มหาบาปทั้ง 7 (Seven Sins)
เป็นหลักคำสอนของศาสนาคริสต์ในอดีตกาล ให้มนุษย์ไม่ทำตามสัญชาตญาณของตนมากจนเกินไป ทางศาสนาคริสต์ได้แบ่งบาป
ออกเป็น 2 ประเภทคือ แบบที่สามารถยกโทษให้ได้ และ แบบรุนแรง ในต้นศตวรรษที่ 14 หลักคำสอนนี้เป็นที่นิยมในหมู่ศิลปิน
(หรือแม้กระทั่งในปัจจุบัน) ผลงานศิลปะมากมายที่สื่อถึงบาป 7 ประการแพร่ไปทั่ววัฒนธรรมต่างๆทั่วโลก
แล้วทำไมต้องเป็นเลข 7 ?
เลขเจ็ด (Seven) ในทางคริตศาสนาเป็นตัวเลขที่แสดงถึงความเมตตากรุณาและพระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ นักเขียนในยุคแรก
ใช้เลขเจ็ดเป็นตัวเลขแห่งการสร้างสรรค์และความเสร็จสมบูรณ์
เลขเจ็ดเป็นเลขที่มีพลังในตัวเอง อาทิตย์หนึ่งมีเจ็ดวัน เจ็ดมหาสมุทร สวรรค์มีเจ็ดชั้น เจ็ดเป็นเลขที่เป็นที่นิยมของ
จอมเวทย์โบราณที่ทำการปลุกเสก
ขอยกตัวอย่างบทหนึ่งในมหาคัมภีร์มหาเวทย์ ก็แล้วกัน
Take 7 prickles from 7 palm tress, 7 chips from 7 beams, 7 nails from 7 bridges, 7 ashes from 7 ovens,
7 scoops of earth from 7 door sockets, 7 pieces of pitch from 7 ships, 7 handful of cumin, and 7 hair
from the beard of an old dog, and tie them to the neck-hole of the shirt with a white, twisted thread
มหาบาปทั้ง 7 นั้น พูดง่ายๆคือบาปที่ไม่สามารถอภัยบาปให้ได้ ซึ่งตามปรกติแล้วสำหรับชาวคริสต์ "บาปเบา" สามารถให้อภัยได้
โดยการไปสารภาพบาปกับบาทหลวง ทว่า มหาบาปทั้ง 7 นั้น จัดว่าเป็นบาปหนัก ไม่สามารถอภัยได้ ใครที่มีบาปนี้ติดตัวก็เหมือน
มีรอยสักบนวิญญาณของตน ทำให้ไม่สามารถไปสู่สวรรค์ได้เมื่อวิญญาณออกจากร่าง
เรียงลำดับจากความรุนแรงน้อยไปหามาก (ตามคำสอนของสันตะปาปา เกรโกรี คริสตศักราชที่ 6) ได้แก่
1. Lechery - ความมักมากในกามตัณหา ตัวแทน: Asmodeus
บาปที่สามของเจ็ดมหาบาป "ราคะ" กล่าวกันว่าราคะถูกนำขึ้นมาจากนรกโดยแพะ ซึ่งถือว่าเป็นสัตว์แห่งตัณหา หรือโดยลา ซึ่งเป็นสัญลักษณ์
แห่งตัณหาเช่นเดียวกันในสมัยโรมันโบราณ บาปของมังสา เชื่อกันว่าจะนำพาไปสู่ ความไม่สะอาด ที่ตรงกันข้ามกับความดีคือความบริสุทธิ์
Lussuria ในภาษาอิตาเลียน แปลว่า lust
- สัญลักษณ์แห่งราคะคือ งูหรือวัว สีประจำบาปนี้คือ สีฟ้า
- บทลงโทษผู้กระทำบาปข้อนี้คือ "ถูกรมด้วยสารกำมะถันและไฟ"
