ท่องให้ขึ้นใจ…. 9 นิสัยแบบไทยๆ ที่ไม่ควรเอาไปใช้ในต่างประเทศ
ในช่วงปิดเทอมนี้ เพื่อนๆหลายคนอาจจะมีแพลนไปเที่ยวต่างประเทศใช่ไหมละครับ ซึ่งส่วนอาจจะไปทำงานซัมเมอร์ที่ต่างประเทศ วันนี้ Wegointer เลยมีข้อแนะนำมาฝากเพื่อนๆครับ ในเรื่อง 10 นิสัยไทยๆที่ไม่ควรนำไปใช้ในต่างประเทศ
1. การมาสาย
คนต่างชาติโดยเฉพาะชาวตะวันตกกับชาวญี่ปุ่นเค้าถือเรื่องเวลาเอามากๆ ควรจะไปก่อนนัดประมาณ 5-10 นาทีครับ ซึ่งต่างจากคนไทย ที่มักจะขาดระเบียบเรื่องเวลาตลอด สายนิดสายหน่อยไม่ว่ากัน
2. การแซงคิว
ที่ต่างประเทศเรื่องการเข้าคิวเป็นเรื่องที่สำคัญอีกเรื่องเหมือนกัน อย่าเผลอเอานิสัยคนไทยไปแซงคิวใครต่อใครในต่างประเทศเข้าหล่ะ อาจจะโดนด่าเอาซึ่งๆหน้าได้เลยครับ
3. การกินอาหาร
ประเทศอื่นๆ เค้ากินจานใครจานมัน ไม่ได้สั่งมาหลายๆอย่างแล้วแชร์กันกินแบบคนไทยถ้าไปงานปาร์ตี้แล้วมีอาหารบุฟเฟ่ เวลาตักอาหารให้ตักพอกินอิ่มในรอบเดียว นอกจากนี้ การนำอาหารจากนอกร้านเข้ามานั่งกินในร้านอาหารก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรทำครับ
อย่างไรก็ตามวัฒนธรรมการกินแต่ละประเทศย่อมแตกต่างกัน ทางที่ดีควรจะศึกษาวัฒธรรมการกินของแต่ละประเทศให้ดีก่อนครับ
4. การข้ามถนน
การทางม้าลายจะปลอดภัยที่สุดเพราะต่างประเทศส่วนใหญ่คนขับเค้าจะหยุดรถให้คนที่ข้ามทางม้าลาย หากรถหยุดแล้วให้รีบข้ามแล้วพยักหัวขอบคุณเล็กน้อยครับเพื่อเป็นมารยาท อย่าข้ามถนนไปคุยไป และในการข้ามถนนบางแห่งต้องกดปุ่มสัญญาณก่อนข้ามด้วยครับ
5. การขับรถ
การขับรถในต่างประเทศนั้นเค้าจะเคารพกฎจราจรมากๆ เนื่องจากแทบทุกถนนจะมีกล้องวงจรปิด เอาไว้จับคนขับรถผิดกฎ ณ ทุกเวลาทุกสถานที่ ดังนั้นควรศึกษากฎจราจรของประเทศนั้นๆ ไว้ก่อนจะได้ไม่ขับผิดกฏแล้วโดนปรับ ซึ่งขอบอกเลยว่าค่าปรับที่ต่างประเทศแพงมากๆครับ
6. การให้ทิป
หลังจ่ายเงินค่าอาหารแล้วบางประเทศเค้าถือเป็นข้อกำหนดเลยว่าเราต้องให้ทิปอย่างน้อย 10% ของค่าอาหาร บางประเทศถ้าไม่ยอมจ่ายจะถือว่าเป็นการเสียมารยาทแม้ว่าจะไม่ได้เป็นข้อกำหนดตายตัว การให้ทิปไม่เพียงเฉพาะกับร้านอาหารเท่านั้น แต่รวมไปถึงงานบริการต่างๆด้วยครับ
7. การสั่งน้ำมูก
สำหรับประเทศอังกฤษ หากมีน้ำมูกไหล ให้สั่งน้ำมูกทันที ห้ามสูดน้ำมูกเด็ดขาดครับ เพราะถือว่าเป็นการเสียมารยาทมากๆ โดยคนอังกฤษมักจะเป็นหวัดตลอดเวลาเนื่องจากอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย เค้าก็จะมีทิชชู่หรือผ้าเช็ดหน้าพอไว้ตลอดเวลาครับ
