หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

สงครามญี่ปุ่น – มองโกล ความพินาศจากกามิกาเซ่

โพสท์โดย สาระรวมมิตร

สงครามญี่ปุ่น – มองโกล ความพินาศจากกามิกาเซ่

ในอดีต ญี่ปุ่นกับจีนเคยมีการติดต่อทางการทูตกัน จนกระทั่งมาถึงช่วงปลายราชวงศ์ถังของจีนในราวกลาง ศตวรรษที่เก้า ก็ได้ยกเลิกการติดต่อไป แต่ยังคงมีการทำการค้าระหว่างจีนและญี่ปุนในเขตตอนใต้ของจีนบ้าง

อย่างไรก็ดี โจรสลัดญี่ปุ่นได้ทำให้น่านน้ำ ดังกล่าวไม่ปลอดภัยสำหรับเรือสินค้า ขณะเดียวกันในเวลานั้น รัฐบาลญี่ปุ่นเอง ก็ไม่สนใจที่จะทำการค้ากับต่างประเทศ คือ จีนและเกาหลีมากนัก

ต่อมาในปี ค.ศ. 1268 กองทัพมองโกลนำโดยกุบไลข่าน (Kubilai Khan) เข้าครอบครองแผ่นดินจีนและคาบสมุทรเกาหลีทั้งหมด ในเวลานั้นจักรวรรดิมองโกลแผ่อาณาเขต กว้างขวาง นับแต่ลุ่มน้ำดานูบในยุโรปตะวันออก ดินแดนรัสเซีย ตะวันออกกลางและ เอเชียกลางจนถึงชายฝั่งตะวันออกของจีน

กุบไลข่าน

กุบไลข่านได้ก่อตั้ง ราชวงศ์หยวน (Yuan Dynasty ค.ศ. 1279 – 1368) เฉลิมพระนามใหม่ว่า จักรพรรดิหยวนซื่อจู่ ในเวลาเดียวกันญี่ปุ่นซึ่งมีเมืองหลวงที่เกียวโตตรงกับสมัยคามาคูระโดยอยู่ ในอำนาจการปกครองของโชกุนแห่งตระกูลโฮโจ

หลังกุบไลข่านครอง ราชย์ พระองค์ได้สั่งให้แว่นแคว้นใกล้เคียงส่งเครื่องราชบรรณาการเป็นการแสดงความ อ่อนน้อม ทว่าเมื่อทูตมองโกลมาถึงญี่ปุ่นและได้เรียกร้องเครื่องบรรณาการโดยสั่งให้ ญี่ปุ่นมอบดินและน้ำให้เพื่อเป็นเครื่องหมายว่าญี่ปุ่นจะยอมเป็นข้าขอบ ขัณฑสีมามองโกล ชาวญี่ปุ่นปฏิเสธ และจับทูตมองโกลโยนลงไปในบ่อน้ำ การหยามเกียรติ ครั้งนี้ ทำให้กุบไลข่านทรงพิโรธมาก พระองค์จึงมีพระบัญชาให้ระดมทหารมองโกล เกาหลี และจีน เพื่อโจมตีญี่ปุ่นทันที

สงครามครั้งแรก (ปี .. 1274) : กุบไลข่านมีพระบัญชาให้ระดมกองทัพผสมมองโกล เกาหลี และจีน จำนวนพล 40,000 นาย ใช้เรือรบ 900 ลำ นอกจากนี้ยังมีการใช้ระเบิดอีกด้วย ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ชาวญี่ปุ่นได้พบกับอาวุธชนิดนี้

กองทัพเรือมองโกล เคลื่อนพลในเดือนพฤศจิกายน จากที่มั่นในคาบสมุทรและเข้าประชิดอ่าวฮากาตะของเกาะเกียวชู (ปัจจุบัน คือ เมือง ฟูกูโอกะ) ทันทีที่กองทัพมองโกลยกพลขึ้นบก ก็ถูกโจมตีโดยกองทัพญี่ปุ่นจำนวน 10,000 นาย ที่ตั้งทัพรออยู่