"ศีลธรรมที่ช่วยกำจัดราคะคือ ความบริสุทธิ์ ความหวงแหนในพรหมจรรย์"
อัสโมเดียส/อัสโมเดอุส (Asmodeus) - ทูตแห่งลูซิเฟอร์ เป็นปีศาจแห่งราคะ และตันหาทางเพศ มันจะพยายาม
ทุกวิธีทางที่จะให้มนุษย์ลุ้มหลงในประเวณี และ ย่ำยีผู้อื่น แต่ทว่าจะขัดขวางทุกวิธีทาง กับคนที่ต้องการมีลูก
เมื่อมันปรากฏต่อมวลมนุษย์ มันจะมีรูปร่างเป็นสัตว์ประหลาดสามหัว ขี่มังกร พร้อมอาวุทหอก หัวทั้งสามของมันเป็น วัว แพะ และคน
เพราะว่า สัวต์พวกนี้ถือว่าเป็นสัตว์ที่ที่ลุ่มหลงในตัณหา เท้าของมัน ถ้าคนจะสังเกตุ จะเป็นของไก่
คาดว่า ชื้อน่าจะมาจาก ashma daeva ปีศาจตนนี้เป็นปีศาจที่มาจากแถบเปอร์เซีย แทนที่จะมาจากฮิบรู แบบปีศาจส่วนใหญ่
แต่ว่ามันเป็นปีศาจที่มีความเกี่ยวข้องกับความเชื่อของชาวฮิบรูเป็นอย่างมาก และถูกจัดว่าเป็น"ปีศาจแห่งความชั่วร้าย"
ใน Encyclopedia of Religions บอกไว้ว่า เป็นปีศาจเก่าแก่ มีอีกนามว่า Ashmedai เป็นปีศาจผู้มาจาก Zend Aeshmadeva
ดินแดนแห่งราคะ (The Book of Tobit ) ในตำนานบอกไว้ว่า เป็นความผิดของเจ้าปีศาจ Ashmedai นี้แหละที่มอมเหล้าโนอา
และเป็นเจ้าตัวนี้แหละ ที่เป็นคนสิงสาวน้อยซาราห์ และถูกมหาเทพราฟาเอลขับไล่ และถูกขับไล่ไปทางดินแดนเหนือของอียิปต์
2. Gluttony - ความตะกละ ตัวแทน: Beelzebub
บาปที่ห้าของเจ็ดมหาบาป "ตะกละ" ซึ่งตัวแทนได้แก่ ปีศาจ Beelzebub หรืออีกนามคือ เจ้าแมลงวัน (Lord of the Flies)
เป็นบาปที่ว่าด้วยการกินและดื่มที่มากเกินพอ ความตะกละคือความไม่รู้จักอิ่ม ผู้ตะกละจะกินและดื่มอย่างไม่รู้จักพอจนลืมเลือนสำนึกถึงบุญคุณ
ซึ่งบทลงโทษในนรก คือ การถูกบังคับให้กินคางคกและดื่มน้ำที่เหม็นเน่า
คำว่าแมลงวัน ในภาษาอิตาเลียน คือคำว่า mosca
- สัญลักษณ์ของตะกละคือ หมู สีประจำบาปคือ สีส้ม
- บทลงโทษของผู้ที่ตะกละในนรกคือ "การที่ถูกกินทั้งเป็นโดยหนู คางคกและงู"
"ศีลธรรมที่ช่วยกำจัดตะกละคือ ความพอดี การยับยั้งชั่งใจ"
เบลเซบับ (Beelzebub) - หนึ่งในเทวฑูตผู้ร่วงหล่นมาจากสวรรค์ ตัวแทนบาปแห่งความตะกละ ผู้นำโรคระบาท และความตายมาสู่มนุษย์
เนื่องจากเมื่อกษัตริย์ Ahaziah ท่านหารือในช่วงเจ็บป่วย ว่าหายณะที่จะเกิดขึ้นกับบ้านเมือง เป็นเพราะเหตุอันได และแล้วชื่อที่ปรากฏออกมา
