“นายกฯ” ไฟเขียว!! เอกชนขับเคลื่อนธุรกิจคล่องขึ้น “สมคิด” กระตุ้น!! เอกชนต้องลงทุน หวัง! เห็นเศรษฐกิจเติบโต

     เมื่อวานนี้ ( 6 พ.ย. 58) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในการประชุมได้มอบนโยบายและแนวทางในการขับเคลื่อนการทำงานของหน่วยงานภาครัฐและสร้างความมั่นใจให้แก่ภาคเอกชน เพื่อสนับสนุนให้สามารถดำเนินธุรกิจได้โดยสะดวก พิจารณากันถึงการร่นระยะเวลาของหน่วยงานราชการและขั้นตอนการพิจารณาต่างๆของส่วนราชการเพื่อให้ภาคธุรกิจเกิดความสะดวกในการลงทุนมากขึ้น ทั้งด้านขั้นตอนการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและผลกระทบด้านสุขภาพที่ต้องปรับปรุงในเรื่องระยะเวลาดำเนินการ เพื่อลดอุปสรรคความล่าช้าในการลงทุนเพราะต้องการให้ทุกอย่างเกิดขึ้นในปี 2560

     ด้านนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่นายกรัฐมนตรี มานั่งเป็นประธานการประชุมเพราะเห็นว่าการอำนวยความสะดวกและขจัดอุปสรรคการลงทุนเป็นเรื่องสำคัญที่ทำให้เกิดการลงทุน โดยในไตรมาส 4 ปีนี้ ต้องเคลียร์ปัญหาหลักๆให้จบ ดังนั้น ในช่วงนี้เอกชนต้องระดมสมองเพื่อเริ่มลงทุน เนื่องจากสภาพธุรกิจเอื้ออำนวยให้เริ่มลงทุนได้แล้ว ซึ่งสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนคิดว่าจะจัดงานสัมมนาการลงทุนครั้งใหญ่ในเมืองไทย เพื่อให้นักลงทุนในไทยเริ่มลงทุน

      นายสมคิด กล่าวอีกว่า ขณะนี้มาตรการกองทุนหมู่บ้านมีเม็ดเงินลงไป 2 ใน 3 แล้ว มาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบลของกระทรวงมหาดไทยก็มีเม็ดเงินลงไปเกือบครึ่งแล้ว มาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์เริ่มจะออกผลแล้ว ดังนั้น มาตรการทุกอย่างเริ่มส่งผลโมเมนตัมแล้ว และตัวหลักคือการจูงใจให้เอกชนในไทยเริ่มลงทุน และการเพิ่มประสิทธิภาพการส่งเสริมภายในประเทศ ซึ่งทุกอย่างจะทำให้เรตติ้งดีขึ้น ต่างประเทศจะได้สนใจจะมาลงทุนเพิ่มขึ้น ถ้าทุกฝ่ายร่วมมือกันทั้งหมดเชื่อว่าทุกอย่างจะดีขึ้นเรื่อยๆ ตามลำดับ

      มีรายงานความคืบหน้าในที่ประชุมครั้งนี้ว่า การจดทะเบียนทางธุรกิจจะจบได้ภายใน 1 วัน และนายกรัฐมนตรี ให้เน้นเรื่องการจัดตั้งศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ เพื่อทำให้การจดทะเบียนและทำอย่างอื่นง่ายขึ้น ขณะที่เรื่องการขอใบอนุญาต เช่น ใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานไม่มีปัญหาแล้ว แต่การขอใบอนุญาตการก่อสร้างมีการร้องเรียนมาก เพราะกระบวนการใช้เวลามาก เช่น มาบตาพุด มีปัญหาผังเมือง ซึ่งกรมโยธาธิการและผังเมืองยืนยันว่าในไตรมาส 4 ปีนี้ ปัญหาผังเมืองจะน้อยลง โดยให้นางอรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและกรมโยธาธิการและผังเมืองและการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยหารือกันเรื่องการขจัดปัญหาผังเมืองออกไปภายในช่วงไตรมาส 4 นี้ สำหรับเรื่องภาษี กระทรวงการคลังรับประกันจะไม่ให้ซ้ำซ้อนและรวดเร็วขึ้น ซึ่งในไตรมาส 4 น่าจะเสร็จเรียบร้อยเช่นกัน

       ส่วนเรื่องรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่ใช้เวลานานนั้น นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติหารือกับผู้เกี่ยวข้อง เพื่อให้กลไกเดินเร็วขึ้น ไม่เช่นนั้นในปีหน้า เมื่อโครงการต่างๆเริ่มแล้วก็จะกลายเป็นคอขวดที่ใหญ่มาก

       ทางด้านนายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ประเด็นที่เอกชนต้องการให้ภาครัฐปรับปรุงคือการอนุญาตการก่อสร้าง การจดทะเบียนการค้าและการแก้ไขปัญหาผังเมืองที่ต้องหาแนวทางให้มีความสมดุลระหว่างการเอื้อให้เกิดการลงทุนและการดูแลสิ่งแวดล้อม

       ส่วนนายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หลังจากรัฐบาลพยายามแก้ไขอุปสรรคการลงทุนอย่างต่อเนื่องทำให้ภาคเอกชนมีความเชื่อมั่นมากขึ้น ซึ่งมาตรการที่รัฐบาลออกมาเร่งรัดลงทุนตอนนี้จะทำให้เกิดการลงทุนมากในช่วงปี 2559-2560