โดดน้ำเบาๆ กับวิวงามๆ 360 องศา ที่ “เขาสก"
อยู่ดีๆก็อยากพาตัวเองไปโดดน้ำที่ไหนสักที่
ซึ่งความรู้สึกแบบนี้มันเกิดขึ้นตลอดเลย
เคยฝันอยากมีห้องอยู่กลางน้ำ ประมาณว่าวิ่งออกจากห้องแล้วก็โดดลงน้ำได้เลย
กาญจนบุรีคือที่แรกที่นึกถึง
แต่ดันอยากไปเขาสกมากกว่า
เราว่าสองที่นี้คือที่โดดน้ำจากหน้าที่พักได้แบบที่เราต้องการ
ไปค่ะ ที่รัก ไปเขาสกกัน
ทริปนี้พา Olympus EM10 MarkII ไปเที่ยวด้วย
ก็เลยจะมีภาพเยอะเป็นพิเศษ
ภาพทั้งหมดในกระทู้นี้มาจากกล้อง Olympus ล้วนๆ
มีการปรับความสว่างผ่าน Photoshop เล็กน้อย
บางภาพใช้ filter ที่ติดมากับกล้อง
แต่ส่วนใหญ่แล้วจะใช้โหมด iAuto ค่ะ
เราเริ่มจากจองตั๋วแอร์เอเชียล่วงหน้า 1 อาทิตย์ก็ได้ราคาโปรฯแล้ว
กรุงเทพ - สุราษฎร์ธานี เวลา 9.50 - 10.55
เวลาอาจไม่สวยเท่าไหร่ แต่ราคาสบายกระเป๋า
เพราะปกติแล้ว การจะไปเที่ยวแบบคุ้มๆเนี่ย มันควรจะเริ่มตั้งแต่เช้าหน่อย
เพราะเราจะได้มีเวลาเที่ยว มีเวลาเก็บภาพประทับใจได้อย่างเต็มที่
พอถึงแล้วก็หารถตู้เพื่อตรงไปเขื่อนรัชประภาเลย
ปล. แต่ถ้าใครแพลนจะมา แนะนำให้โทรจองรถตู้ก่อนนะคะ
บอกเค้าให้เสร็จสรรพว่าให้มารับที่สนามบิน แล้วไปส่งที่เขื่อน
ถึงแม้ว่ารถจะมีทุกชั่วโมงก็จริง แต่ก็ควรโทรแจ้งก่อน
ซึ่งวันนั้นรถมารับประมาณเที่ยงครึ่งคะ ค่ารถก็ 200 บาท / คน / เที่ยว
(นี่เบอร์คิวรถตู้ 077-287059 โทรไปบอกก่อนได้
พอมาถึงท่าเรือบริเวณสันเขื่อน
บางคนที่จองที่พักมาแล้ว จะมีเรือจากที่พักมารับ
เราไม่ได้จองเรือไว้ก่อน เพราะตอนที่โทรจองแพ 500ไร่ ห้องพักเต็มหมด T^T เลยต้องมาหาเอาดาบหน้า
และพอมาถึงก็สอบถามผู้คนแถวนั้น เพื่อหาข้อมูลที่พัก ซึ่งโชคดีมากมีเจ้าหน้าที่ยื่นแคตตาล็อกที่พักมาให้ ราคาเริ่มต้นที่ 300-3,000 บาท
พอได้ชื่อที่พัก + ราคาที่ต้องการ ก็เสิร์ชหาเบอร์โทร
เพราะมันจะได้ราคาถูกกว่าจองใน แคตตาล็อกแน่นอน (ยอมเสียเวลาเสิร์ชนิดนึง ไม่งั้นโดนฟันค่าที่พักแน่ๆ)
เราเลือกที่พักของแพสายชล คืนละ 1,200 บาท/คน
ห้องน้ำรวม พัดลม อาหาร 3 มื้อ ไม่รวมค่าเรือ
(จากราคาในแคตตาล็อก1,500 ถูกกว่าตั้ง 300 อิอิ)
แล้วก็เราบอกว่า เดี๋ยวหาเรือไปเอง
เพราะเค้าคิดค่าเรือ 2,500 ต่อวันเลย
ถ้าอยู่ 2 คืนจะคิดเพิ่มอีก 1,500
มีคนขับเรือนอนรออยู่ที่แพด้วย ไม่กลับฝั่ง
เรามากันแค่ 2 คน เลยกะจะมาหาคนแชร์ค่าเรือเอาข้างหน้า
แต่ปรากฏว่ามันยากมาก ยิ่งไปวันธรรมดาด้วย ยิ่งไม่มีคน T__T
จึงต้องจำใจยอมจ่ายไป 2,500 ใช้เวลา 1 ชั่วโมงไปถึงตัวแพ
(ณ จุดนี้ ขอนั่งแอร์เอเชียไปแทนได้มั้ย ถูกกว่าอีก 555)
เป็นทริปที่งบบานปลายจริงๆ T_T
ถ้าอยากเที่ยวถูกๆ ควรจะมากับเพื่อนซัก 10 คนนะ
มาช่วยกันแชร์ค่าเรือหน่อย - -“
ก้าวลงเรือพร้อมกระเป๋าเป้ตุง แต่กระเป๋าตังแฟบ
เมื่อเรือออกจากท่ามาซักพัก
ภาพข้างหน้าที่เห็น มันสวยงามเกินคำบรรยายใดๆ
….
