หลวงปู่พุทธะอิสระ แสดงความคิดเห็นกรณี DSI อายัดรถหรูจดประกอบ "เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ-หลวงพี่น้ำฝน"

(15 ต.ค. 58) หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara) เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara) 

อุต๊ะ ผู้ปฏิบัติหน้าที่พระสังฆราชโดนอายัดรถหรูด้วย แล้วอย่างนี้หลวงตาช่วงแกยังจะอยากเป็นพระสังฆราชอีกหรือ

หรือว่าประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนาของชาติไทยจะได้พระสังฆราชต้องคดีมีรถหนีภาษีเป็นของแถม ช่างน่าเลื่อมใสและเป็นต้นแบบที่เลิศของพระพุทธศาสนาและสังฆมณฑลนัก

หากเจ้าอาวาสวัดปากน้ำผู้นี้ได้เป็นพระสังฆราช พุทธบริษัทไทยคงได้เอาปี๊ปคุมหัวเดินกันบ้างล่ะ โดยข้อความและรายละเอียดดังนี้

อุต๊ะ ผู้ปฏิบัติหน้าที่พระสังฆราชโดนอายัดรถหรูด้วย 

๑๕ ตุลาคม ๒๕๕๘

DSI อายัดรถหรูจดประกอบ "เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ-หลวงพี่น้ำฝน"

DSI อายัดรถจดประกอบ 2 คัน ซึ่งพบว่าเป็นรถหรูของพระผู้ใหญ่ 2 รูป ซึ่งจะทำการตรวจสอบและยื่นเรื่องไปยังกรมศุลกากรให้ดำเนินการต่อไป

กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ตรวจสอบรถจดประกอบที่อายัดมาได้ พบในจำนวนนี้มี 2 คัน ที่พระชั้นผู้ใหญ่ครอบครองอยู่ คือ Mercedes-Benz ความจุกระบอกสูบ 2995 CC ครอบครองโดย "สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์" เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ จากการตรวจสอบรถคันดังกล่าวได้จดทะเบียนในวันที่ 26 ส.ค. 54 ที่สำนักงานข่นส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 2 ยังพบว่ามีการแจ้งเปลี่ยนแปลงเลขทะเบียน 1 ครั้ง และได้จดแจ้งไม่ใช้รถคันนี้วิ่งบนถนนเมื่อปี 2556

ส่วนคันที่ 2 คือ Jaquar ความจุกระบอกสูบ 4200 CC ถูกครอบครองโดย "พระครูปลัดสิทธิวัฒน์" หรือหลวงพี่น้ำฝน จดทะเบียนรถยนต์เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 55 ที่สำนักงานข่นส่งสระบุรี จากข้อมูลยังไม่พบว่ารถคันนี้แจ้งงดการวิ่งในถนน

ทั้งนี้ การตรวจสอบรถจดประกอบที่มีพระชั้นผู้ใหญ่ครอบครองทั้ง 2 คันนี้ เนื่องจากมีคนแจ้งมายัง DSI ว่าพระทั้ง 2 รูป ครอบครองรถจดประกอบ จึงขอให้ตรวจสอบ ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่มีกระแสปัญหาวงการพระสงฆ์ในช่วงนี้ โดย DSI จะทำการตรวจสอบแม้จะมีการจดแจ้งทะเบียนกับทางกรมขนส่งหรือมีการแจ้งยกเลิกวิ่งบนถนนแล้วก็ตาม

สำหรับการดำเนินการตรวจสอบรถจดประกอบของ DSI ที่อายัดมาก่อนหน้านี้ มีทั้งหมด 6,757 คัน โดยรอบแรกดำเนินการตรวจสอบรถที่มีราคา 4 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างกรมศุลกากรตรวจสอบเรื่อง ส่วนรถ 2 คันดังกล่าว ไม่สามารถประเมินราคาได้และเพิ่งดำเนินการตรวจสอบ จึงจะดำเนินการตรวจสอบหลังจากตรวจสอบรถในรอบแรกเสร็จเรียนร้อยแล้ว

แล้วอย่างนี้หลวงตาช่วงแกยังจะอยากเป็นพระสังฆราชอีกหรือ

หรือว่าประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนาของชาติไทยจะได้พระสังฆราชต้องคดีมีรถหนีภาษีเป็นของแถม

ช่างน่าเลื่อมใสและเป็นต้นแบบที่เลิศของพระพุทธศาสนาและสังฆมณฑลนัก

หากเจ้าอาวาสวัดปากน้ำผู้นี้ได้เป็นพระสังฆราช พุทธบริษัทไทยคงได้เอาปี๊ปคุมหัวเดินกันบ้างล่ะ

พุทธะอิสระ