10 พฤติกรรมเมื่อคุณเบื่อแฟน!!
10 สัญญาณสำคัญที่เตือนว่าคุณต้องเติมความรักในหัวใจด่วน
คนเราถ้ารักกันไปนานๆ หรือเห็นนิสัยใจคอกันจนทะลุปรุโปร่ง ความรักที่เคยมีก็อาจจะค่อยๆ ลดหายไปโดยไม่รู้ตัว และคู่รักส่วนใหญ่ก็มักจะปากแข็ง ไม่ค่อยจะยอมรับว่าถึงเวลาที่เราต้องเรียกความรักความหลังกลับมาได้แล้ว ก่อนที่จะเสียกันและกันไป ถ้าคุณเริ่มสงสัยในสถานการณ์รักของตัวเอง ลองเช็คตัวเองดูสิว่าคุณมีอาการแบบนี้อยู่หรือเปล่า
1. ไม่อยากคุยโทรศัพท์เมื่อเขาอยู่ด้วย
เพราะเพื่อนมักจะรู้รายละเอียดในชีวิตของกันและกันยิ่งกว่าคนรักเสียอีก เวลาคุณเบื่อแฟน มีปัญหากับเขา หรือแอบไปชอบคนใหม่ๆ คนที่คุณจะระบายทุกอย่างให้ฟังก็คือเพื่อน ฉะนั้นถ้าความรักของคุณเริ่มพร่อง คุณจะไม่ชอบมากๆ หรืออาจหงุดหงิดเลยด้วยซ้ำไป ถ้าต้องคุยโทรศัพท์กับเพื่อนโดยมีเขาคะแคงหูฟังอยู่ด้วย เพราะเขาจะเป็นก้างขวางคอทำให้คุณปรับทุกข์ไม่สะดวก นินทาแฟนได้ไม่เต็มที่ สาวคนไหนรู้สึกแบบนี้ต้องถามใจตัวเองแล้วล่ะว่าความรักของคุณมีปัญหาตรงไหน แล้วรีบหาทางแก้ไขก่อนที่เรื่องเล็กจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ และเรื่องใหญ่จะกลายเป็นงานช้าง
2. ไม่อยากพาเขาไปพบหน้าครอบครัว
รวมทั้งไม่อยากไปเผชิญหน้ากับพี่ป้าน้าอา คนในครอบครัวของเขาด้วย เพราะผู้ใหญ่จะรู้สึกได้ถึงความผิดปกติทันทีที่ลูกหลานเย็นชาใส่กัน แถมผู้ใหญ่บางคนยังชอบถามคำถามชวนอึดอัด อย่างเช่นเมื่อไหร่จะมีลูกเสียที หรือเมื่อไรจะแต่งงานกัน บางคนก็อาจจะสั่งให้คุณ ทำสวีทหวานตักกับข้าวให้แฟน ให้พากันไปเดินเล่น พากันไปเที่ยว ถ้าไม่ทำตามก็จะถูกโวยวาย กลายเป็นเรื่องที่ต้องอธิบายกันยืดยาว คู่ที่ไม่ค่อยรักกันแล้วจึงกลัวการไปเจอผู้ใหญ่พอๆ กับกลัวเจ้าหนี้เพราะมีแต่เสียกัยเสีย
3. โกหกคนรักบ่อยๆ
นับดูซิว่าเดือนนี้คุณโกหกเขาไปกี่ครั้งแล้ว คนที่ยังรักกันจนล้นใจมักจะเปิดเผยทุกอย่างต่อกัน จะไปไหนก็โทรรายงาน แฟนถามอะไรก็กล้าตอบ ไม่กลัวที่จะบอกความจริงว่ากำลังทำอะไรอยู่ เพราะความคิดที่จะทำผิดต่อเขา มันไม่มีในสมองอยู่แล้ว แต่เมื่อไรที่ความรักจางลง ความเบื่อขี้หน้ากันจะทำให้คุณเริ่มไม่พูดความจริงกับเขา แรกๆ ก็อาจแค่โกหกว่างานยุ่ง จะได้ไม่ต้องไปเดท ไม่ต้องอยู่บ้านกับเขา พอรอยร้าวขยายใหญ่ขึ้น คุณก็จะเริ่มยกเรื่องนั้นเรื่องนี้มาอ้างเพื่อให้ไม่ต้องทะเลาะกัน และสุดท้ายเมื่อไรที่เริ่มมีคนใหม่ ก็ถึงเวลาที่คุณจะกลายเป็นนักโกหกตัวแม่ สตรอเบอรี่เต็มสูบ เพราะต้องปั้นน้ำเป็นตัวสารพัดเรื่อง ไหนจะสับรางไปอยู่กับกิ๊ก ต้องโกหกว่าทำไมถึงแต่งตัวสวยขึ้น แหวนวงนี้ใครให้มา โกหกว่ายังรักเขา
