หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ตำนานปริศนา !!? "แจ็คขาสปริง"

โพสท์โดย ผีเจ้า

 



แจ็ค ข้อเท้าสปริง (Spring Heeled Jack) เป็นตัวละครตัวหนึ่งในคติชนวิทยาอังกฤษ ว่ากันว่าเป็นผู้ต้องหาลึกลับ
ที่ก่อคดีลวนลามผู้หญิงหลายรายในยุควิคตอเรียของประวัติศาสตร์อังกฤษ ที่จนถึงบัดนี้ก็ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร
โดยแต่งตัวประหลาดคล้ายผีหรือปีศาจรูปร่างผอมสูง และสามารถกระโดดได้สูงมากผิดมนุษย์ปกติธรรมดา



เรื่องราวของแจ็ค ข้อเท้าสปริง เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1836 ตรงกับรัชสมัยการครองราชย์ของสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย
โดยในขณะนั้นพระองค์มีพระชนมายุได้เพียง 18 พรรษา โดยนักธุรกิจผู้หนึ่งกำลังเดินกลับบ้านในเวลากลางคืน

เขาก็ได้พบชายประหลาดคนหนึ่ง กำลังก้าวกระโดดอยู่เหนือหัวของเขา ก่อนที่จะหายไปในความมืด
ซึ่งในขณะนั้น ยังไม่ปรากฏแจ็ค ข้อเท้าสปริง นี้ทำร้ายใคร

ในขณะนั้น มหานครลอนดอนยังไม่ได้มีการจัดระเบียบตัวเมือง ให้เป็นระเบียบเหมือนปัจจุบันถนนหนทางยังไม่มีการราดยางมะตอย บริเวณแถบใจกลางเมืองเต็มไปด้วยโรงงานและบ้านพักของคนงาน นับว่าค่อนข้างจอแจพอสมควร

อีกด้านหนึ่งเป็นแหล่งอาชญากรรมที่เต็มไปด้วยมิจฉาชีพ โจร โสเภณีและยาเสพย์ติด
มีคดีอาชญากรรมประเภทลักจี้ชิงปล้น หรือฆ่าข่มขืน เกิดขึ้นประจำ แสงสว่างในตัวเมืองในยามค่ำคืนมีเพียงแสงจันทร์ แสงเทียนและตะเกียงน้ำมันเท่านั้น ดังนั้นเมื่อพลบค่ำจึงกลายเป็นสถานที่เปลี่ยว



แจ็ค ข้อเท้าสปริงปรากฏเป็นคดีความครั้งแรกในตอนเย็น ของวันที่ 11 ตุลาคม ค.ศ. 1837
หลังจากกรมตำรวจลอนดอนก่อตั้งได้ 8 ปี เมื่อ พอลลี่ อดัม อายุ 17 ปี สาวเสิร์ฟของกรีนแมนอิน โรงแรมในย่านแบล็คอีธ
ออกเดทกับลูกชายของเจ้าของโรงแรม ในงานเทศกาลฉลองการเก็บเกี่ยว

พอลลี่เดินทางลัดตรงเนินเขาในยามค่ำคืนที่เปลี่ยวปราศจากผู้คน ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่แขวนคอนักโทษสมัยโบราณ
เพิ่มความหวาดกลัวแก่เธอ เมื่อเธอเดินถึงจุดที่ตั้งของหินก้อนใหญ่ที่ถูกเรียกว่า ไวท์ฟิลด์เมาท์



ก็ปรากฏเงาดำขึ้นออกจากหลืบหินนั้น มันฉีกเสื้อผ้าของเธอจนเห็นทรวงอกก่อนที่มันจะจับหน้าอกเธอ !!
พอลล่าหวีดร้องสุดเสียง จนเจ้าของเงาดำนั้นตกใจ มันผละออกจากพอลลี่พร้อมกับเอามือเท้าสะเอวและพ่นไฟสีเงินออกมา
และกระโดดหนีไปในความมืด

