คุณ พิเชษฐ์ ชัยบัญชา (พุ่มเหม) หรือ มิตร ชัยบัญชา ขณะยืนแอคชั่นอยูบนสะพานพระรามหก ในหนังเรื่อง ชาติเสือ..มิตร ชัยบัญชา ในบท ไวย ศักดา
ชาติเสือ เป็นภาพยนตร์ไทยออกฉายเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2501 ที่โรงภาพยนตร์ศาลาเฉลิมกรุงและศาลาเฉลิมบุรี สร้างจากบทประพันธ์ของ “อรวรรณ” (เลียว ศรีเสวก) กำกับการแสดงโดยประทีป โกมลภิส ถือเป็นผลงานการแสดงภาพยนตร์เรื่องแรกของพระเอกมิตร ชัยบัญชา รับบทเป็นไวย ศักดา โดยแสดงคู่กับเรวดี ศิริวิไล ร่วมด้วยวิน วันชัย ดาวร้ายของเรื่องกับน้ำเงิน บุญหนัก ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาคต่อของภาพยนตร์เรื่อง ไพรกว้าง ที่เกชา เปลี่ยนวิถีเคยแสดงไว้เมื่อปี พ.ศ. 2499
อุษา อัจฉรานิมิตร นางเอกของมิตรในยุคเข้าวงการ สาวสวย คิ้วเข้ม ตาคม ลูกเสี้ยวไทย ฝรั่งเศส และมอญ
ร้ายก็รัก (พ.ศ.2503).....ในภาพโลเคชั่น บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
ภาพคุณ ภาวนา ชนะจิต เมื่อครั้งยังเป็นเด็กสาว อายุ เพียง 15 ปีเข้าวงการปีพ.ศ.2503 เล่นหนังเรื่องแรกคือแสงสูรย์ โดยประชันบทบาทกับดาราเจ้าบทบาท คือ อมรา อัศวนนท์ และพระเอก คือ มิตร ชัยบัญชา และจากเรื่องนี้เองที่ทำให้ ภาวนา ได้รับรางวัลดาราสมทบหญิงยอดเยี่ยมในการประกวดตุ๊กตาทอง ในปีพ.ศ.2508
เครื่องทอผ้าแบบเก่า ผมเคยเห็นยายทอผ้าเมื่อครั้งตอนผมยังเด็ก (20 ปีก่อน)
เดี๋ยวนี้ ไม่ค่อยได้เห็นมีใครทอผ้าด้วยเครื่องทอแบบนี้แล้ว เคยเห็นเครื่องทอผ้าอย่างนี้อีกครั้งตอนจัดอีเวนต์ที่สยามพารากอน เกี่ยวกับการทอผ้าไหม
สแกนจากปกอนุสาร อสท.
ภาพโดย Mod.Phong
อดีตดาวยั่วเมืองไทยจากซ้ายไปขวา บาหยัน พันธุ์โสภา โขมพัสต์ อรรถยา ลักษมี เพ็ญแสงเดือน ศศิมา สิงห์ศิริ และ รุ้งลาวัลย์ ศรีปฏิมากูร
วันดี ศรีตรัง....มีชื่อแต่แรกเกิดว่า ไวดี บริมาตร์ และเป็นที่รู้จักในชื่อ วันดี ศรีตรัง (23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2493 — 31 สิงหาคม พ.ศ. 2518) เป็นนักแสดงชาวไทย ซึ่งมีชื่อเสียงจากผลงานภาพยนตร์เรื่อง ชู้ ในปี พ.ศ. 2515วันดี ศรีตรัง เกิดเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2493 ที่อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง บิดาของเธอเป็นช่างก่อสร้าง ชื่อ เปรียม บริมาตร์ กับมารดาชื่อ กิมเจ็ง พิพัฒนกุล ภายหลังบิดามารดาได้หย่าร้างกัน เธอและวิชัย บริมาตร์ พี่ชายจึงอยู่ในการดูแลของย่าที่ย่านตาขาว ส่วนมารดาแยกไปพำนักอยู่ในทับเที่ยง
เธอมีหน้าตาคมขำนัยน์ตาโต แต่มีเชื้อสายจีนจากมารดา และเธออาจมีเชื้อสายแขกจากบิดา เนื่องจากสกุลบริมาตร์ของเธอมีทั้งชาวพุทธและมุสลิม