ในการรบอันดุเดือดของ วันแรก ทัพมองโกลเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะสามารถทำลายกองทัพญี่ปุ่นลงได้ จากนั้นกองทัพมองโกลได้ตั้งค่ายพักแรมบนเรือรบที่จอดทอด สมออยู่ในอ่าว ทว่าในคืนนั้นเอง พายุใหญ่ได้โหมกระหน่ำอ่าวฮากะตะ ทำให้เรือรบจมไปถึง 200 ลำ พร้อมกับทหารมองโกลอีก 13,500 นาย ทำให้กองทัพมองโกลต้องล่าถอยไปอย่างบอบช้ำ

สงครามครั้งที่สอง (ปี ..1281) : จาก ความปราชัยเมื่อเจ็ดปีก่อน กุบไลข่านทรงไม่ยอมแพ้ พระองค์ได้มีพระบัญชาให้ระดม ทหารจำนวน 142,000 นาย เรือรบ 4,400 ลำ เพื่อทำลายญี่ปุ่นให้จงได้ ทางฝ่ายญี่ปุ่นเอง นับแต่สงครามเมื่อปี ค.ศ. 1274 ก็ได้เตรียมพร้อมที่จะรับมือกับการรุกรานที่จะเกิดขึ้นอีก โดยทางญี่ปุ่นได้สร้างกำแพงสูง 2.5 เมตร ยาว 20 กิโลเมตร ล้อมรอบอ่าวฮากะตะไว้ และในเดือนมิถุนายนปี ค.ศ. 1281 กองทัพมองโกลได้เคลื่อนทัพออกจากเกาหลีและมุ่งหน้าสู่คิวชู ทันทีที่ทราบข่าวศึกโชกุนได้สั่งระดมทหาร 40,000 นาย เพื่อรอรับมือข้าศึก

ทางฝ่ายมองโกลไม่ทราบ ข่าวการสร้างแนวกำแพง ดังนั้นกองทัพหน้าของมองโกลจึง ได้ยกพลขึ้นบกที่อ่าวฮากะตะ ตรงกับแนวกำแพงพอดี ทหารทั้งสองฝ่ายปะทะกันอย่างดุเดือดบริเวณชายฝั่งทะเล ทว่าการรบยังมิทันรู้แพ้ชนะ ฝ่ายมองโกลเล็งเห็นว่า การโจมตีแนวกำแพงจะทำให้เสียไพร่พลโดยไม่จำเป็น จึงได้ถอนกำลังและแล่นเรือไปทางตะวันตกของเกาะ เพื่อรวมพลกับกองทัพใหญ่ที่เพิ่งจะมาถึง

จากนั้นในเดือน กรกฎาคม กองทัพมองโกลได้เข้าโจมตีทากาชิ เพื่อใช้เป็นฐานทัพบุกเกาะคิวชู ในสงครามครั้งนี้ แม้พวกโจรสลัดญี่ปุ่นเองก็ยังได้รวบรวมกำลังช่วยโจมตีกองทัพเรือมองโกลด้วย

ขณะเดียวกันทางเกีย วโต องค์พระจักรพรรดิได้มีโองการให้เหล่าขุนนางและราษฎรทั่วญี่ปุ่น ช่วยกันบวงสรวงต่อเทพเจ้าในวิหารชินโตทั่วประเทศ เพื่อให้ปกป้องญี่ปุ่นจากภัยในครั้งนี้ การรบระหว่างสองฝ่ายดำเนินมาเรื่อย โดยที่ทางฝ่ายมองโกลแม้ว่าจะยังไม่พ่ายแพ้ แต่ก็ยังไม่อาจรุกคืบหน้าไปได้