โกหกว่าเพื่อนโทรมาตาม โกหก..โกหก..และโกหก
4. ลืมว่ามีเขาอยู่ข้างๆ
เมื่อก่อนการได้อยู่เคียงข้างเขาอาจจะคยเป็นความสุขของคุณ สายตาคุณจะมองหาเขาตลอดเวลา คิดถึงความสุข ความต้องการของเขา เช่น ถ้าหยิบเส้อขึ้นมาตัวหนึ่ง คุณจะหันไปถามความเห็นคนรักก่อนว่าเขาจะชอบไหม คิดว่าถ้าคุณใส่แล้วจะสวยหรือเปล่า นั่นคือโมเม้นต์ที่คนเรารักกัน แต่ถ้าความรักลดลง คุณจะคิดถึงเขาน้อยลงและเปลี่ยนมาคิดถึงแต่ความสุขสบาย ความต้องการของตัวเองมากขึ้น เวลาไปไหนจิตใจที่เคยจดจ่ออยู่ที่คนรักจะกลับมาจดจ่ออยู่ที่ตัวเองว่าเราอยากทำอะไร อยากดูอะไร ถ้าหยิบเสื้อขึ้นมาคุณจะถามแต่ตัวเองคนเดียวว่าเราชอบหรือเปล่า โดยไม่สนใจว่าคนรักจะรู้สึกอย่างไร บางคนอาจจะเพลิดเพลินกับตัวเองมากจนลืมคนรักทิ้งไว้ในผับหรือในร้านอาหาร แล้วขับรถกลับบ้านไปหน้าตาเฉยก็ยังมี นี่ล่ะคือหัวใจที่ต้องรีบเติมความรักให้เต็มเหมือนเดิม ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป
5. ไม่อยากพาเขาไปพบเพื่อนๆ
นาทีที่ได้อยู่กับเพื่อนคือเวลาที่คุณจะได้สนุก ได้ปลดปล่อยความเป็นตัวเอง มันจึงเป็นเวลาที่เสี่ยงมากต่อการหลุดความในใจอะไรออกไป และการเอาเขาออกงานโดยที่ต่างคนต่างบึ้ง
หรือต่างคนต่างคุยกับคนอื่น จะทำให้คุณกลายเป็นเป้านินทาของเพื่อนได้ง่ายๆ ถ้าไม่ใช่คนที่เล่นละครหลอกคนดูได้เนียนสุดขีด สามารถสร้างภาพว่าเรายังรักกันได้ขั้นเทพ ก็คงไม่มีใครยอมเสี่ยง
6. คุณรำคาญแม้คำพูดเล็กๆ น้อยๆ ของเขา
คนที่รักกันมักจะไม่โมโหกันง่ายๆ แต่กับคนที่เรากำลังเบื่อ หมั่นไส้ อคติ อยากให้หลุดลอยหายไปจากชีวิต ไม่ว่าจะพูดอะไรก็มีเรื่องให้ผิดหูไปเสียหมด ถ้าคุณมีอาการอย่างนี้เวลานั่งคุยกับแฟน แต่กลับหัวเราะเฮฮาอารมณ์ดีเวลาเม้าท์กับคนอื่น คุณสาวๆ ต้องรีบหยุดพิจารณาตัวเองแล้วล่ะว่าแฟนคุณพูดอะไรชวนโมโหขนาดนั้นเลยหรือ หรือคุณคบอยู่กับเขามานานจนกลายเป็นความเคยชินเลยไม่คิดจะรักษาน้ำใจกันอีกแล้ว
7. เขาไม่อยู่คือความสุข