จากนักบวชกล่าวไว้ว่า "เมื่อใดที่ Ank(เบลเซบับ) มาเยือน เมืองนี้จะถูกโรคร้ายระบาทไปทั่ว ผู้คนจะล้มตายกันนับสิบ ซากศพจะกองสูงเหนือหลังคาบ้าน"
และตั้งแต่นั้นมา เทพตนนี้ก็กลายเป็นปีศาจแห่งความตายในคาบาล่า ปีศาจตนนี้มีความตะกละที่ไม่มีที่สิ้นสุด
มันจะกินไม่หยุดย่อน กินแต่อาหารที่ดีที่สุด ซึ้งไม่มีวันเติมเต็มความอยากของมัน ผู้ที่ถูกมันสิง จะมีชีวิตเพื่อกิน กิน และ กิน
แต่เดิมนั้น เบลเซบับ เป็นเทพเจ้าของซีเรียน (Syrian god) เบลเซบับเป็นเทวฑูต ที่มีหน้าที่สอนให้มนุษย์ใช้ของที่มีประโยชน์ และรู้จักใช้สอย
สิ่งของ เลือกอาหารกินจากการทำสงครามกับสวรรค์
ซาตานได้ชักชวน เทวฑูตสวรรค์ที่แข็งแกร่ง ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นเบลเซบับมาเป็นพวกด้วย ครั้งอยู่ในนรกเบลเซบับได้ยกตัวขึ้นปกครองส่วนหนึ่งในนรก
ตามความเชื่อของชาวเพเก้น เชื่อกันว่า ผู้ที่มีพลังยิ้งใหญ่ที่สุดในนรก มีอยู่ 3 ตนคือ ลูซิเฟอร์, เบลเซบับ และ แอสทารอส เบลเซบับเป็นหัวหน้า
ของ 9 กองพลนรก(ปรากฏในพระคัมภีร์ New Testament ) อีกชื่อนึงที่รู้จักกันดี นอกจากจ้าวแมลงวันแล้ว ก็คือ "จอมทำลายล้าง" ผู้ปกครอง
เหล่าปีศาจ เจ้าชายแห่งมวลปีศาจ (อ้างอิงจาก Matthew 12:24),
ทว่า เขานั้นแตกต่างจากซาตาน (ทั้งเวทมนต์ พลังเวท หรืออะไรทั้งหมด ไม่ได้ใช้พลังจากจอมมารซาตานเลย เรียกได้ว่า ปกครองนรกคนละส่วน
ของซาตาน ทว่าต่อมาซาตานดังกว่า เลยกลายเป็นว่าเบลเซบับถูกซาตานปกครองไปด้วยเลย) ทีนี้ พอเค้าถูกเรียกตัวโดยแม่มดพ่อมด หรือ จอมเวทแล้ว
เบเซบับจะปรากฏในรูปแบบของแมลงวัน และทุกทีที่เค้าไปจะมีฝูงแมลงวันตามไปด้วย อาจจะเพราะว่าความเชื่อเก่าแก่ที่ว่าที่ๆมีแมลงวันจะมีศพ
ชื้อก็เลยติดหูจนถึงทุกวันนี้ในถาณะ จ้าวแมลงวัน ตามหลักแล้ว อย่างที่รู้ๆกัน แมลงวันเป็นสื่อนำโรคระบาด ที่ใหนมีศพ ที่นั้นมีแมลงวัน พอแมลงวัน
ไปเกาะบนอาหาร แล้วมนุษย์กินเข้าไป ก็จะติดโรค หรือจะให้พูดกันง่ายคือ แมลงวันเป็นตัวนำโรคร้าย ระบาทไปทั่วเมือง ทำให้ได้ชื่อว่า
จ้าวแห่งแมลงวัน "God of Flies" or "Lord of Flies"
3. Avarice - ความโลภ ตัวแทน: Mammon
บาปที่สองของเจ็ดมหาบาป "โลภะ" โธมัส อควินัส (Thomas Aquinas) กล่าวไว้ว่า "Mammon หมายถึงปีศาจที่เป็นเจ้าแห่งเงินตรา"
ความโลภคือบาปที่สรรสร้างมนุษย์ผู้โลภมาก ขโมยและฆาตกร กล่าวกันว่า สุนัขป่าคือสัตว์ที่จะพา Mammon ขึ้นมาจากนรกเพื่อจุดเปลวไฟ