จนกระทั่งถึงเดือน สิงหาคม ขณะที่กองทัพเรือมองโกลพักทัพที่ทากาชิ พายุใหญ่ก็ได้โหมกระหน่ำทัพเรือมองโกลอย่างหนักทำให้เรือรบ 4,000 ลำ จมลง พร้อมทั้งชีวิตทหารอีกมากกว่า 100,000 นาย กองทัพมองโกลเสียหายยับเยินจนต้องถอนทัพกลับจีน และกุบไลข่านก็สิ้นความพยายามที่จะยึดครองญี่ปุ่นโดยสิ้นเชิง ชาวญี่ปุ่นเรียกลมพายุที่ปกป้องประเทศในครั้งนี้ว่า ลมเทพเจ้า หรือ กามิกาเซ่ (Kamikaze)

ผลจากสงครามครั้งนี้ทำ ให้ชาวญี่ปุ่นตระหนักถึงภัยจากการคุกคามจากแผ่นดินใหญ่ และ รัฐบาลญี่ปุ่นได้มองเห็นความสำคัญของคาบสมุทรเกาหลีในฐานะจุดยุทธศาสตร์ สำคัญของญี่ปุ่น นอกจากนี้การรุกรานครั้งนี้ทำให้รัฐบาลโชกุนญี่ปุ่นต้องเก็บภาษีอย่างหนัก เพื่อใช้จ่ายในการศึกอีกทั้งเหล่าขุนศึกที่ร่วมรบในสงครามก็ไม่ได้รับรางวัล ตอบแทนใด ๆ ทำให้เกิดความไม่พอใจในรัฐบาลและเพาะเชื้อแห่งการต่อต้านจนนำไปสู่ยุคเสื่อม ถอยและจุดสิ้นสุดของสมัยคามาคุระในที่สุด

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
สาระรวมมิตร's profile


โพสท์โดย: สาระรวมมิตร
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
32 VOTES (4/5 จาก 8 คน)
VOTED: สี จะไม่ทน, ginger bread, Thorsten, โดราเอม่อน, aRnoNAe, ท่านฮั่ว แม่ทัพฮั่วชวี่ปิ้ง
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
รวมเลขเด็ด! หวยแม่จำเนียร งวดวันที่ 1 ธันวาคม 2567หนุ่มคนใหม่ทายาทหมื่นล้าน "พอลล่า เทเลอร์" กับ "เต้ บรม" ไฮโซจิราธิวัฒน์รักนี้น่าจับตาจำได้ไหม? "พุฒ เดชอุดม" จากยูทูบเบอร์เสียงเพี้ยน สู่สาวสวยสุดlซ็กซี่ปิดฉากมหากาพย์มรดก 100 ล้าน! "ป้าติ๋ม" ฝันสลาย ตำรวจชี้ "แหม่ม" ใช้ "นอมินี" ถือครองทรัพย์สิน
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
พร้อมลุย! ทีมชาติไทยประกาศ 26 แข้งลุยศึกชิงแชมป์อาเซียน 2024สาวชาวพม่า นำลูกสุนัข 2 ตัว ขอทานกลางกรุง ตำรวจจับกุมข้อหา ทารุณกรรมสัตว์เอาอีกแล้ว! "Miss Planet International" เวทีสัญชาติเขมร ให้นางงามใส่ชุดไทยทำกิจกรรมปิดตำนานไร่ชื่อดังที่วังน้ำเขียว ลานกางเต็นท์ยอดนิยมได้ประกาศหยุดดำเนินการแล้ว
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
ใครเป็นคนคิด ทำไมเมืองไทยถึงสะดวกสบายขนาดนี้ ฝรั่งอึ้ง ไทยแลนด์ครบจบในที่เดียวเข้าใจง่ายๆ เกี่ยวกับคดีแพ่งที่พัวพันกับคดีอาญานักท่องเที่ยวเผ่นจากลาว มั่นใจไทยปลอดภัยกว่า พ่อแม่ยิ้มอุ่นใจ10 ความลับในบ้านที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน ใช้ชีวิตง่ายขึ้นเป็นเท่าตัว
ตั้งกระทู้ใหม่