เมื่อพอลลี่เห็นมันไปแล้วเธอก็โล่งใจและสลบคาพื้น ก่อนที่คนผ่านทางช่วยเอาไว้และส่งตัวไปยังโรงพยาบาล
เมื่อเธอฟื้นขึ้นมา เธอเล่าเรื่องที่เธอเห็น ซึ่งต่อมาก็โด่งดังจนกลายเป็นปากต่อปาก
แต่ว่าในตอนนั้นเป็นเพียงแค่คดีพยายามข่มขืนในทางเปลี่ยว หรือการกลั่นแกล้งของวัยรุ่นขี้เมาจากงานฉลองมากกว่า



จากนั้น เรื่องราวของแจ็ค ข้อเท้าสปริง ก็ได้ถูกกล่าวอ้างถึงอีกหลายรายและหลายที่ เช่น ในเมืองเชฟฟิลด์ และลิเวอร์พูล
โดยเหยื่อมีลักษณะคล้ายกัน คือ เป็นหญิงสาวสวยวัยรุ่น และถูกลวนลามคล้าย ๆ กัน
แต่ไม่ปรากฏว่ามีการกระทำอื่นใดนอกเหนือจากนี้ ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ติดใจทื่จะสอบสวนแต่อย่างใด



จนกระทั่งในวันที่ 9 มกราคม ค.ศ. 1838 เรื่องนี้ถูกยกหัวข้อขึ้นในที่ประชุมพิจารณาคดีในกรุงลอนดอน
ปรากฏมีประชาชนชาวลอนดอนยอมฝ่าหิมะเพื่อไปสภาเมืองอย่างแน่นขนัด

ผู้ว่าการเมืองได้แจ้งรายงานการบริหารงานเทศบาล และจากนั้นก็มีการอภิปรายเกี่ยวกับญัตติต่าง ๆ ที่ชาวเมืองเสนอมา และช่วงสุดท้ายของการประชุมนั้น ผู้ว่าได้หยิบบัตรสนเท่ที่ส่งมาจากผู้หญิงคนหนึ่ง และได้ให้ตัวแทนอ่านออกเสียงต่อหน้าฝูงชน

เป็นเรื่องการแจ้งความเรื่องมนุษย์ประหลาด ที่ตระเวนหลอกผู้หญิงตกใจกลัวในแถบชานเมืองกรุงลอนดอน
จดหมายฉบับนี้ยังบอกว่ามนุษย์ประหลาดผู้นี้ คือ ขุนนางคนหนึ่งที่เล่นพนันขันต่อกับเพื่อน ผู้ชื่นชอบการกลั่นแกล้งคนว่า

"กล้าแต่งตัวเป็นปีศาจหรือเป็นผี แล้วตระเวนไปหลอกตามบ้านคนหรือเปล่า"
และเพื่อนคนนั้นก็ตกลงรับคำท้าและปลอมตัวเป็นมนุษย์ประหลาดดังกล่าว
และจนบัดนี้การเล่นพิเรนทร์นี้ยังคงดำเนินต่อไป แล้วดูเหมือนจะรุนแรงขึ้นเป็นลำดับ



จึงอยากขอให้ผู้ว่าการเมืองหยุดการกระทำเช่นนี้ เมื่ออ่านจบก็มีเสียงดังจากประชาชนโดยรอบ
ที่ออกมาให้กาว่าพบเห็นมนุษย์ประหลาดเช่นกันและ เกิดเสียงตอบรับอย่างมากในหมู่ประชาชน

เช้าวันต่อมา มนุษย์ประหลาดผู้นี้ได้ถูกตั้งชื่อในหนังสือพิมพ์ว่า "แจ็ค ข้อเท้าสปริง" (Spring Heeled Jack)
และกลายเป็นที่รู้จักกันไปทั่วอังกฤษในเวลานั้น เพราะมีการร้องทุกข์จากผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก และมีบางคนเกิดคดีที่ว่านี้นอกกรุงลอนดอนด้วย



เมื่อสถานการณ์ลุกลามถึงระดับนี้แล้ว ทางสก็อตแลนด์ยาร์ดก็ไม่อาจอยู่นิ่งได้
เนื่องจากมันมีผลต่อจิตวิทยาของชาวลอนดอนด้วย ซึ่งถ้าจิตใจของประชาชนหวาดกลัวสิ่งลึกลับ ที่ไม่สามารถอธิบายได้จะส่งผลต่อการดำเนินชีวิตในส่วนรวมด้วย

