแฟรงค์ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม แฟรงค์มักจะนำคาร์ลไปหนึ่งก้าวเสมอ

5. Inception (2010)

Cr. http://cdn.collider.com/wp-content/uploads/Inception-movie-poster-7.jpg

กำกับภาพยนตร์: Christopher Nolan
นักแสดงนำ
- Leonardo Dicaprio
- Joseph Gordon-Levitt
- Ellen Page
- Tom Hardy

ภาพยนตร์คอนเซ็ปต์ยอดเยี่ยมที่พาผู้ชมวิเคราะห์ถึงบทสรุปมาจนถึงทุกวันนี้ กับ “Inception” ที่ขอมารับรางวัล OSCAR ถึง 4 รางวัลทางด้านเทคนิค กับเรื่องราวของ ดอม คอบบ์ (ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ) หัวขโมยมืออาชีพที่มีฝีมือและมันสมองในการฉกความลับจากจิตใต้สำนึกเบื้องลึกระหว่างสภาวะความฝัน อันเป็นเวลาที่จิตเปราะบางมากที่สุด แต่ภาจกิจไม่สำเร็จจึงทำให้เขาเป็นผู้หลบหนีที่ต้องสูญเสียทุกอย่างที่เขารักไป ซึ่ง คอบบ์ กลับได้รับอากาสอีกครั้ง แต่สวนทางกับสิ่งที่แคยทำนั่นคือการปลูกฝังความคิด ด้วยข้อเสนอการคืนชีวิตให้สามารถผ่านด่านเข้าเมืองเพื่อกลับบ้านเกิดได้ จึงทำให้เขาตัดสินใจรับงานนี้อีกครั้ง และแน่นอนว่าแผนการนี้ต้องพึ่งความช่วยเหลือของลูกทีม รวมถึงศัตรูอันตรายที่ดูเหมือนจะล่วงรู้ทุกความเคลื่อนไหล ซึ่งมีเพียงเขาผู้เดียวที่จะมองเห็นและจัดการได้เท่านั้น

4. The Departed (2006)

Cr. https://snarkysmachine.files.wordpress.com/2010/11/the-departed-120-poster-large.jpeg

กำกับภาพยนตร์: Martin Scorsese
นักแสดงนำ
- Leonardo Dicaprio
- Matt Damon
- Jack Nicholson
- Mark Wahlberg

“The Departed” ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมที่กวาดรางวัล OSCAR ไปถึง 4 รางวัล แต่ดันหลุดมือนักแสดงนำชายอย่าง “ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ” จนได้ กับเรื่องราวการทำสงครามระหว่างตำรวจรัฐและองค์กรอาชญากรรม บิลลี่ คอสติแกน (ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ) ตำรวจหนุ่มนอกเครื่องแบบที่ได้รับมอบหมายให้เข้าไปแทรกซึมในกลุ่มอาชญากรโดยที่ คอสเตลโล (แจ็ค นิโคลสัน) เป็นหัวหน้า ในขณะที่บิลลี่ได้รับความไว้วางใจจากคอสเตลโล โคลิน ซุลลิแวน (แมทท์ เดมอน) หนึ่งในกลุ่มอาชญากรโหดก็ได้เข้ามาแทรกซึมในกรมตำรวจเช่นกัน เมื่อต่างฝ่ายต่างสืบความลับและแผนการยิ่งทำให้ต่างคนต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่อาจถูกจับได้ ทั้งสองฝ่ายจึงจำเป็นต้องแข่งขันกับเวลาเพื่อรวบรวมข้อมูลและเปิดโปงฝ่ายศัตรูให้ทันเวลา ใครจะอยู่ใครจะไป ใครที่ไวกว่าเท่านั้นที่จะเป็นผู้รอด!