แห่งความโลภให้แก่หัวใจมนุษย์
ชื่อของมาม่อน ในภาคภาษาอังกฤษที่แปลออกมาสะกดว่า Mammon
เพราะฉะนั้นเรียกว่าตรงตัวเลยน่าจะได้กับปีศาจแห่งความโลภตัวนี้
- สัญลักษณ์ของโลภะคือ กบ สีประจำบาปคือสีเหลือง
- บทลงโทษของผู้ที่โลภมากคือ "การถูกแช่ในน้ำมันเดือด"
"ศีลธรรมที่ช่วยกำจัดโลภะคือ ความเมตตา การแบ่งปัน"
แมมม่อน (Mammon) - ชื่อมีความหมายว่า "ทรัพย์สมบัติ" , "เจ้าแห่งเงินตรา" หรือ "ผู้ร่ำรวยที่สุด" แต่คำแปลนั้นยังไม่แน่ชัด
บางกลุ่มก็บอกว่ามันแปลว่า "ผู้คตโกง"
แมมมอนเป็นหนึ่งในเจ้าชายแห่งนรก ซึ่งเคยเป็น Archangel มาก่อนเหมือนลูซิเฟอร์ บางคนว่ามันได้ครองบันลังแห่งโลกนี้ไว้ เพราะว่าโลกสมัยนี้
เป็นโลกแห่งเงินทอง (ในแมนธิว 6:24 และ ลุกค์ 16:13) กล่าวถึงพลังอำนาจที่ต่อต้านพระผู้เป็นเจ้า เป็นปีศาจที่สามารถอ่านความคิดมนุษย์ได้
และจะกำจัดได้มีแต่ความศัทรา แมมม่อนสามารถเข้าสิงใครก็ได้ที่มีความกระหาย มันจะแทรกเข้าไปในจิตใจตามความโลภที่ผู้นั้นมี มันจะบังคับ
ให้คนผู้นั้นทำทุกอย่างเพื่อได้เงินทองมาเป็นของตนและไม่ยอมให้ใคร ถ้าจะให้คนๆ นี้บริจาคเงินละก็ ฝันไปเถอะ สำหรับคนที่ถือว่าเงินคือพระเจ้า
เงินบันดาลเสกสรรค์ได้ทุกอย่าง นั่นแหละคือ สาวกของ Mammon
4. Sloth - ความเกียจคร้าน ตัวแทน: Belphegor
บาปที่หกของเจ็ดมหาบาป "เกียจคร้าน" Belphegor ถูกแสดงว่าเป็นตัวแทนของความเกียจคร้าน ซึ่งความเกียจคร้านมักถูกแสดงภาพโดยการงีบหลับ
ในหน้าที่การงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง งานของพระ เมื่ออยู่ในภาวะเกียจคร้าน ความไม่สนใจในหน้าที่ก็ตามมา สัตว์ที่เป็นตัวแทนของความเกียจคร้าน
คือ ลา เนื่องจากเป็นสัตว์ที่ทั้งขี้เกียจและเคลื่อนไหวเชื่องช้า โธมัส อควินัส กล่าวว่า บาปทั้งหมดที่เกี่ยวกับความเพิกเฉยมาจากความเกียจคร้านทั้งหมด
เช่นเดียวกับเลวีและมาม่อนนะคะ
เบลเฟกอล เขียนเป็นภาษาอังกฤษว่า Belphegol ได้ตรงตัวพอดี
- สัญลักษณ์ของเกียจคร้ายคือ แพะ สีประจำบาปคือ สีคราม
- บทลงโทษของผู้เกียจคร้านคือ "การถูกโยนลงไปในบ่องูพิษ"
"ศีลธรรมที่ช่วยกำจัดเกียจคร้านคือ ความกระตือรือร้น ความทะเยอทะยาน"
เบลเฟกอร์/เบลฟีเกอร์ (Belphegor) - ชื่อที่คุ้นหูกันดี Baal (บาร์ล หรือ บา-อัล) ซึ่งปรากฏในนวนิยาย หรือ