อังกฤษในเวลานั้นก็ไม่สงบสุขนัก เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการปฏิวัติฝรั่งเศส และการประกาศเอกราชของสหรัฐอเมริกา อีกทั้งสมเด็จพระราชินีวิกตอเรียก็ยังมีพระชนมายุเพียง 18 พรรษา อนาคตการครองราชย์ยังไม่แน่ไม่นอน

บวกกับเป็นช่วงลัทธิทุนนิยมเริ่มเข้ามาส่งผล ทำให้เกิดความต่างฐานะคนรวยกับคนจนอย่างมาก
พวกขุนนางมีชีวิตที่หรูหรากินดีอยู่ดี ส่วนชนชั้นกรรมกรต่างลำบากในการหากิน และพวกขอทานที่ไร้ที่อยู่อาศัย
ดังนั้น การปรากฏตัวของแจ็ค ข้อเท้าสปริง มีทั้งข้อดีและไม่ดีปะปนกัน

ในด้านไม่ดีคือมันสร้างความเดือดร้อนต่อสังคม ส่วนด้านดีคือมันกลายเป็นหัวข้อข่าวที่โด่งดังและนิยมในสมัยนั้น
มันเป็นข่าวที่ทำให้ผู้คนได้ลืมความต่ำต้อยของฐานะ บางคนยกย่องเป็น ฮีโร่ หรือ ขวัญใจของประชาชน ด้วยซ้ำ
เหมือนในกรณีแจ๊ค เดอะ ริปเปอร์ เป็นต้น



ปี ค.ศ. 1837 ที่แจ็ค ข้อเท้าสปริง ออกอาละวาดนั้น กรมตำรวจลอนดอนพึ่งถูกตั้งขึ้นมาเพียง 9 ปี
จึงยังไม่มีประสบการณ์ ทำให้การจับตัวแจ็ค ข้อเท้าสปริงนี้เป็นไปได้ยากลำบากมาก

และพฤติกรรมที่มักปรากฏตัวอย่างผลุบ ๆ โผล่ ๆ ไม่ปรากฏตัวที่เดิมจึงไม่สามารถวางกำลังล้อมจับได้
เมื่อตำรวจไม่สามารถทำอะไรได้ กลุ่มประชาชนจึงอาสาสมัครมาเป็นคนตรวจตรายามค่ำคืนเอง

โดยมี ผู้มีชื่อเสียงอย่าง เวลลิงตัน อาเธอร์ เวลเลสลีย์ ที่เป็นนายพลในสงครามนโปเลียน
ซึ่งสามารถเอาชนะนโปเลียนได้ที่วอเตอร์ลู ในเบลเยี่ยม ก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ออกตรวจตรายามค่ำคืนด้วยเช่นกัน
โดยหวังว่าจะจับตัวแจ็ค ข้อเท้าสปริงให้ได้

แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่อาจที่จะทำได้ ต่อมามีคนเสนอรางวัลนำจับแจ็ค ข้อเท้าสปริงเป็นจำนวนเงินกว่า 100 ปอนด์
หากสามารถจับตัวแจ็ค ข้อเท้าสปริงได้ จนต้องเพิ่มเงินรางวัลขึ้นถึง 1 พันล้านปอนด์


ภาพวาดของ เฮนรี่ เดอ ลา บัว เบเรสฟอร์ด
มาร์ควิสแห่งวอเตอร์ฟอร์ด
ผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นแจ็ค ข้อเท้าสปริง (ค.ศ. 1840)

มีการตั้งข้อสันนิษฐานว่าผู้ที่เป็นแจ็ค ข้อเท้าสปริงนั้น เป็นขุนนางชาวไอริชที่ชื่อ เฮนรี่ เดอ ลา บัว เบเรสฟอร์ด
ซึ่งเป็นมาร์ควิสแห่งวอเตอร์ฟอร์ด

วอลเตอร์เกิดในปี ค.ศ. 1811 และในปี ค.ศ. 1837 ที่แจ็ค ข้อเท้าสปริงปรากฏตัวขึ้นครั้งแรกนั้นเขาอายุ 26 ปี และเป็นโสด
บิดาของเขา คือ มาร์ควิสจอห์น เบเรสฟอร์ด เป็นขุนนางที่ร่ำรวยมหาศาลและถือครองที่ดินผืนใหญ่ในไอร์แลนด์และอังกฤษ

