10 สถานที่มหัศจรรย์ที่สวยตะลึง จนต้องไปให้ได้สักครั้งก่อนตาย

ทะเลเกลือ แห่งนี้เป็นอีกหนึ่งสถานที่มหัศจรรย์บนโลกที่สามารถมองเห็นผืนฟ้ามาจรดกับผืนโลก คล้ายกระจกบานใหญ่ยักษ์ จนได้ชื่อว่า ทะเลเกลือฟ้าจรดฟ้า ทะเลเกลือที่ซาลาร์ เดอ อูยูนี ประเทศโบลิเวีย เป็นทะลเกลือที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีอาณาเขตกว้างถึง 10,582 ตารางกิโลเมตร ทำให้เราสามารถมองเห็นที่ราบสีขาวโพลนสุดอะเมซิ่งไปได้ไกลสุดลูกหูลูกตาเลยล่ะค่ะ

2. ที่ราบสวรรค์สร้าง หุบเขาสีรุ้ง มณฑลกานซู่ ประเทศจีน (ZHAGYE DANIA LANDFORM IN GANSU, CHAINA)

มหัศจรรย์ความงามเหมือนภาพวาด ของภูเขาสีรุ้ง ธรณีสันฐานที่สวยและแปลกตาที่สุดของจีน ซึ่งมีการสันนิษฐานว่าเป็นประติมากรรมทางธรรมชาติที่เกิดจากการตกตะกอนของหินทราย และแร่ชนิดต่างๆ อีกทั้งยังผ่านการขัดเกลาจากธรรมชาติทั้ง พายุ ลม ฝน แดด มากว่า 24 ล้านปี จึงทำให้มีรูปลักษณ์ที่โดดเด่น แปลกตา ชวนให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกไปเยี่ยมชมเป็นจำนวนมาก และปัจจุบันภูเขาสีรุ้งแห่งนี้ ได้ถูกขึ้นทะเบียนมรดกโลกแล้ว

3. ดินแดนลึกลับและงดงาม อนาโตเลีย ในคัปปาโดเกีย ประเทศตุรกี (ANCIENT REGION OF ANATOLIA IN CAPPADOCIA, TURKEY)

เมืองคัปปาโดเกีย เมืองที่ได้รับการประกาศจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก เพราะภูมิประเทศอันน่าอัศจรรย์ ที่เกิดจากภูเขาไฟที่ไหลออกปกคลุมไปทั่วพื้นที่ และเมื่อวันเวลาผ่านไป พายุ ลม ฝน ได้เป็นตัวแปรที่ก่อให้เกิดการแปรสภาพเป็นหุบเขาร่องลึก เนินเขา กรวยหินและเสารูปต่างๆที่งดงาม ซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมขึ้นบอลลูนเพื่อชมความลึกลับและงดงามของดินแดนแห่งนี้

4. ทุ่งดอกทิวลิป ประเทศเนเธอร์แลนด์ (Tulip fields in the Netherlands)

ทุ่งทิวลิปในเนอร์เธอร์แลนด์ได้ชื่อว่าเป็นทุ่งดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ซึ่งครอบคลุมพื้นที่หลายร้อยหลายพันไร่ด้วยกัน และหากมองจากภาพสูง จะรู้สึกเหมือนที่แปลงดอกทิวลิปนั้นเป็นพรมหลากสีสันสดใจ ตระการตามาก จึงไม่น่าแปลกใจ ที่ในแต่ละปี จะมีนักท่องเที่ยวไปเยี่ยมชมเป็นจำนวนมาก และนอกจากเนเธอร์แลนดจะแหล่งปลูกดอกไม้ที่ใหญ่แล้ว ยังเป็นแหล่งส่งออกอันดับหนึ่งของโลกด้วย

5. หุบเขาแอนทีโลพ ประเทศสหรัฐอเมริกา (Antelope Canyon)

หุบเขาแอนทีโลพ หรือ หุบเขาพิศวงแห่งนี้ เกิดจากการพังทลายของชั้นหิน Navajo sandstone ซึ่งถูกกัดเซาะจากกระแสน้ำที่ซัดผ่าน ผสานกับความแรงจากกระแสลม พายุ ฝน ผ่านฤดูกาลต่างๆ ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน จึงทำให้เกิดความสวยงามสุดประทับใจ ด้วยความคดเคี้ยว เว้าแหว่งไปตามซอกหน้าผา และสีสันของหุบเขาจะเปลี่ยนไปตามการหักเหของแสงในแต่ละฤดู แตกต่างกันไป และด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้หุบเขาแอนทีโลพเป็นอีกหนึ่งสถานที่ดึงดูดใจช่างภาพทั่วโลก ให้มาเก็บภาพความมหัศจรรย์ของธรรมชาติแห่งนี้

