13 ชั่วโมง "เบนกาซี" เรื่องจริงไม่มีสปอย
โพสท์โดย ผีเจ้า
13 ชั่วโมง "เบนกาซี" เรื่องจริงไม่มีสปอย
ไมเคิล เบย์ผู้กำกับชื่อดังที่กำกับหนังอย่าง Pearl Harbor และ Transformer ที่ในปีนี้หนังใหม่อย่าง 13 Hours: The Secret Soldiers of Benghazi ที่จะเข้าฉายวันพฤหัสหน้า ได้มีบทที่นำบางส่วนมาจากเรื่องจริงในเหตุการณ์โจมตีสถานทูตของสหรัฐฯ ในลิเบีย ในตัวอย่างหนังเราจะเห็นทหารรับจ้างอดีตทหารสหรัฐฯ ที่มาทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้กับพนักงานของสหรัฐฯ มีช่วงดราม่าของทหาร ความตึงเครียดของสถานการณ์ในตอนนั้น ผมยังไม่ได้ดูหรอกนะครับ แต่ว่าเหตุการณ์นี้มีพูดถึงแล้วพูดถึงอีกอยู่เรื่อยๆ เพราะเป็นเหตุการณ์ที่ใช้โจมตีฮิลลารี คลินตันผู้สมัครประธานาธิบดีพรรค Democrat ในปี 2016
ในปี 2012 ปีที่ประเทศลีเบียอยู่ในช่วงไร้เสถียรภาพทางการเมือง ปี 2011 หนึ่งปีก่อนหน้า ได้เกิดการล้มล้างอำนาจรัฐบาลของนายมูอัลมา กัตตาฟีจากเหตุการณ์ต่อเนื่องจากการชุมนุมประท้วงที่ตูนีเซียในชุดเหตุการณ์ที่เรียกว่าอาหรับสปริส์นั่นเอง
สหรัฐฯ สนับสนุนกลุ่มต่อต้านรัฐบาลของกัตตาฟีโดยการส่งอาวุธผ่านประเทศกาต้าร์ หลายๆประเทศต่างเริ่มมีความกังวลต่ออาวุธที่ส่งให้เหล่าผู้ต่อต้านกัตตาฟี เพราะว่าหนึ่งในกลุ่มผู้ต่อต้านเองก็เคยเป็นแนวร่วมกับกลุ่มอิสลามหัวรุนแรงและอัลกออิดะฮ์ ตอนนี้เหล่าผู้ที่เป็นศัตรูของสหรัฐฯ ได้รับการติดอาวุธ มีกำลังคน และมีความพร้อมจะโจมตีศัตรูเก่าแล้ว
ในต้นปี 2012 เจ้าหน้าที่ดูแลด้านความปลอดภัยในลิเบียของสหรัฐฯ ขอให้ส่งกำลังเสริมมาเพิ่มความปลอดภัยให้กับอาคารดำเนินการในเบนกาซี เนื่องจากในขณะนั้นมีเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยอาคารดังกล่าวเพียง 3 คนเท่านั้น... ในตอนนั้นรัฐบาลนำโดยประธานาธิบดีบารัค โอบาม่ามีฮิลลารี คลินตันเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (Secretary of State) ได้ปฏิเสธคำร้องและไม่ได้ส่งกำลังพลเพิ่มเข้าไปแต่อย่างใด
ในวันที่ 11 กันยายน 2012 เหตุการณ์ที่มิได้คาดการณ์ไว้ก็เกิดขึ้น ในค่ำคืนที่ดูสงบเงียบไร้ซึ่งสิ่งบ่งชี้ว่าจะมีการโจมตีเกิดขึ้น กลุ่มติดอาวุธร่วม 200 คน พร้อมอาวุธหนัก เครื่องยิงระเบิด ปืนกล รถติดตั้งปืนกล ตะโกน "อัลลอหุ อักบัร" และเข้าบุกโจมตีอาคารดำเนินการจากทุกทิศทุกทาง ในเวลานั้นเองทูตสหรัฐฯประจำลิเบีย คริส สตีเว่นก็อยู่ที่นั่นด้วย เมื่อมีการแจ้งเตือนการโจมตี เจ้าหน้าที่พิเศษด้านรักษาความปลอดภัยได้พาตัวท่านทูตและเจ้าหน้าที่อีกหนึ่งคนเข้าเซฟรูมแล้วซีลประตูอย่างแน่หนา ด้านทีมรักษาความปลอดภัยที่มีอยู่ไม่มากหนัก ได้หลบเข้าไปอีกอาคารเพื่อไปเอาอาวุธ แต่ก็ไม่สามารถกลับมาที่อาคารหลักซึ่งเต็มไปด้วยกลุ่มผู้ก่อการร้ายได้
เมื่อผู้ก่อการร้ายไม่สามารถทำลายประตูเซฟรูมได้ จึงราดน้ำมันไปทั่ว และจุดไฟเผาอาคารในทันที ด้วยจำนวนควันมหาศาล ทำให้ทั้งสามคนต้องออกจากเซฟรูม นำโดยเจ้าหน้าที่พิเศษออกจากอาคารที่กำลังถูกไฟโหมไหม้ เมื่อเขาออกจากอาคารได้ก็ไม่พบว่ามีใครตามหลังเขามาเลย ต่อมาเมื่อทีมสนับสนุนเข้ามาถึงก็พบแต่เพียงร่างของเจ้าหน้าที่อีกคนที่เข้าไปด้วย ควันดำสนิทปกคลุมภายในอาคาร ทำให้ไม่สามารถหาร่องรอยใดๆ ของท่านทูตสตีเว่นได้