เฮนรี่ซึ่งเป็นบุตรชายเพียงคนเดียวจึงถูกเลี้ยงดูอย่างฟุ่มเฟือยหรูหรา จนทำให้เขาเป็นคนนิสัยเสียและชอบแกล้งผู้คนอย่างเกินเหตุ



วอลเตอร์เป็นชายที่มีหน้าตาค่อนข้างหล่อเหลาและมีผมสีดำ เขาอาศัยอยู่บ้านพักตากอากาศในกรุงลอนดอนเวลานั้น
จุดเด่นเขาคือดวงตาที่กลมโต เป็นคนที่มีรูปร่างสูงใหญ่และชอบใช้กำลังตัดสินปัญหา
ตอนสมัยเรียนอยู่ชั้นมัธยมต้น ที่วิทยาลัยอีตันในวินด์เซอร์ เขาเคยถูกจับ

เพราะรวมหัวพวกเพื่อนคอยยืนอยู่บนหลังอาคารเรียน เพื่อดักปัสสาวะรดหัวอาจารย์ที่เดินผ่านมา และในสมัยเรียนที่อ็อกซฟอร์ดเขาก็เคยถูกลอบทำร้ายโดนคนกลุ่มหนึ่ง จนเขารู้สึกเจ็บใจและได้แก้แค้นโดยการพังบ้านของชายที่เป็นตัวการนั้นพังยับ

นอกจากนี้วอลเตอร์ยังขึ้นชื่อเรื่องด้านกีฬาด้วย เขาเคยถูกเลือกเป็นฝีพายยอดเยี่ยม ในการแข่งขันพายเรือของออกซฟอร์ด
และอีกด้านหนึ่งเขายังเป็นนักพนันตัวยงอีกด้วย



จากความที่เขาหน้าตาดีทำให้เขาเป็นหนุ่มเนื้อหอม จนทำให้ชาวลอนดอนรู้จักเขาไปทั่ว ในฐานะขุนนางเสเพลที่ไม่เกรงกลัวใคร
เขาถูกตำรวจจับเป็นว่าเล่นฐานชกต่อยชาวบ้าน ในตอนที่แจ็ค ข้อเท้าสปริงปรากฏตัว และมีบัตรสนเท่บอกว่าชายส้นเท้านั้นเป็นขุนนางเสเพลปลอมตัวแกล้งคนนั้น ตำรวจเองก็เพ่งเป้าไปที่เขาก่อนอันดับแรก

แต่กระนั้นวอลเตอร์ก็มิได้ใส่ใจข่าวดังกล่าว เขายังคงดำเนินการแกล้งแผลง ๆ ให้คนอื่นเดือดร้อนต่อไป
เช่น เขาเป็นลูกค้าประจำบ่อนพนันและซ่องโสเภณี
เขามักเมาหัวราน้ำและพูดตลกด้วยคำผรุสวาทกับชายเสเพลและหญิงขายบริการเป็นประจำ

เขาเคยนำสุนัขพันธุ์บลัดฮาวด์ไปที่โบสถ์ เพื่อให้มันวิ่งไล่กัดบาทหลวง
และเคยนำลาไปนอนบนเตียงของแขกที่มาพักโรงแรม เพื่อให้แขกตกใจด้วย
และยังมีพฤติกรรมแผลง ๆ หลุดโลกอีกหลายอย่าง เช่น การปล่อยให้รถไฟ 2 ขบวนวิ่งชนกันจนเสียหายอย่างหนัก
ในขณะที่เขาหัวเราะชอบใจ เป็นต้น



ซึ่งในขณะที่แจ็ค ข้อเท้าสปริงปรากฏตัวนั้น วอลเตอร์ก็ไม่ได้ออกมาพบปะสังสรรค์กับใครอีกเลยโดยอ้างว่าป่วย
ซึ่งการที่ชายที่แข็งแรงจะเจ็บป่วยเป็นเวลานานนั้นถือว่าแปลกพอสมควร
บรรดาเพื่อนของเขาสงสัยว่าวอลเตอร์ อาจแกล้งป่วยเพื่อแอบทำอะไรสักอย่างที่พิเรนอะไรบางอย่างอยู่เบื้องหลังก็เป็นได้