กวีหลายๆเรื่อง เกมส์หลายๆเกมส์ และวงค์ร๊อกบูชาซาตาน ตามชื่อของมัน Belphegor ซึ่งก็คือ Baal จากภูเขา Phogor เป็นผู้ที่ได้ปกครอง
ภูเขา Phogor และได้รับการบูชา ชาวบ้านจะต้องนำเครื่องเซ่นจากผลผลิตมาถวาย ซึ่งมีปรากฏในประวัติศาสตร์ของอิสราเอล
จ้าวแห่งความไร้ศีลธรรม เป็นตัวแทนของความขี้เกียจ ไม่ทำการทำงาน ไม่ทำหน้าที่รับผิดชอบ สัปเพร่า ทำงานขาดตกบกพร่อง บาปนี้
ปรากฏต่อมนุษย์ทุกคน ไม่สิ..... ต้องบอกว่าปรากฏต่อสิ่งมีชีวิตที่มีสติทุกชนิด
อดีดเคยเป็นเทวฑูต มีหน้าที่ในการจัดตำแหน่ง ในนรก เบลเฟกอร์ เป็นปีศาจนักประดิษฐ์ที่ชาญฉลาด และการค้นพบสิ่งของแปลกๆ มักจะปรากฏตัว
ให้คนที่ชอบโกง และชั่วร้าย ซึ่งมันจะให้สิ่งประดิษฐ์ที่พิศดารแก่คนผู้นั้น เมื่อปรากฏร่าง มันมักจะออกมาในรูปของหญิงสาว หรือไม่ก็ปรากฏในร่าง
ของปีศาจเครายาวปากกว้างมีเขาและเล็บยาว มันชอบที่ยั่วยวนผู้ชายให้หลงไหลในกามรส อีกชื่อหนึ่งของมันคือ จอมเปิดโปง ซึ้งก็คือ ถ้าที่ใหน
มีความลับ มันจะไปเปิดโปงให้คนเค้ารู้กันทั่ว ซึ้งส่วนมากจะไม่ค่อยดีนัก และอาจจะเพราะเหตุนี้ เมื่อมันปรากฏตัว มันจึงมักจะไม่ใส่เสื้อผ้า
5. Anger - ความโกรธ ตัวแทน: Satan
บาปที่เจ็ดของเจ็ดมหาบาป "โทสะ" ความโกรธคืออีกบาปหนึ่งของปีศาจที่สำคัญยิ่งและเป็นพลังที่รุนแรง มักจะถูกแสดงออกมาในรูปสัตว์
ที่มีเขี้ยวแหลมคม เช่น เสือดาวกำลังแยกเขี้ยว หมูป่าอาละวาด ที่พร้อมจะละเลงโลหิต ผลของความรู้สึกที่รุนแรงเผาผลาญรุมเร้านี้คือการ
รู้สึกถึงความโกรธแค้นในหัวใจที่จะทำลายทุกสิ่งเว้นแต่ความรู้สึกด้านลบในร่างกาย จิตใจ และวิญญาณ ทำให้เกิดการฆาตกรรมและ
สงครามตามมา
- สัญลักษณ์ของโมหะคือ หมี สีประจำบาปคือ สีแดง
- บทลงโทษของผู้ที่มีบาปโมหะคือ "การถูกฉีกร่างทั้งเป็น" (ซ้ำแล้วซ้ำเล่า)
"ศีลลธรรมที่ช่วยกำจัดโมหะคือ ความนอบน้อม การให้อภัย"
ซาตาน/เซตั้น (Satan) - มีชื่อมากมายไว้สำหรับเรียกปีศาจตนนี้แต่ที่รู้จักกันดีในนามราชันแห่งมวลปีศาจ
คือ "S A T A N" ซาตานนั้น มีมาก่อนที่โลกจะเกิดขึ้น ในไบเบิลกล่าวเอาไว้ว่า ซาตานนั้นจะชั่วร้ายเป็นธรรมชาติของมัน
โกรธเกลียดทุกสิ่งทุกอย่างของพระเจ้า ต่างจากปีศาจตนอื่นๆ ซึ่งเคยปริสุทธิ์มาก่อน