8. การต่อราคาของ
ถ้าไปร้านที่เจ้าของไม่ได้ขายเองก็ไม่ควรไปต่อราคาเพราะเด็กในร้านก็เป็นลูกจ้าง ขายเฉพาะสินค้าตามราคาป้ายเท่านั้น จะไปต่อของลดราคากับเค้าแบบในไทยไม่ได้ ในต่างประเทศส่วนมากราคาของต่างๆ ขายตามป้ายไม่มีการลดราคาใดๆ
9. การรองเท้าในบ้าน
ในบางประเทศ การใส่รองเท้าในบ้านถือว่าเป็นเรื่องปกติครับ ยกตัวอย่างเช่นประเทศอเมริกา บางบ้านเค้าก็จะมีรองเท้าให้เปลี่ยนเราก็เปลี่ยนไป อย่างไรก็ตาม ควรถามเจ้าบ้านก่อนว่าจะให้ถอดหรือจะให้ใส่ครับ เพราะแต่ละบ้านอาจจะปฏิบัติต่างกัน
ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อแนะนำในเบื้องต้นคร่าวๆ อย่างไรก็ตามหากจะไปเที่ยวในต่างประเทศ ก็ควรศึกษาเรื่องวัฒนธรรมของประเทศนั้นๆให้ดีครับ เพราะถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญเอามากๆ เลย
ที่มา: travelling-ok.exteen.com
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
2569 ตรงกับเป็นปีนักษัตรอะไร สีนำโชค พร้อมปีชง
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
"ฮุนเซน" เงินหมด ทหาร BHQ คู่ใจทรยศ แอบซบอก "สมรังสี"
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
"เจนสุดา" ฟาดแรง! "นานา" อย่าเอาเด็กมาเรียกความสงสาร..น้ำตาไม่ได้ช่วยอะไรเลย
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
สภาทนายความ แจงเหตุลบชื่อ ‘ทนายคนดัง’ ออกจากทะเบียนทนาย
หัวใจแตกสลายทั้งโซเชียล! "สาวญี่ปุ่น" สุดคิวท์ถูกแมวป่วนใต้กระโปรง แท้จริงคือคุณพ่อลูกสอง วัย 48
ตำรวจเรียกสอบเพื่อนสนิทที่อยู่ในเหตุการณ์คืนที่ "นัทปง" เสียชีวิต
ถามหาพี่เวย์ พี่เวย์ก็มา ในไลฟ์ของชีนานาเมื่อคืน นอกจากมาช่วยขายบัตรคอนแปปนึงแล้ว ก็มาถือเค้กแฮปปี้เบิร์ดเดย์ชีนานาด้วย
"เจนสุดา" ฟาดแรง! "นานา" อย่าเอาเด็กมาเรียกความสงสาร..น้ำตาไม่ได้ช่วยอะไรเลย
ตำรวจเรียกสอบเพื่อนสนิทที่อยู่ในเหตุการณ์คืนที่ "นัทปง" เสียชีวิต
สยอง! งูยักษ์ 5 เมตรหนัก 60 กิโลฯ พังเพดานห้องน้ำ จู่โจมบ้านชาวมาเลเซีย
หัวใจแตกสลายทั้งโซเชียล! "สาวญี่ปุ่น" สุดคิวท์ถูกแมวป่วนใต้กระโปรง แท้จริงคือคุณพ่อลูกสอง วัย 48
จัดอันดับแมลงมีพิษที่สุดในไทย