อีกทั้งมีพยานที่อ้างว่าเคยเห็นใต้ผ้าคลุมของแจ็ค ข้อเท้าสปริงนั้น ปักตัวอักษร W อยู่ด้วย
ซึ่งมันมาจากคำนำหน้าคำว่า วอเตอร์ฟอร์ด (Waterford) นั้นเอง
ประกอบกับวอลเตอร์มีเพื่อนที่เรียนสาขาจักรกลในออกซฟอร์ดอยู่ด้วย
จึงไม่น่าแปลกแต่อย่างใดถ้าวอลเตอร์จะให้เพื่อนคนนั้นแอบสร้างขาสปริงให้อย่างลับ ๆ ก็เป็นได้



กระทั่งวอลเตอร์แต่งงานเมื่ออายุ 31 ปี เขาก็ไม่เคยเล่นอะไรแผลง ๆ อีกเลย
ในชีวิตปั้นปลายในปี ค.ศ. 1859 วอลเตอร์ก็เสียชีวิตเนื่องด้วยอุบัติเหตุขี่ม้าล่าสัตว์
ส่งผลให้เขาคอหัก และจบชีวิตลงในขณะเขามีอายุ 48 ปี ซึ่งแจ็ค ข้อเท้าสปริง ก็หยุดอาละวาดในปี ค.ศ. 1904 ในลิเวอร์พูล
จึงเชื่อว่าเขาไม่ใช่แจ็ค ข้อเท้าสปริง แล้วใครกันละที่คือ แจ็ค ข้อเท้าสปริง ตังจริง !!!???



⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
ผีเจ้า's profile


โพสท์โดย: ผีเจ้า
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
16 VOTES (4/5 จาก 4 คน)
VOTED: ซาอิ, นางเบิร์ด, cutiebarbie, makhamdong
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ชาวเน็ตฮือฮา! ขายที่ดินพร้อมบ้าน 200 ล้าน ติดวิวสภาสัปปายะสภาสถานหนุ่มเร่ขาย "ลาบูบู้" กลางสี่แยก..ทำเอาหลายคนแห่ถามพิกัดทีมเชื่อมจิตจ่อฟ้อง! สื่อปล่อยเฟกนิวส์..ไม่เคยบอกเชื่อมจิตแล้วจะไปนิพพานชาวกัมพูชาเดือด เมื่อมีบล็อคเกอร์หนุ่มคนกัมพูชา ไปถ่ายรูปล้อเลียนรูปปั้นม้าน้ำมากจนเกินงามเกินไปร้านดังเชียงใหม่ เปิดตัวไอติมฝุ่น pm 2.5แผ่นดินไหวทำเศียรพระพุทธเจ้าหัก"เสก โลโซ" ลั่น! ผมพลาดนิดเดียว..เกือบจะได้เป็นเจ้าสัวแล้วเขมรคือต้นกำเนิด วัฒนธรรมของการกิน 'สุนัข' ?
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ทีมเชื่อมจิตจ่อฟ้อง! สื่อปล่อยเฟกนิวส์..ไม่เคยบอกเชื่อมจิตแล้วจะไปนิพพานในปี 1939 สหภาพโซเวียตใช้เครื่องจักรสร้างถนนสมัยใหม่สภาพของต้นไม้ที่โดนลมกระชากจากมหาสมุทรแอนตาร์กติก จนทำให้มันเสียทรง!อีก 50 ปีข้างหน้า ไทยจะ "ร้อนเท่าทะเลทรายซาฮาร่า"แผ่นดินไหวทำเศียรพระพุทธเจ้าหัก
กระทู้อื่นๆในบอร์ด นิยาย เรื่องเล่า
หนุ่มเร่ขาย "ลาบูบู้" กลางสี่แยก..ทำเอาหลายคนแห่ถามพิกัดตั้งเวทีแปลกๆ แบบนี้..หมดสิทธิ์มั่วหน้าเวทีแน่นอนเมื่อสาวเจอความทรงจำที่หายไป..มาอยู่ที่ใต้สะพานลอยเมื่อหนุ่มทำพัดลมไอเย็นเอง..ว่าแต่มันคลายร้อนได้จริงหรือ ?
ตั้งกระทู้ใหม่