ฝนตกค่ะ
ฝนตก!!!!
ฝนตกแต่แดดออก
ในความโชคร้ายมันมีความโชคดีแฝงอยู่
เราได้เห็นรุ้งกินน้ำด้วยยยยยย
ตั้งแต่จุดที่มันกำเนิดยันปลายรุ้งเลย
มหัศจรรย์ ^___^
ไม่ใช่ทุกคนจะได้เห็น
มันอยู่ที่ช่วงเวลาที่เราไปด้วย
ถ้ามาเร็วกว่านี้ก็ไม่เห็นนะแบบเนี้ย
พระอาทิตย์ทำมุมกับละอองฝนพอดี
จึงได้ภาพเซตนี้มาแบบไม่ต้องแต่งอะไรเลย
เค้าว่ากันว่า
ใครที่ได้เห็น end of a rainbow จะโชคดี มีเงินไหลมาเทมา
หราาาาาา........
หมดไปกี่บาทละเนี่ย
หึหึหึ
พอฝนเริ่มซา ก็ออกไปถ่ายรูปกันอีกครั้ง
สายรุ้งก็ยังอยู่กับเราเรื่อยๆ
ชอบจัง
สีน้ำที่นี่เป็นสีเขียว
เหมือนสีน้ำทะเลเลย
เค้าถึงว่ากันไง ว่าเป็นทะเลน้ำจืด
อยากจะกระโดดลงไปซะตอนนี้
แต่พี่คนขับเรือห้ามไว้
เพราะมันเป็นจุดห้ามเล่นน้ำ
จะเห็นว่าบางภาพก็น้ำเขียว บางภาพก็ไม่เขียว
มันเป็นมุมที่แสงตกกระทบค่ะ
ถ้าถ่ายย้อนแสงก็จะไม่เห็นสีน้ำ
ถ้ามาเวลาเที่ยงๆก็จะเห็นทั้งน้ำสีเขียวและฟ้าสีฟ้าเลยหละ
ไปๆมาๆก็เริ่มรู้สึกว่าเวลานี้กำลังดี
4-5 โมงเย็น
เป็นช่วงเวลาที่แสงจากดวงอาทิตย์ส่องผิวน้ำ แล้วน้ำดูสีสวยมาก
ธรรมชาติ มีอะไรมา Surprise ตลอดเลย
ภาพที่ออกมามันเหมือนกับตาเห็นเด๊ะเลย
แบบที่ต้องการ
พี่คนขับเรือจะพากลับไปที่พักแล้ว
อยากจะหยุดเวลาไว้ตรงนี้
ว่าแล้วก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากะจะโพสรูปซักหน่อย
สัญญาณก็หายไปซะแล้ว
คงจะได้หยุดจริงๆ
บอกลาโซเชียลเนตเวิร์คได้เลย
ดินแดนแห่งนี้ ไม่มีอินเตอร์เนต
และสัญญาณโทรศัพท์
มีห้อง 2 แบบ
แบบบ้านไม้พัดลม ห้องน้ำในตัว
และแบบบ้านไม้สีขาวเป็นห้องน้ำรวม คือหลังที่เราจองมานั่นเอง
ที่แพสายชลวันนี้
คนที่มาพักส่วนใหญ่เป็นฝรั่ง
มากันเป็นแก๊งใหญ่ๆเลยประมาณ 10 กว่าคน
ตอนแรกนึกว่าเขื่อนนี้ฮอตแต่กับคนไทยซะอีก
วิวที่นี่สวยแบบ 360 องศาเลยอ่ะ
ภูเขาล้อมรอบ กับหมอกเป็นหย่อมๆ
โชคดีที่ตอนนี้ฝนหยุดตกแล้ว
มันสวยจนเราวางกล้องไม่ลงเลยจริงๆ
นี่กดชัตเตอร์ตลอดตั้งแต่นั่งเรือ ยันเข้าห้องพัก
โหมด iAuto เกือบตลอดงาน มันเวิร์คค่
หลังจากที่เรานั่งเล่นกินลม ชมวิวตรงที่พักจนมืด
พนักงานก็เดินมาเรียกไปทานข้าว
คือมันเยอะมากกกก
มีทั้งถูกปากและไม่ถูกปาก ก็แล้วแต่ใครจะชอบ
ซึ่งสำหรับเราแล้ว
ปลาทอด 1 ตัว (ให้กินทั้งตัวก็เยอะไป๊ แต่กินหมดนะ ฮ่าๆๆๆ)
แกงส้ม (ก็เฉยๆ ค่ะ พอทานได้)
ต้มข่าไก่ (อันนี้ไม่ค่อยถูกปากเราเท่าไหร่)
ผัดผักอะไรไม่รู้ อร่อยแปลกดี
ไข่เจียว
แตงโม
แอบรู้สึกเฟลนิดนึง ตรงที่คิดว่าจะได้กินอาหารทะเล 555
เหมือนที่เคยไปกินที่โฮมสเตย์จันทบุรี
แต่อย่างน้อยมันก็ยังมีอาหารที่ถูกปากอยู่บ้าง
ถ้ามาอีกครั้ง ว่าจะเลือกแบบที่พักไม่รวมอาหาร
แล้วค่อยสั่งมาทานแทนดีกว่า
กำหนดปริมาณได้ และควบคุมค่าใช้จ่ายได้ด้วย
(ที่แพอื่น)
ส่วนเครื่องดื่ม
มีน้ำเปล่ากับน้ำแข็งให้ฟรี ในช่วงระหว่างทานข้าวเท่านั้น
ถ้าอยากกินโค้ก ขวดละ 80 !!!!