เธอเคยชนะเลิศประกวดเทพีศรีตรังและนางงามเทศบาลประจำปีพ.ศ. 2510 ในปี พ.ศ. 2511 เธอได้ขอเปี๊ยก โปสเตอร์ เพื่อมาแสดงภาพยนตร์ แต่ถูกปฏิเสธไปในช่วงแรกเนื่องจากเปี๊ยกต้องการนักแสดงสาวชาวบ้าน แต่ครั้งนั้นเธอแต่งตัวอย่างเพชรา เชาวราษฎร์ และภายหลังเธอก็กลับมาหาเปี๊ยกอีกครั้งโดยไม่แต่งหน้า ครั้งนี้เธอจึงได้แสดงหนังเรื่อง ชู้ ซึ่งประกบคู่กับ กรุง ศรีวิไล และมานพ อัศวเทพ
หลังจากงานแสดงภาพยนตร์ดังกล่าวก็มีชื่อเสียงมากขึ้น และมีผลงานภาพยนตร์ 14 เรื่องในช่วง 3 ปีของการแสดง และรับบทเป็นนางเอกทั้งหมดแต่เป็นนางเอกสาวกร้านโลก และได้ร่วมแสดงกับดาราชายที่มีชื่อเสียงหลายคน เช่น กรุง ศรีวิไล, ไพโรจน์ ใจสิงห์, สมบัติ เมทะนี และนาท ภูวนัย....เธอเสียชีวิตในวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2518 (25 ปี, 189 วัน)ที่ อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี
คู่สมรส สิน สินไชย (หย่า)....ต่อมาช่วงปี พ.ศ. 2517 เธอมีความสัมพันธ์กับสมชาย พงษ์สว่าง (หยอง ไบคาน) ชาวไทยเชื้อสายปากีสถาน จนทั้งสองมีบุตรด้วยกันหนึ่งคน เป็นหญิงชื่อ โซเบดา พงษ์สว่าง ก่อนที่วันดีจะเสียชีวิตอย่างเป็นปริศนาเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2518 และศพถูกฝังในมัสยิดมะฮ์บาคูล่านารี
คุณ เพชรา เชาวราษฎร์
คุณ ภาวนา ชนะจิต
แสงสูรย์ภาพยนค์เรื่องเยี่ยมแห่งปีพ.ศ. 2503 มิตร พบ อมรา อัศวนนท์ และ นางเอกใหม่ ภาวนาชนะจิต
ส่งท้ายก่อนนอน จาก นสพ.สยามรัฐ ฉบับวันที่ 19 มกราคมพ.ศ. 2515 ดูแล้วเอามาเทียบกับสมัยนี้ดู ป่านนี้บุคคลในภาพ อายุเข้าหลัก 6 กันไปแล้ว
โพสต์เองสแกนเองโดย Mod.Phong — กับ ศิโรฒ น้อยวัน, Phong Prasertsang และ Tanakorn Lertpisutsophol
หนังสือ ดาราไทย ที่เคยขายดิบขายดี ในยุคก่อนคุ้นตากับหัวหนังสือมากเพราะใช้ตัวหนังสือนี้ติดต่อกันมาหลายปี....สังเกตุเล่มนี้ ตอนนั้นราคาเพียง 5 บาท เท่านั้นเอง
หนังสือ ภาพยนตร์ บันเทิง ฉบับรับปีใหม่พ.ส. 2528 รวมดาราแห่งยุคอรพรรณ พานทอง ยังเอาะๆ
เลสลี่จางบนปกหนังสือ ดาราจีน
คุณเพชรา เชาว์ราษฎร์ในชุดเซกซี่
คุณบงกช ชลาธร
ดาวยั่วที่มีชื่อเสียงในยุคนั้น มัลลิกา เกียรติสกุล(ซ้าย) โขมพัสตร์ อรรถยา(กลาง) มาลาริน บุนนาค(ขวา)
คุณวาสนา ชลากร....ดาวยั่วที่ดังมากในยุคอดีต มีผลงานบนจอเงินหลายๆเรื่อง
วงสาว สาว สาว ขึ้นปก หนังสือ โด เร มี
หนังสือ รีวิว ทีวี ปีพ.ศ.2525 หนังสือสำหรับผู้รักหนังจีน
หน้าปกไทยรัฐฉบับวันอาทิตย์ ....สมัยที่ยังฉบับละ 1 บาท ปกคุณบุษราภรณ์ ธีระทรัพย์ เป็นรองนางสาวไทย ปีพ.ศ. 2512 ท่ายืนแบบนี้ ถือว่าเปรี้ยวที่สุดในยุคนั้นแล้ว