ทุกสิ่งบนโลกเป็นสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้าสร้างมา แต่ว่าซาตานนั้นไม่ใช่สิ่งที่พระเจ้าได้สร้างขึ้นมา ถ้าหากว่าพระผู้เป็นเจ้าเป็นแสงสว่างสูงสุด
ซาตานคือความมืดมิดนั่นเอง แต่อย่างเพิ่งเข้าใจว่า ซาตานมีพลังอำนาจเท่ากับพระเจ้าเพียงเพราะว่าเป็นอีกข้างนึงนะ พระเจ้าท่าน
สามารถทำลายปีศาจเมื่อไรก็ได้ หากแต่ว่าท่านไม่ทำ เหตุก็เพื่อสร้างอุปสรรคขึ้นมาให้มนุษย์ได้ก้าวข้ามพ้นมันไป
อำนาจของซาตานนั้นก็คือการล่อลวงจิตใจของมนุษย์ให้หลงผิดกับคำสอนของพระผู้เป็นเจ้า และจะพยายามทุกวิธีทางที่จะให้
มนุษย์ทรยศพระเจ้า และตกนรก มันสามารถแปลงกายเป็นอะไรก็ตามที่มันต้องการ นอกจากสิ่งที่เกี่ยวโยงกับพระเจ้า
เช่นบาทหลวง หรือ แม่ชี ถ้าเป็นสัตว์ก็พวก วัว และ แกะ ซาตานนั้นมักจะสนใจ "ผู้ที่มีศรัทธาแรงกล้า" และจะพยายามที่จะ
ชักชวนและเข้าสิงผู้นั้นเพื่อที่ไม่ให้ไปอยู่ฝั่งพระเจ้า
ในศาสณาคริสต์นั้น ซาตานเป็นผู้ "ขัดขวาง" งานของพระเจ้า และเป็นศัตรูของมนุษย์ชาติ
แต่ว่าในมุมมองของศาสณายิวนั้น ซาตานเป็นผู้ที่พระเจ้าใช้ให้มาทดสอบวิญญาญของบคนๆนั้นในมุมมองของมุสลิม
ซาตานนั้นก็คือจิตใจเลวของมนุษย์
6. Envy - ความริษยา ตัวแทน: Leviathan
บาปที่สี่ของเจ็ดมหาบาป "ริษยา" ตัวแทนคือปีศาจ Leviathan งูยักษ์วิปลาสจากห้วงลึกแห่งบรรพกาล ที่เกี่ยวกระหวัดร่างของตัวเองกับเหยื่อ
เพื่อที่จะไม่อาจแยกออกจากกันและกันได้ ความริษยามักถูกแสดงด้วยสุนัข หรือหัวใจที่ถูกกัดกิน เมื่อถูกกลืนกินด้วยความริษยา ความดีคือการ
อยากให้ทานก็ถูกลบล้างจนหมดไป
เลวีอาแทน สามารถเขียนเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า Levi a Than ซึ่งก็คือ Leviathan นั่นเอง
- สัญลักษณ์ของอิจฉาคือ สุนัข สีประจำบาปคือ สีเขียว
- บทลงโทษผู้ที่มีความอิจฉาคือ "ถูกแช่แข็งในน้ำเย็นจัด"
"ศีลธรรมที่ช่วยกำจัดอิจฉาคือ ความกรุณา ความเผื่อแผ่"
เลเวียธาน (Leviathan) - ความหมายของชื่อ หมายถึง ผู้ที่ขัดขวางศาสนา คือปีศาจที่มีรูปร่างเป็นสัตว์เลื้อคลาน
คล้ายงูยักษ์หรือมังกร อาศัยอยู่ในทะเลลึก เป็นปีศาจดุร้ายที่สุดและน่ากลัวที่สุดเท่าที่มนุษย์จะจินตนาการออก
ในบางตำรากล่าวไว้ว่ามันก็คือ Rahab อดีตเทวทูตองค์หนึ่งในสววรค์ เทวทูตแห่งยุคกำเนิดโลกร่วมกับ เบเฮมอธ ซึ่งถือกำเนิดในวันที่ 5 ของการสร้างโลก