เช้าวันใหม่
เราตั้งนาฬิกาปลุกตั้งแต่ 6 โมงเช้า
เพื่อออกมาสูดอากาศ สัมผัสอากาศเย็นๆ
กะจะดูพระอาทิตย์ขึ้น แต่พระอาทิตย์โดนภูเขาบังมิด
(ถึงเขาไม่บัง ก็ตื่นไม่ทันอยู่ดี - -“ )
ตื่นมาคนเดียว
ตั้งกล้องถ่ายรูปตัวเอง
เดินเล่นรอบที่พักคนเดียว เช้าๆนี่เงียบเชียว
ตื่นมาเพื่อรู้ว่า อากาศมันน่านอนจริงๆ
เสร็จแล้วกลับไปนอนต่อ
เนี่ยแหละ ความสุขเล็กๆ
ได้เวลาลงน้ำแล้ว
พายเรือคายัคในเวลา 9 โมงเช้า แดดกำลังดำดีค่ะ 5555
มาเที่ยวทั้งที อย่าได้กลัวแดด
เราพายเรือกันออกไปไกลพอสมควร
จนไปถึงเวิ้งๆหนึ่ง น้ำนิ่งและสงบมาก
เพราะมันอยู่หลังเกาะ คลื่นจากเรือก็เข้ามาไม่ถึง
เราปล่อยให้เรือหยุดนิ่งอยู่ตรงนั้น
วางไม้พาย แล้วปล่อยให้คลื่นเบาๆ พาไป
ไม่ได้จะ SLOW LIFE อะไรนะ
เราเมื่อย
(บ่นๆ พร้อมกับหยิบปลากรอบขึ้นมากิน)
เรามาเล่นน้ำกันต่อที่แพ
แบบโดดจากหน้าที่พักกันเลย
จริงๆที่นี่มันก็มีกิจกรรมให้ทำมากกว่านี้อีกเยอะ
เช่นนั่งเรือไปดูถ้ำ ส่องสัตว์ เล่นน้ำตก
แต่เรามีจุดประสงค์มาแค่โดดน้ำอะ ส่วนถ้ำเราก็ไม่อิน
รู้สึกว่าวิวที่เห็นเนี่ยย มันก็สุดยอดแล้ว
อิ่มตา อิ่มใจแล้ว อยากจะมองมันนานๆ
ก็เลยเลือกอยู่แต่ที่แพแตัวเองนี่แหละ
ประหยัดด้วย
อิอิ
อาบน้ำเก็บของ
และเข้าโรงอาหารไปทานมื้อเที่ยง มื้อสุดท้ายของที่นี่
ก็ยังคงไม่ค่อยถูกปากเหมือนเดิม T_T
คือเราไม่ชอบกินผัก
จบทริปอย่างสวยงาม
ได้กระโดดน้ำสมใจ
บ๊ายบายนะ เขื่อนรัชประภา เขื่อนเชี่ยวหลาน เขาสก
หรือจะเรียกว่าอะไรก็ตาม
เพิ่งจะรู้ไม่นานนี้ว่ามันคือที่เดียวกัน
ก่อนกลับก็ถ่ายรูปคู่เป็นที่ระลึกสักหน่อย
กล้องรุ่นนี้มีระบบสั่งซัตเตอร์ผ่านโทรศัพท์ได้ด้วยนะ
พอขึ้นฝั่ง ก็ส่งภาพผ่านไวไฟ อัพโหลดขึ้นเฟสบุคเลย
หลังจากขาดโซเชียลไป 24 ชั่วโมง
ขึ้นเรือกลับท่าเรือ
แล้วโทรเรียกรถตู้เบอร์เดิมไปส่งที่สนามบินได้เลย
บ๊ายบายนะ
เขาสก
ขอบคุณกระทู้จากคุณ high on dreams สมาชิกเว็บพันทิป
https://www.facebook.com/highondreams
http://www.highondreams.com