จริงๆแล้ว ทีมสนับสนุนไม่ได้อยู่ห่างจากอาคารที่โดนโจมตีนัก แต่ใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมงในภารกิจช่วยเหลือนี้แทนที่จะเป็นแค่ 5 นาทีเท่านั้น
ทีมสนับสนุนของ CIA ได้เข้าไปที่บริเวณอาคารและช่วยเหลือเจ้าหน้าที่กลับสู่อาคารของ CIA ในเบนกาซี ซึ่งก็ถูกดักซุ่มโจมตีตลอดทางจนถึงอาคารของ CIA
ทั้งคืนนั้นจนถึงเช้า กลุ่มก่อการร้ายระดมยิงปืนและระเบิดอาคารของ CIA เป็นระยะๆ จนถึงเวลาตี 5 ของเช้าวันถัดมา แผนอพยบได้เริ่มต้นขึ้น กองทัพลิเบีย กำลังเสริมจาก CIA และ ASOC เข้าช่วยเหลือคนอเมริกัน 32 คนและพนักงานของสหรัฐฯออกจากอาคารของ CIA ในขณะที่รถกำลังพาคนอพยบออกจากบริเวณอาคาร กลุ่มก่อการร้ายก็ระดมยิงเข้าสู่อาคาร ทหารกล้า 4 คนบนหลังคาช่วยกันป้องกันการโจมตีของข้าศึก จนกระทั้งหัวหน้าศูนย์ออกคำสั่งอพยบทุกคนออกจากบริเวณอาคาร
ทหาร 2 คนถูกฆ่าจากการป้องกัน เจ้าหน้าที่และท่านทูตจากการเผาอาคาร รวม 4 คน
ท่านทูตสตีเว่นถูกพบเป็นร่างที่ไร้สติอยู่นอกอาคารที่ลุกไหม้ คนซีเรียบริเวณนั้นพบและได้เข้าช่วยเหลือเพื่อนำส่งโรงพยาบาลแต่ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตไว้ได้ นับเป็นทูตคนที่ 6 ที่เสียชีวิตในหน้าที่ในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา
นอกจากนั้นแล้วรายชื่อคนลิเบียที่ช่วยเหลือรัฐบาลสหรัฐฯ ก็หายไปเช่นกัน
หลังจากนั้นอีก 10 วัน คนลิเบียหลายหมื่น ออกมาประท้วงกองกำลังติดอาวุธที่ชื่อว่าอันซาร์ อัลชาเรียที่เป็นหนึ่งในกองกำลังปลดปล่อยลิเบียเมื่อปีที่แล้ว และมีสมาชิกบางคนในกลุ่มที่โจมตีอาคารของสหรัฐฯ ป้ายอย่าง "ขอความยุติธรรมให้คริส", "คริสเป็นเพื่อนของชาวลิเบียทุกคน" หรือ "ลิเบียเสียเพื่อนไปหนึ่ง" ถูกยกขึ้นในการชุมนุม กลุ่มอันซาร์ฯต้องหนีและถูกจับ รถและอาคารถูกเผา รัฐบาลของลิเบียออกมาประกาศกวาดล้างกลุ่มติดอาวุธที่หลงเหลืออยู่หลังยุคปฏิวัติ
โอบาม่าที่ตอนนั้นอยู่ระหว่างการเลือกตั้งเพื่อเข้ามาดำรงตำแหน่งในเทอมที่ 2 ต้องรับมือกับสื่ออยู่ไม่น้อย และเหตุการณ์นี้ก็ย้อนมาทำร้ายฮิลลารี่อีกครั้งในการเลือกตั้ง 2016 ที่กำลังจะมาถึงในปีนี้ แต่เหมือนว่าเรื่องนี้จะไม่ค่อยเป็นประเด็นเท่าไรสำหรับหญิงแกร่ง อดีตหญิงหมายเลขหนึ่งของสหรัฐครับ
หนังเรื่องนี้คอหนังแอคชั่นไม่ควรพลาดเลยนะครับ มันส์สุดติ่ง ลุ้นเยี่ยวเหนี่ยวพอๆ กับดูแมนยู
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
20 VOTES (4/5 จาก 5 คน)
VOTED: เอ๋ง ไม่ดัดจริต, ninkasem, kleoland
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
สุนัขรักเราแน่ หรือแค่หวังขนม? ผลวิจัยใหม่เผยคำตอบที่คุณต้องอ่าน!โดนอีกแล้ว!!หลานถูกแก๊งคอลเซนเตอร์ โอนเงินของปู่-ย่า ให้ตรวจเกลี้ยงบัญชี 3.4 ล้านหนุ่มต่างชาติซัดไก่ย่าง-ส้มตำเชียงใหม่ แทบก้มกราบ อร่อยถูกใจเกินคาดHot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
เชื้อ “โนโรไวรัส” กำลังระบาดหนักในจีน และยังไม่มียารักษา เผยเชื้อต้านเจลแอลกอฮอล์สุนัขรักเราแน่ หรือแค่หวังขนม? ผลวิจัยใหม่เผยคำตอบที่คุณต้องอ่าน!หนุ่มต่างชาติซัดไก่ย่าง-ส้มตำเชียงใหม่ แทบก้มกราบ อร่อยถูกใจเกินคาด"หุ้นมือใหม่เริ่มยังไง? เทคนิคปั้นพอร์ตจาก 0 ให้เติบโตอย่างมั่นคง"