ก.ศ.ร. กุหลาบ ผู้ปลอมประวัติศาสตร์ หรือปัญญาชนหัวก้าวหน้าแห่งยุคสมัย ?
ก.ศ.ร. กุหลาบ มีนามว่า “กุหลาบ ตฤษณานนท์” เกิดในปี พ.ศ. ๒๓๗๗ เมื่ออายุได้ ๔ ขวบ พระองค์เจ้ากินรี พระเจ้าลูกเธอในรัชกาลที่ ๓ ได้ทรงขอไปเป็นบุตรบุญธรรม จึงได้ใช้ชีวิตอยู่ในวังหลวงจนกระทั่งโกนจุก เมื่อบวชเป็นสามเณร สมเด็จกรมพระปรมานุชิตชิโนรสทรงเป็นองค์อุปัชฌาย์ และประทานฉายานามให้ว่า “เกศะโรภิกขุ” จึงนำมาใช้เป็นอักษรย่อนำหน้าชื่อในภายหลัง ตามความนิยมแบบตะวันตก
เนื่องจากได้ใกล้ชิดเจ้านายและเสนาบดีชั้นผู้ใหญ่จำนวนมาก จึงมีโอกาสในการศึกษาเล่าเรียน อ่านตำรับตำราทั้งที่เป็นของหลวงและของต่างชาติจำนวนมาก ทั้งยังคบค้าสมาคมกับคนรุ่นใหม่ที่มีความตื่นตัวและชอบแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับวิทยาการใหม่ ๆ อยู่เสมอ ก.ศ.ร. กุหลาบ จึงแอบคัดลอกหนังสือในหอหลวง โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับพงศาวดารและจดหมายเหตุต่าง ๆ มาตีพิมพ์เผยแพร่ในหนังสือ “สยามประเภท” ที่เขาจัดพิมพ์ขึ้น โดยมุ่งให้เป็น “สรรพตำราความรู้ฉลาดทางคติธรรมและคติโลกย์ สำหรับมนุษย์บุรุศย์สัตว์สืบกุลบุตรภายน่า”
การนำเอกสารหอหลวงมาตีพิมพ์โดยไม่ได้รับอนุญาตถือเป็นความผิด ดังนั้น ก.ศ.ร. กุหลาบ จึงต้องเปลี่ยนแปลงข้อความ ศักราช และถ้อยคำใหม่ ทำให้ถูกไต่สวนบ่อยครั้งในข้อหาแต่งเติมพงศาวดาร จนคำว่า “กุ” ซึ่งเป็นชื่อของเขา (กุหลาบ) กลายเป็นคำที่มีความหมายว่า การแต่งสรรปั้นเรื่องที่ไม่มีมูลความจริง เชื่อถือไม่ได้ เหตุนี้งานเขียนของ ก.ศ.ร. กุหลาบ จึงไม่ได้รับความสนใจและศึกษาในหมู่นักประวัติศาสตร์เท่าที่ควร ทั้งที่ข้อเขียนของเขาหลายชิ้นสะท้อนให้เห็นถึงโลกทัศน์อันกว้างไกลและความคิดล้ำสมัยของสามัญชนคนธรรมดาที่ต้องการเผยแพร่ความคิดใหม่ ๆ แก่สาธารณชน เพื่อขจัดความเชื่อแบบดั้งเดิมที่ขัดขวางความเจริญของสังคมในเวลานั้น ก.ศ.ร. กุหลาบ เสียชีวิตเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๖๔ รวมอายุได้ ๘๗ ปี
จาก สุดารา สุจฉายา, ประวัติศาสตร์สมัยธนบุรี (กรุงเทพฯ : สารคดี, ๒๕๕๐), หน้า ๑๗.