6. ทะเลดาว มัลดีฟ (SEA OF STARS ON VAADHOO ISLAND IN THE MALDIVES)

ยามค่ำคืนบนเกาะ Vaadhoo ของมัลดีฟ เราจะเห็นแสงสวยงามระยิบระยับตามแนวชายหาด คล้ายแสงดาวบนท้องฟ้า แท้จริงแล้วเป็นแสงจากแพลงก์ตอนทะเลที่เรืองแสงอยู่ใต้น้ำ ซึ่งทำให้เกิดแสงสีน้ำเงินสวย เป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจกับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนหมู่เกาะเป็นอย่างมาก

7. อุโมงค์แห่งความรักที่ยูเครน (TUNNEL OF LOVE IN KLEVAN, UKRAINE)

ทางรถไฟสุดมหัศจรรย์ ในเมือง Kelven ประเทศยูเครนนี้ เกิดขึ้นจากการรังสรรของธรรมชาติ ที่ต้นไม้สองข้างทางโอบเข้าหากัน และเว้นช่องว่างไว้สำหรับรถไฟ คล้ายกับลักษณะของอุโมงค์ได้อย่างเป็นระเบียบมหัศจรรย์ จนกลายเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจสุดโรแมนติก และได้รับความนิยมในหมู่คู่รัก ด้วยเชื่อว่า คู่รักใดมาอธิษฐานในอุโมงค์แห่งความรักนี้ คำอธิษฐานจะเป็นจริง

8. หาดไวท์ฮาเว่น ประเทศออสเตรเลีย (WHITEHAVEN BEACH AT WHITSUNDAY ISLAND IN AUSTRALIA)

หาดไวท์ฮาเว่น ในหมู่เกาะวิธซันเดย์อันโด่งดังของออสเตรเลีย เป็นหาดที่ติดอันดับหาดที่สวยที่สุดในโลก ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นหาดทรายที่ขาวที่สุด และเมล็ดทรายที่ตกผลึกซิลิการะยิบระยับถึง 98 เปอร์เซนต์ ซึ่งเชื่อกันว่าที่หาดสวยงามขนาดนี้ เพราะกระแสน้ำได้พัดพาทรายจากทะเลเข้าฝั่งเป็นเวลาหลายล้านปี อีกทั้งเม็ดทรายบนหาดแห่งนี้ยังเป็นทรายที่ไม่เก็บความร้อน ทำให้สามารถเดินเล่นได้ด้วยเท้าเปล่าอย่างสบาย

9. ทะเลสาบ 3 สี บนปล่องภูเขาไฟเคลิมูตู ประเทศอินโดนีเซีย (KELIMUTU CRATER LAKES IN FLORES ISLAND, INDONESIA)

ความพิเศษของภูเขาไฟคีลีมูตู คือ บนยอดของภูเขาจะมีทะเลสาบ 3 แห่ง แต่ละแห่งจะมีสีไม่เหมือนกัน โดยทะเลสาบแห่งแรกมีสีฟ้า เรียกว่า Lake of old people ด้วยเชื่อว่าเป็นที่อาศัยของดวงวิญญาณที่ล่วงลับไปแล้ว แห่งที่สองชื่อว่า Lake of Young Men and Maidens มีลักษณะเป็นสีเขียว และเชื่อกันว่าเป็นที่อยู่อาศัยของวิญญาณที่เสียชีวิตตั้งแต่ยังหนุ่มสาว และแห่งสุดท้าย คือ Enchanted Lake มีสีแดงกึ่งดำ และเชื่อว่าเป็นที่อยู่อาศัยของวิญญาณที่ทำความชั่ว

10. ทะเลสาบสีชมพู ประเทศออสเตรเลีย (Lake Hillier, Australia)

ในโลกของเรามักจะมีปรากฏการณ์อันน่าทึ่งมากมาย ซึ่งหนึ่งในสถานที่เหล่านั้นคือ เลคฮิลเลอร์ หรือทะเลสาบสีชมพู ในประเทศออสเตรเลีย สีชมพูนมเย็นของทะเลสาบแห่งนี้ มีสาเหตุมาจากน้ำทะเลที่มีความเค็มมาก และ แบคทีเรีย Dunaliella ซึ่งชอบอาศัยอยู่ในทะเลที่เค็มจัด โดยที่แบคทีเรียชนิดนี้จะผลิตสารสีแดงในการดูดซับแสงอาทิตย์ จึงทำให้น้ำในทะเลสาบแห่งนี้เป็นสีแดงอ่อนๆ และเมื่อต้องแสงแดด ก็จะกลายเป็นสีชมพูนมเย็นได้อย่างน่าทึ่งเลย