ใน Book of job ที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวคริตส์และฮิบรู บรรยายถึงลิเวียธานไว้ว่า เป็นปีศาจที่ไม่มีทางที่มนุษย์จะเอาชนะได้ มีลมหายใจเป็นไฟ
เมื่อมนุษย์ได้เห็นจะต้องกรีดร้องด้วยความกลัวอย่างช่วยไม่ได้ แม้แต่ทหารกล้าผู้ชนะมาหลายสงครามแล้วยังต้องกรีดร้องเหมือนผู้หญิง และยืนร้องไห้เหมือนเด็ก
เหตุที่เป็นตัวแทนของความอิจฉานั้น บ้างว่ามันอิจฉามนุษย์ที่มีอิสระเสรีอยู่ได้ทั้งพื้นดิน ภูเขา และทะเล แต่มันต้องถูกขังอยู่แต่ในท้องทะเล
บ้างก็ว่ามันอิจฉาในอำนาจของพระผู้เป็นเจ้า
7. Pride - ความเย่อหยิ่ง ตัวแทน: Lucifer
บาปที่หนึ่งของเจ็ดมหาบาป "อัตตา" ความเย่อหยิ่งเป็นรากฐานของความชั่วร้ายทั้งปวง กล่าวกันว่าเป็นเพราะความเย่อหยิ่งที่ทำให้ลูซิเฟอร์ร่วงหล่น
จากสวรรค์สู่ดินแดนใต้ผืนพิภพ บาปอันเห็นแก่ตัวนี้คือการเห็นว่าตัวเองนั้นดีกว่า สูงกว่าผู้อื่น ความเย่อหยิ่งจะปิดหัวใจของมนุษย์ผู้นั้นไว้จากพระเป็นเจ้าและบุคคลอื่น
Superbi ในภาษาอิตาเลียน หมายถึง pride, arrogance ที่แปลว่าความเย่อหยิ่งจองหอง
- สัญลักษณ์ของโอหังคือ ม้า สิงโต หรือ นกยูง สีประจำบาปคือ สีม่วง
- บทลงโทษของผู้ที่โอหังคือ "การถูกทรมานบนวงล้อ" (มัดกับวงล้อแล้วให้วงล้อหมุนเรื่อยๆ ผู้ถูกทรมานจะถูกบดขยี้กับพื้น)
"ศีลธรรมที่ช่วยกำจัดโอหังคือ ความถ่อมตน การเห็นอกเห็นใจผู้อื่น"
ลูซิเฟอร์ (Lucifer) - คำว่าลูซิเฟอร์นั้น เป็นคำละติน มาจากสองคำ คำว่า Lux ซึ้งแปลว่าแสงสว่าง และ Ferrer แปลว่า
ผู้นำมา หรือ ผู้ถือ ซึ่งถ้าเอามารวมกันก็จะแปลว่า "ผู้นำมาซึ่งแสงส่วง" หรือถ้าจะแปลตามภาษาชาวบ้านอีกทีก็คงจะแปลว่า รุ่งอรุณ หรือ
ดาวแห่งความแสงสว่าง อะไรทำนองนั้น
อดีตอัคระเทวฑูตองค์นี้ พระเป็นเจ้าเป็นผู้สร้างขึ้นมาจากแสงสว่างและให้ความเอ็นดูเป็นอย่างมาก มีหน้าที่คอยปกป้องนางฟ้าและเทวดา
เปรียบเสมือนผู้ที่อยู่ระหว่างพระเจ้ากับเทพสวรรค์ต่างๆ ถือได้ว่าเป็นใหญ่รองมาจากพระเจ้า ถือได้ว่าเป็นอัคระเทวฑูตที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
(สำหรับสิ่งมีชีวิตที่พระเจ้าสร้างขึ้น)ในตอนนั้นเลยก็ว่าได้ ทว่าด้วยความที่นึกว่าตนเองยิ่งใหญ่เหนือใคร ทำให้ก่อกบฏหักหลังพระเป็นเจ้า
และในที่สุดก็ตกจากสวรรค์ กลายมาเป็น "ปีศาจ"