ผู้หญิงคนหนึ่งที่เคยติกแฟนมากๆ กลับโล่งใจสบายใจที่แฟนของเธอจะไปเยี่ยมพ่อแม่ที่ต่างจังหวัดในช่วงวันหยุดยาวนี้ ที่จริงเขาชวนเธอไปด้วย แต่เธอแกล้งทำเป็นไม่สบายเดินทางไม่ไหว คืนก่อนที่แฟนจะไป เธอก็แอบวางแผนไว้ในใจเรียบร้อยแล้วว่าช่วงที่เขาไม่อยู่ เธอจะไปนวดตัวในสปา ไปดูหนังช็อปปิ้งกับเพื่อนๆ ส่วนเสาร์อาทิตย์เธอจะนอนดูซีรี่ย์เกาหลีอยู่กับบ้าน ทั้งๆ ที่ต้องอยู่คนเดียว แต่เธอก็ไม่เหงา กลับอยากให้แฟนยืดเวลาเดินทางให้นานออกไปอีกด้วยซ้ำ คนที่มีอาการแบบนี้ แสดงว่าคุณไม่นับรวมคนรักให้เป็นความสุขอย่างหนึ่งของชีวิตอีกต่อไปแล้ว ที่จริงเขาจะกลับมาหรือเปล่า คุณก็ไม่แคร์
8. ไม่อยากเห็นความหลัง
บรรดาข้าวของแห่งความทรงจำที่คุณเคยซึ้งทุกครั้งเมื่อหยิบขึ้นมาดู ไม่ว่าจะเป็นตั๋วรถเมล์ในวันที่เดทกัน สร้อย แหวน กำไล ที่เขาให้ในวันเกิด รูปถ่าย การ์ด อยู่ดีๆ ก็กลายเป็นความเสล่อเป๋อ เป็นของรกๆ ที่คุณอยากเก็บใส่ลิ้นชัก แถมยังหงุดหงิดถ้าบังเอิญเหลือบไปเห็นมันอีกด้วย อาการแบบนี้ตีความเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจากคุณจะเลิกอินเลิฟกับเขาแล้วและคุณก็รู้ตัวดี คุณถึงได้รู้สึกผิดแล้วก็พาลอารมณ์ไม่ดีเวลาได้เห็นของที่เตือนใจให้คิดถึงวันที่คุณกับเขายังรักกันดีอยู่
9. ไม่ชอบฟังเรื่องของเขา
เคยเป็นไหม เวลาคนรักเล่าว่าวันนี้เขาไปเจออะไรมา คุณก็เปลี่ยนหัวข้อเป็นเรื่องอื่นซะเฉยๆ เวลาเขาเอาปัญหาส่วนตัวมาเล่าให้ฟัง คุณกลับคิดไปว่าละครน้ำเน่าเรื่องโปรดกำลังจะมา ความเบื่อรำคาญไม่อยากร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเขาจะเกิดขึ้นทันที เมื่อคุณไม่รู้สึกว่าอยากจะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผู้ชายคนนี้แล้ว คุณอยากปลีกตัวออกมา ไม่อยากให้เขาเอาปัญหามาให้คุณช่วยแก้ ไม่อยากต้องคอยปลอบใจในเรื่องที่คุณคิดว่ามันไร้สาระ น่าเบื่อ น่ารำคาญ หรือพูดง่ายๆ ว่าคุณกำลังรักตัวเองมากกว่ารักเขานั่นเอง ความรู้สึกห่างเหินแบบนี้จะไม่มีเลยถ้าคนสองคนรักกัน เพราะคนเป็นแฟนตามปกติจะอยากรู้อยากเห็นเรื่องในชีวิตประจำวันของอีกฝ่าย อย่างน้อยๆ ก็เพื่อเช็คว่าจะมีใครเข้ามาเป็นมือที่สามหรือเปล่า หรือมีใครจะมาชวนแฟนตัวเองให้เป๋ออกนอกลู่นอกทางไหม
10. ไม่อยากมีเซ็กซ์กับเขา
อาการนี้มักจะเกิดกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชายเพราะผู้หญิงถือว่าเซ็กซ์จะมาได้ ความรักต้องมีก่อน สาวๆ ส่วนใหญ่จึงยอมมีเพศสัมพันธ์กับคนที่ตัวเองรักเท่านั้น เมื่อไรที่หมดรัก แค่เขาเข้ามากอดคุณยังอยากสะบัดหนีด้วยซ้ำไป
ขอขอบคุณเนื้อหาจาก anyapedia.com