3. This Boy’s Life (1993)

Cr. http://www.filmsgraded.com/reviews/2006/03/thisbo.htm

กำกับภาพยนตร์: Scott Kalvert
นักแสดงนำ
- Leonardo Dicaprio
- Robert De Niro
- Ellen Barkin

แม้เรื่องแรกในชีวิตที่ลิโอนาร์โดแสดงจะเป็นเรื่อง “Critters III” แต่นั่นกลับกลายเป็นเรื่องที่เขาอยากลืมเลือนบทบาทนี้มากที่สุด จึงทำให้ภาพยนตร์ “This Boy’s Life” เป็นการแจ้งเกิดนักแสดงผู้นี้อย่างเต็มตัวออกมาสู่สายตาคนดูใน 2 ปีถัดมา เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ประทับใจและถูกกล่าวขานกันมาก ซึ่งได้ฝากผลงานการแสดงแม้จะมีอายุเพียง 19 ปีเท่านั้น ทั้งยังได้ประชันฝีมือกับนักแสดงชื่อดังอย่าง โรเบิร์ต เดอร์ นีโร แบบที่ไม่เกรงกลัวบารมีกันเลย กับเรื่องราวของเด็กหนุ่มที่เดินทางข้ามประเทศกับผู้เป็นแม่เพื่อหวังจะมีชีวิตที่ดีขึ้น แต่แล้วกลับไม่ได้เป็นไปตามที่ปรารถนาเมื่อแม่ของเขาได้ตกลงแต่งงานใหม่อีกครั้ง ทำให้เด็กชายต้องประสบเรื่องราวไม่คาดฝันและต้องต่อสู้กับการโดนกดขี่ข่มเหงจากพ่อเลี้ยง บทสรุปนี้จะดำเนินต่อไปอย่างไรมีเพียงตัวเขาเท่านั้นที่จะเลือกคำตอบให้กับตัวเอง

2. Titanic (1997)

Cr. http://www.fan-de-cinema.com/affiches/titanic.html

กำกับภาพยนตร์: James Cameron
นักแสดงนำ
- Leonardo Dicaprio
- Kate Winslet

ถือเป็นภาพยนตร์สลักชื่อที่ทำให้คนทั้งโลกรู้จักนักแสดงที่มีชื่อว่า “ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ” แบบดังเปรี้ยงเหมือนสายฟ้าผ่าลงกลางทะเลซะอย่างนั้น เรียกได้ว่าคนแห่กันไปดูจนคับโรงคับรอบหนังกันเลยทีเดียว ซึ่งแน่นอนว่า “ไททานิค” ครองสถิติหนังทำเงินเป็นอันดับหนึ่งของโลกในประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 12 ปี กับเรื่องราวความรักที่เกิดขึ้นระหว่าง แจ็ค ดอว์สัน (ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ) และ โรส เดวิตต์ บูคาเตอร์ (เคท วินสเล็ต) บนเรือ “Titanic” เรือไอน้ำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดจนได้รับการขนานนามว่าเป็นเรือที่มีความหรูหราและล้ำสมัยที่สุดในยุคนั้น แต่กลับต้องพบจุดจบที่น่าเศร้าจนกลายเป็นโศกนาฏกรรมที่มีชื่อเสียงมากที่สุดจวบจนทุกวันนี้ ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดนั้น มีเพียงคนบนเรือเท่านั้นที่จะรับรู้และถ่ายทอดสิ่งที่เกิดขึ้นออกมาได้ดีที่สุด

1. The Revenant (2015)

Cr. http://www.indiewire.com/article/leonardo-dicaprio-and-tom-hardy-face-off-in-official-the-revenant-posters-20151102

กำกับภาพยนตร์: Alejandro González Iñárritu
นักแสดงนำ
- Leonardo Dicaprio
- Tom Hardy

สิ้นสุดการรอคอยกับรางวัล OSCAR ประเภทนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมที่ “ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ” พยายามทุ่มเทและทุ่มทุนการแสดงอย่างยาวนานและหนักหน่วง กับภาพยนตร์ที่สร้างขึ้นจากแรงบันดาลใจกับเหตุการณ์จริง เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจากการออกสำรวจป่าอเมริกาที่ยังไม่เคยมีการบันทึกลงบนแผนที่ ฮิวจ์ กลาส (ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ) นักสำรวจแห่งตำนานถูกทำร้ายอย่างเหี้ยมโหดและถูกเพื่อนร่วมทีมอย่าง จอห์น ฟิตซ์เจอรัลต์ (ทอม ฮาร์ดี้) ปล่อยทิ้งหวังให้ตายเพียงลำพัง มีเพียงกำลังใจที่เปรียบเสมือนอาวุธไว้ต่อสู้กับความน่ากลัวของผืนป่าและความหนาวเหน็บอย่างหนักเพื่อความอยู่รอดของชีวิต