มีคนเคยบอกว่า การกินกล้วยจำนวนมากในครั้งเดียวเป็นอันตราย หรือแม้กระทั่งเคยได้รับคำแนะนำมาว่า การกินกล้วยเกินกว่า 6 ผลในมื้อเดียวนั้นสามารถที่จะฆ่าคุณได้ คุณคิดว่ามันเป็นจริงมั้ย?
กล้วยเป็นหนึ่งในผลไม้ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก ซึ่งคุณค่าทางโภชนาการของมันอัดแน่นไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ ในรูปลักษณ์ที่ดูดีของกล้วย ทำไมคุณถึงคิดว่ามันจะเป็นอันตราย?
มันจะเป็นความจริง เนื่องด้วยระดับโพสแทสเซียมสูงหากคุณรับประทานกล้วยเกินกว่า 6 ผล แล้วทำไมโพสแทสเซียมถึงอันตราย? หลายคนคงตั้งคำถามต่อ “ที่จริงแล้ว มันเป็นเรื่องของความอยู่รอด ซึ่งเราก็สามารถพบโพสแทสเซียมได้ในเซลล์ภายในร่างกาย” Catherine Collins นักโภชนาการที่โรงพยาบาลเซนต์จอร์จในกรุงลอนดอนกล่าว
ร่างกายของเราจะใช้โพแทสเซียมในเรื่องของกระแสไฟฟ้าที่ช่วยให้เซลล์ทำงานได้อย่างถูกต้อง ซึ่งมันจะช่วยให้อัตราการเต้นของหัวใจสม่ำเสมอและต่อเนื่อง อีกทั้งยังช่วยในเรื่องของการหลั่งอินซูลินจากตับอ่อนเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด รวมไปถึงมีความสำคัญในการควบคุมความดันโลหิต
ในทางกลับกัน หากระดับน้ำตาลในเลือดต่ำเกินไปหรือสูงเกินไปก็สามารถทำให้หัวใจเต้นผิดปกติ มีอาการวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ และท้องเสีย โดย “โพแทสเซียมคลอไรด์ (Potassium chloride)” เป็นหนึ่งในสารเคมีอันตรายในสหรัฐอเมริกา ซึ่งปริมาณที่สูงๆ อาจทำให้เกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นได้
แต่สำหรับคนที่สุขภาพดี “มันอาจจะเป็นไปได้ยากที่จะการรับประทานกล้วยมากๆ จะเป็นอันตราย” คอลลินกล่าว “คุณอาจจะต้องการกล้วยกว่า 40 ผลที่จะทำให้ระดับของโพแทสเซียมสูงถึงขนาดที่ทำให้หัวใจหยุดเต้นได้” กล้วยไม่ได้อันตราย และในความจริงแล้วมันอาจจะดีมากสำหรับคนมรารับประทาน
ผู้ใหญ่ควรรับประทานโพแทสเซียมประมาณ 3,500 มิลลิกรัมต่อวันตามคำแนะนำของ UK's National Health Service โดยกล้วยนั้นมีน้ำหนักเฉลี่ย 125 กรัม หรือมีโพแทสเซียมประมาณ 450 มิลลิกรัม หมายความว่า คนที่มีสุขภาพดีสามารถรับประทานได้ถึง 7 ผลครึ่งซึ่งก็ยังไม่ถึงระดับแนะนำของการรับประทานโพสแทสเซียมต่อวันเสียด้วยซ้ำ
แต่ก็อาจมีบางคนที่ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีโพแทสเซียมสูงซึ่งได้แก่ ผู้ป่วยโรคไต คอลลินเตือน
“ผู้ป่วยโรคไตจะมีการทำงานของไตที่ด้อยประสิทธิภาพ ซึ่งคนไข้ที่เป็นโรคไตจะมีระดับที่เป็นอันตรายของโพแทสเซียมในกระแสเลือด เนื่องจากพวกเขามีการขับโพแทสเซียมทางปัสสาวะได้ต่ำ” คอลลินกล่าว “ดังนั้นในทางทฤษฎี มันเป็นไปได้ที่ผู้ป่วยโรคไตจะเสียชีวิตจากระดับโพแทสเซียมในเลือดสูง หากพวกเขารับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุนี้จำนวนมาก”
เธอเคยมีคนไข้ที่ต้องฟอกไตที่มีอาการหัวใจวายหลังจากที่รับประทานมะเขือเทศมากเกินไป ซึ่งมะเขือเทศเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยโพแทสเซียม เป็นผลให้ไตของเขาหยุดการทำงานเนื่องจากไม่สามารถกำจัดโพแทสเซียมส่วนเกินออกไปได้
สิ่งที่อาจต้องเป็นกังวลอีกอย่างหนึ่งของกล้วยคือ รังสี
เช่นเดียวกับอาหารหลายๆ อย่าง กล้วยตามธรรมชาติจะมีไอโซโทปกัมมันตรังสี ที่เพียงพอสำหรับกระตุ้นให้หน่วยงานการวิเคราะห์การคุกคามทางนิวเคลียร์เรียกร้องให้นำอุปกรณ์ตรวจจับที่ใช้ในท่าเรือสหรัฐมาใช้ตรวจสอบการลักลอบขนวัสดุนิวเคลียร์ได้
กล้วยมีปริมาณของรังสีที่ 0.1 microsieverts ซึ่งโดยทั่วไป การทำ CT scan ในโรงพยาบาลจะใช้ปริมาณรังสีในการถ่ายภาพอวัยวะต่างๆ ที่ระดับ 10-15 millisieverts – ประมาณได้มากกว่า 100,000 ครั้งเมื่อเทียบกับรังสีในกล้วย
*** 1 millisieverts = 1,000 microsieverts
“ระดับของรังสีในกล้วยมีเพียงเล็กน้อย” คอลลินกล่าว และ “กล้วยไม่ได้มีรังสีมากเช่นถั่วบราซิล (Brazil nut) และเราจะปลอดภัยหากรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ”